
(ฎีกาที่ 3670/2567) การขยายระยะเวลาอุทธรณ์เพื่อความเป็นธรรม และอำนาจทั่วไปของศาล ![]()
ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์
บทนำ คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ แม้เหตุผลของโจทก์ไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แต่ศาลเห็นว่าหากไม่อนุญาตอาจทำให้เสียความเป็นธรรม จึงใช้อำนาจทั่วไปของศาลในการขยายเวลาให้ ถือเป็นแนวทางสำคัญที่สะท้อนอำนาจดุลพินิจของศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิในการอุทธรณ์และหลักความยุติธรรม
สรุปข้อเท็จจริงของคดี • โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงิน 550,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี • ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระ 280,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามอัตรากฎหมาย และค่าฤชาธรรมเนียม • โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายเวลายื่นอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต • โจทก์อุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาต ส่วนจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษา • ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ อนุญาตให้ขยายเวลาอุทธรณ์แก่โจทก์ 1 เดือน • จำเลยฎีกา อ้างว่าการขยายเวลาดังกล่าวขัดต่อมาตรา 23 เพราะไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ
คำวินิจฉัยของศาลฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า • มาตรา 23 ป.วิ.พ. บัญญัติว่า การขยายเวลาอุทธรณ์ต้องอาศัยพฤติการณ์พิเศษ • แม้คำร้องของโจทก์จะอ้างเหตุผลส่วนตัวซึ่งไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ แต่ศาลมีอำนาจทั่วไปในการใช้ดุลพินิจเพื่อคุ้มครองสิทธิในการอุทธรณ์ • เนื่องจากโจทก์ยังแสดงเจตนาประสงค์อุทธรณ์ และไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ประวิงคดี หากไม่อนุญาตอาจเสียความเป็นธรรม • ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงชอบแล้วที่ขยายระยะเวลาให้ ศาลฎีกาพิพากษายืน ให้ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้เป็นพับ
วิเคราะห์ประเด็นทางกฎหมาย 1. อำนาจทั่วไปของศาล แม้ ป.วิ.พ. มาตรา 23 จะกำหนดเงื่อนไข “พฤติการณ์พิเศษ” ไว้เป็นหลัก แต่ศาลฎีกาวางแนวว่า ศาลมี อำนาจทั่วไป (Inherent Power) ในการสั่งการเพื่อประกันความเป็นธรรมได้ ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานของวิธีพิจารณาความแพ่ง 2. ความสำคัญของสิทธิในการอุทธรณ์ สิทธิในการอุทธรณ์เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคู่ความ ศาลจึงควรตีความเพื่อคุ้มครองสิทธินี้ หากคู่ความแสดงเจตนาอุทธรณ์อย่างจริงใจและไม่ใช่การประวิงคดี 3. การตีความมาตรา 23 มาตรา 23 กำหนดกรอบกฎหมาย แต่ศาลฎีกาขยายขอบเขตด้วยแนวทางว่าศาลสามารถใช้อำนาจทั่วไปประกอบการตีความ เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่เป็นธรรม 4. แนวทางปฏิบัติ แนวทางนี้ทำให้ศาลล่างสามารถยืดหยุ่นได้ในการพิจารณาคำร้องขยายเวลา แม้เหตุผลไม่เข้าเงื่อนไข “พฤติการณ์พิเศษ” ก็ตาม
สรุปข้อคิดทางกฎหมาย คำพิพากษานี้ตอกย้ำหลักการสำคัญว่า อำนาจทั่วไปของศาล มีบทบาทสำคัญในการประกันความเป็นธรรม แม้กฎหมายจะมีข้อกำหนดเฉพาะก็ตาม ศาลสามารถใช้ดุลพินิจเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น สิทธิในการอุทธรณ์ได้อย่างเหมาะสม
IRAC Analysis Issue (ประเด็นปัญหา) ศาลอุทธรณ์มีอำนาจขยายเวลาให้อุทธรณ์แก่โจทก์ แม้เหตุผลที่ยกขึ้นไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามมาตรา 23 ป.วิ.พ. หรือไม่ Rule (บทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง) • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23: การขยายเวลาอุทธรณ์ต้องอาศัยพฤติการณ์พิเศษ • หลักอำนาจทั่วไปของศาล (Inherent Power): ศาลมีอำนาจดำเนินการเพื่อรักษาความยุติธรรม Application (การประยุกต์ใช้) • แม้โจทก์อ้างเหตุผลส่วนตัว ไม่เข้าเงื่อนไขพฤติการณ์พิเศษ แต่ศาลพิจารณาว่าโจทก์ยังมีเจตนาอุทธรณ์ ไม่ใช่การประวิงคดี หากไม่อนุญาตอาจเป็นการตัดสิทธิ • ดังนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 3 จึงใช้อำนาจทั่วไปในการขยายเวลา ถือว่าชอบแล้ว Conclusion (ข้อสรุป) ศาลฎีกาวินิจฉัยยืนว่า ศาลอุทธรณ์มีอำนาจทั่วไปที่จะขยายเวลาอุทธรณ์เพื่อความเป็นธรรม แม้เหตุผลจะไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามมาตรา 23 ป.วิ.พ.
English Summary The Supreme Court Decision No. 3670/2567 concerns the extension of time to appeal in civil procedure. Although the plaintiff’s request did not cite “special circumstances” under Section 23 of the Civil Procedure Code, the Court ruled that inherent judicial power allows extensions to ensure fairness. This case highlights the balance between strict statutory interpretation and the court’s discretion to protect the right to appeal.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3670/2567
แม้ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์จะอ้างเหตุผลอันไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 23 บัญญัติไว้ แต่เมื่อศาลเห็นว่า หากไม่ขยายให้แล้วอาจเสียความเป็นธรรมไป ศาลย่อมมีอำนาจทั่ว ๆ ไปที่จะขยายเวลาให้ได้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอันเป็นเรื่องการใช้อำนาจที่มีอยู่ทั่วไปของศาล และเมื่อศาลเห็นควรขยายเวลาให้แล้วก็มีอำนาจกำหนดเวลาที่ขยายให้ได้อันเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไปเช่นกัน โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 550,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 280,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ใช้แทนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี และสำหรับค่าขึ้นศาลที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีโดยได้รับยกเว้นนั้น ให้จำเลยนำมาชำระต่อศาลในนามโจทก์ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก โจทก์ขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไม่อนุญาต โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง จำเลยอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับว่า อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 นี้ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ในส่วนของโจทก์ให้เป็นพับ จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้แก่โจทก์ 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ชอบหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า เหตุผลตามคำร้องขอขยายเวลาของโจทก์เป็นการอ้างเหตุผลอันเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ หากศาลจะมีคำสั่งให้ขยายเวลาจะต้องมีกฎหมายรองรับทดแทนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 และอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้ขอให้ขยายเวลาเป็นเวลาเท่าใด จึงฟังไม่ขึ้น นั้น เห็นว่า การขอขยายระยะเวลา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 จะต้องมีพฤติการณ์พิเศษ อย่างไรก็ตาม แม้ตามคำร้องขอขยายระยะเวลาของโจทก์จะอ้างเหตุผลและเรื่องส่วนตัวของโจทก์อันไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 บัญญัติไว้ก็ตาม แต่เมื่อศาลเห็นว่า โจทก์ยังประสงค์ที่จะอุทธรณ์และเพิ่งขอขยายเวลาอุทธรณ์เป็นครั้งที่ 2 โดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์ประวิงคดี หากไม่ขยายให้แล้วอาจเสียความเป็นธรรมไป ศาลย่อมมีอำนาจทั่ว ๆ ไปที่จะขยายเวลาให้ได้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอันเป็นเรื่องการใช้อำนาจที่มีอยู่ทั่วไปของศาล และเมื่อศาลเห็นควรขยายเวลาให้แล้วก็มีอำนาจกำหนดเวลาที่ขยายให้ได้อันเป็นอำนาจทั่ว ๆ ไปเช่นกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้ขยายเวลาและกำหนดเวลาที่ขยายให้นั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ
|