ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




คดีล้มละลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้า, เหตุสุดวิสัยในการยื่นคำร้อง, การขยายเวลายื่นคำขอของเจ้าหนี้

ท นาย อาสา ฟรี

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์ 

คดีล้มละลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้า, เหตุสุดวิสัยในการยื่นคำร้อง, การขยายเวลายื่นคำขอของเจ้าหนี้

ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเกินสองเดือนแล้วต่อมาผู้ร้องเป็นชาวต่างประเทศยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อศาลล้มละลายกลางและศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่อนุญาตให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เนื่องจากพ้นกำหนดเวลา ศาลฎีกาพิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษากรณีเป็นเหตุสุดวิสัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2567

ผู้ร้องเป็นชาวต่างประเทศมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักร ไม่มีตัวแทนในประเทศไทย ช่วงเวลาที่กำหนดให้เจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย นับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดได้ ทั้งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย ผู้ร้องก็ได้รีบดำเนินการมอบอำนาจให้ อ. ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทันที กรณีจึงมีเหตุอันสมควรที่จะให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้

 

 

*คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562

*ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้

*เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำแถลงไม่คัดค้าน แต่ผู้ร้องมีหน้าที่ต้องแสดงให้เห็นว่า กรณีมีเหตุสุดวิสัยไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันภายในกำหนดเวลา

*ศาลล้มละลายกลางไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

*ผู้ร้องอุทธรณ์

*ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

*ผู้ร้องฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

*ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 และนำออกเผยแพร่ให้แก่สมาชิกที่ได้รับด้วยตนเองเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 วันดังกล่าวจึงเป็นวันที่มีการเผยแพร่หนังสือออกไปยังสาธารณชน และเจ้าหนี้ทั้งหลายต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันดังกล่าว จึงครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ 1 ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดภูเก็ต คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ 1075/2555 ประสงค์ขอยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าหนี้ไม่มีประกัน เป็นเงิน 54,109,238.56 บาท โดยได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ผู้ร้องมีเชื้อชาติและสัญชาติรัสเซีย ภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรที่ประเทศรัสเซีย

*ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องมีว่า มีเหตุที่จะอนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91/1 หรือไม่ เห็นว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 และนำออกเผยแพร่ให้แก่สมาชิกที่ได้รับด้วยตนเองเป็นครั้งแรกวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ร้องมีเชื้อชาติและสัญชาติรัสเซียมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง ตอนท้ายให้อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะขยายกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ที่อยู่นอกราชอาณาจักรได้อีกไม่เกิน 2 เดือน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 รัฐบาลออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) กำหนดให้ปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดต่อโรค งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัดโดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เป็นเหตุให้ผู้ร้องไม่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ และแม้ว่าผู้ร้องได้แต่งตั้งนายธำรงเป็นผู้รับมอบอำนาจในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ 1075/2555 ของศาลจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 15 และ 16 พฤศจิกายน 2555 ก็ตาม แต่ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องแต่งตั้งนายธำรงให้มีอำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้แทนผู้ร้องในคดีล้มละลายนี้ด้วย นายธำรงจึงไม่มีอำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้แทนผู้ร้องรวมตลอดถึงตรวจสอบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาด คงมีอำนาจดำเนินการแทนผู้ร้องเฉพาะในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ 1075/2555 ของศาลจังหวัดภูเก็ตเพื่อการบังคับคดีเท่านั้น ผู้ร้องเพิ่งแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์เป็นผู้รับมอบอำนาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีนี้เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 อันเป็นเวลาภายหลังจากที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพ้นกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้แล้ว เมื่อผู้ร้องเป็นชาวต่างประเทศมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักร ไม่มีตัวแทนในประเทศไทย ประกอบกับช่วงเวลาที่กำหนดให้เจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย นับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดได้ ทั้งเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มคลี่คลาย ผู้ร้องก็ได้รีบดำเนินการมอบอำนาจให้นายอภิสิทธิ์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทันที กรณีจึงมีเหตุอันสมควรที่จะให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องของผู้ร้องมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น

*พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน 2 เดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกานี้ให้คู่ความฟัง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

•  คำพิพากษาศาลฎีกา 275/2567

•  กฎหมายล้มละลาย มาตรา 91

•  ยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้า

•  เหตุสุดวิสัยในการยื่นคำร้อง

•  การขยายเวลายื่นคำขอของเจ้าหนี้

•  สถานการณ์ COVID-19 กับกฎหมายล้มละลาย

•  เจ้าหนี้นอกราชอาณาจักร ยื่นคำร้อง

•  ศาลล้มละลายกลาง คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์

•  มาตรา 91/1 กฎหมายล้มละลาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2567 (ย่อ)

ผู้ร้องเป็นชาวรัสเซีย มีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรและไม่มีตัวแทนในประเทศไทย ช่วงเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ตรงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด 2 เดือน หลังโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสอง โดยเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ผู้ร้องได้รีบแต่งตั้งตัวแทนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ทันที

คดีนี้เริ่มจากคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2562 โดยโฆษณาในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 และครบกำหนดยื่นคำขอรับชำระหนี้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ร้องยื่นคำขอในวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ศาลล้มละลายกลางและศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษไม่อนุญาตให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เนื่องจากพ้นกำหนดเวลา ผู้ร้องจึงฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้ผู้ร้องไม่สามารถดำเนินการยื่นคำขอได้ทัน แม้ผู้ร้องจะแต่งตั้งตัวแทนในคดีอื่น แต่ตัวแทนดังกล่าวไม่มีอำนาจยื่นคำขอในคดีล้มละลายนี้ เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ผู้ร้องได้แต่งตั้งตัวแทนยื่นคำขอโดยทันที จึงถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยและมีเหตุอันสมควร

ศาลฎีกาพิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษา ค่าฤชาธรรมเนียมในทุกศาลให้เป็นพับ

หลักกฎหมายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 และมาตรา 91/1

เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจคำพิพากษาในบทความข้างต้นได้ดียิ่งขึ้น จะอธิบายหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 91 และ 91/1 ดังนี้:

มาตรา 91

เนื้อหาสำคัญ:

มาตรา 91 กำหนดให้เจ้าหนี้ทั้งหลายต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันที่โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ในราชกิจจานุเบกษา หากเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจขยายเวลาการยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้อีกไม่เกิน 2 เดือน

การตีความ:

•หลักทั่วไป: กฎหมายให้ระยะเวลาเพียงพอสำหรับเจ้าหนี้ที่ประสงค์ขอรับชำระหนี้ โดยให้โอกาสเจ้าหนี้ทั้งในและนอกราชอาณาจักรได้ดำเนินการ

•กรณีเจ้าหนี้นอกราชอาณาจักร: หากเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร สามารถขอขยายเวลาได้ แต่ต้องดำเนินการตามกำหนดและข้อกำหนดในกฎหมาย

มาตรา 91/1

เนื้อหาสำคัญ:

มาตรา 91/1 เปิดโอกาสให้เจ้าหนี้ที่ไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันกำหนดเวลา ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้าได้ หากมีเหตุผลที่เพียงพอและสมควร เช่น เหตุสุดวิสัย หรือเหตุการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเจ้าหนี้

การตีความ:

•หลักความยุติธรรม: มาตรานี้มีเจตนาเพื่อความยุติธรรม โดยคำนึงถึงสถานการณ์ที่เจ้าหนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดเวลา เช่น การป่วยหนัก เหตุสุดวิสัย หรือสถานการณ์ฉุกเฉิน

•เหตุสุดวิสัย: การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในกรณีคำพิพากษานี้ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของผู้ร้อง

การเชื่อมโยงกับบทความ

ในคำพิพากษา ผู้ร้องเป็นชาวต่างชาติที่ไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันเวลา เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งถือเป็นเหตุสุดวิสัย ผู้ร้องใช้สิทธิตามมาตรา 91/1 ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้า โดยศาลฎีกาเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาต

ข้อสรุป:

มาตรา 91 และ 91/1 สะท้อนถึงหลักการที่กฎหมายล้มละลายพยายามรักษาสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้กับการจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีนี้ ศาลฎีกาได้ใช้หลักการในมาตรา 91/1 เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลาเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

ในกระบวนการล้มละลายของประเทศไทย กฎหมายกำหนดให้เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้การจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

ระยะเวลาการยื่นคำขอรับชำระหนี้

ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า:

"เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในกำหนดเวลาสองเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด..."

นอกจากนี้ หากเจ้าหนี้อยู่นอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจขยายกำหนดเวลาให้อีกไม่เกินสองเดือน

การยื่นคำขอรับชำระหนี้ล่าช้าเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

ในกรณีที่เจ้าหนี้ไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันภายในกำหนดเวลาเนื่องจากเหตุสุดวิสัย พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91/1 ได้กำหนดไว้ว่า:

"ถ้าเจ้าหนี้ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ให้เจ้าหนี้มีคำขอโดยทำเป็นคำร้องยื่นต่อศาลว่าเจ้าหนี้ประสงค์จะยื่นคำขอรับชำระหนี้และแสดงถึงเหตุสุดวิสัยที่ตนไม่อาจยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันภายในกำหนดเวลา เมื่อศาลเห็นว่ากรณีเป็นเหตุสุดวิสัยและมีเหตุผลอันสมควรที่จะให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้รายนั้นยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด..."

ความหมายของ "เหตุสุดวิสัย"

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8:

"เหตุสุดวิสัย หมายความว่า เหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นก็ดี จะให้ผลพิบัติก็ดี เป็นเหตุที่ไม่อาจป้องกันได้ แม้ทั้งบุคคลผู้ต้องประสบหรือใกล้จะต้องประสบเหตุนั้นจะได้จัดการระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้น"

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2509: ศาลพิจารณาว่า "เหตุสุดวิสัย" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หมายถึงเหตุที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาหรือคู่ความมีคำขอเช่นนั้นขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายให้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่งได้ มิได้หมายถึงว่า 'พฤติการณ์พิเศษที่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาไม่อาจกระทำได้ภายในกำหนดนั้นต้องเป็นเหตุสุดวิสัย' เหตุสุดวิสัยตามมาตรา 23 จึงไม่จำต้องเป็นเหตุอันเกิดจากภัยธรรมชาติซึ่งไม่มีใครอาจป้องกันได้ตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 8 หากมีพฤติการณ์นอกเหนือที่ศาลไม่อาจมีคำสั่งขยายเวลาให้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ในการดำเนินกระบวนพิจารณา ย่อมนับได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย"

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2534: ศาลวินิจฉัยว่า "เหตุสุดวิสัยหมายถึงเหตุใด ๆ อันจะเกิดขึ้นหรือให้ผลพิบัติโดยไม่มีใครจะอาจป้องกันได้ แม้ทั้งผู้ต้องประสบหรือใกล้จะต้องประสบเหตุนั้นจะได้จัดการระมัดระวังตามสมควรอันพึงคาดหมายได้จากบุคคลในฐานะและภาวะเช่นนั้น"

3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10285/2557: กรณีที่ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้มอบหมายให้ตัวแทนนำเงินไปชำระแก่กรมบังคับคดี แต่ตัวแทนยักยอกเงินไป ศาลพิจารณาว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

4.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2567: ผู้ร้องเป็นชาวต่างประเทศ มีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักร ไม่มีตัวแทนในประเทศไทย ช่วงเวลาที่กำหนดให้เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ศาลพิจารณาว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ผู้ร้องไม่สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ทันเวลา

สรุป

กฎหมายล้มละลายของไทยกำหนดระยะเวลาที่เจ้าหนี้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์




เกี่ยวกับคดีล้มละลาย

หนี้ค่าใช้จ่ายส่วนกลางอาคารชุด, สิทธิบุริมสิทธิของนิติบุคคลอาคารชุด, การจัดลำดับเจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย
ขาดนัดพิจารณา ผลทางกฎหมาย, ศาลล้มละลาย พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด, การพิจารณาคดีล้มละลายผ่านอิเล็กทรอนิกส์
สิทธิตามสัญญาที่ลูกหนี้จะพึงได้รับมีภาระเกินควรกว่าประโยชน์ที่จะพึงได้
หนี้สินล้นพ้นตัว, ฟ้องล้มละลายบุคคลธรรมดาหนี้สองล้านบาท, คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด,
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย, ขั้นตอนการพิสูจน์หนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
การฟื้นฟูกิจการ, แผนฟื้นฟูกิจการล้มละลาย, การยกเลิกฟื้นฟูกิจการ,
เจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีแพ่งก่อน, การพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็กขาด
การแก้ไขคำขอรับชำระหนี้, เจ้าหนี้มีประกันและไม่มีประกัน
ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดที่ดินในคดีล้มละลาย, ข้อกำหนดการตรวจสอบทรัพย์สินก่อนประมูล
ความผิดทางกฎหมายในการปกปิดสถานะล้มละลายห,ข้อกำหนดการแจ้งสถานะล้มละลายก่อนขอสินเชื่อ
อายุความสะดุดหยุดลงเมื่อเจ้าหนี้ได้ฟ้องคดีเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง
มิได้มุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น
สิทธิเหนือทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน
ลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์ถูกฟ้องให้ส่งมอบรถยนต์
เจ้าหนี้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ก่อนเจ้าหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
สิทธิได้รับชำระหนี้ของเจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย
ผลของการปลดจากล้มล้มละลาย | หนี้สินก่อนล้มละลาย
ผลของการประนอมหนี้ในคดีล้มละลาย
ลูกหนี้โอนทรัพย์สิน | ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่น
การปฏิบัติงานบังคับคดีล้มละลายของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
สั่งจ่ายเช็คหลังคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์มีผลอย่างไร?
การฟ้องคดีล้มละลาย จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว
นำมูลหนี้เดิมมาฟ้องล้มละลายใหม่ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
จำเลยได้รับการปลดจากล้มละลายแล้วหลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวง
ลูกหนี้ไม่หลุดพ้นจากหนี้สินทั้งปวง
หน้าที่เสียภาษีเงินได้จากการขายทอดตลาด
คำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
หลุดพ้นจากหนี้ทั้งปวงอันพึงขอรับชำระได้
คำฟ้องโจทก์ในคดีล้มละลายไม่ชอบ
เจ้าหนี้มีประกันในคดีล้มละลาย
ขายทอดตลาดทรัพย์หลักประกัน | เจ้าหนี้มีประกัน
กองทรัพย์สินของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย