ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ใครบ้างมีคุณสมบัติเป็นบุคคลที่จะเข้าแทนที่คู่ความผู้มรณะได้, ศาลฎีกาวินิจฉัยคู่ความผู้มรณะ

 

 

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์ 

ใครบ้างมีคุณสมบัติเป็นบุคคลที่จะเข้าแทนที่คู่ความผู้มรณะได้

*สิทธิของผู้จัดการมรดกสิ้นสุดเมื่อถึงแก่ความตาย ทายาทของผู้จัดการมรดกไม่อาจเข้าแทนในฐานะคู่ความ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 อนุญาตนางสาวสาลีเข้าแทนที่โจทก์ไม่ชอบ *

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องในฐานะผู้จัดการมรดกของนายช่วง ซึ่งเป็นสิทธิเฉพาะตัวที่สิ้นสุดเมื่อโจทก์ถึงแก่ความตาย และไม่ตกทอดไปยังทายาท นางสาวสาลีซึ่งเป็นเพียงทายาทของโจทก์ ไม่มีสิทธิครอบครองทรัพย์ที่พิพาทหรือจัดการทรัพย์มรดก จึงไม่อาจเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าปัญหาการเข้าแทนที่คู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 เป็นเรื่องความสงบเรียบร้อย สามารถหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่อนุญาตให้นางสาวสาลีเข้าเป็นคู่ความแทน ยกฎีกาโจทก์ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตามมาตรา 42 ก่อนส่งสำนวนกลับไปศาลอุทธรณ์ภาค 7 เพื่อมีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5153/2546

โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกในฐานะผู้จัดการมรดกของนายช่วง ตามคำสั่งศาลซึ่งเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้จัดการมรดก เมื่อโจทก์ถึงแก่ความตาย สิทธิและหน้าที่ของโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมสิ้นสุดลง หาได้ตกทอดไปยังทายาทของโจทก์ไม่ นางสาวสาลีซึ่งเป็นเพียงทายาทของโจทก์เท่านั้นไม่ได้เป็นผู้ปกครองที่ดินพิพาทหรือมีอำนาจในการจัดการทรัพย์มรดกจึงไม่อาจเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ได้

ปัญหาว่าบุคคลที่จะเข้าแทนที่คู่ความผู้มรณะเป็นบุคคลตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 บัญญัติหรือไม่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัย

 

ผู้จัดการมรดกสิ้นสุดหน้าที่, การเข้าแทนที่คู่ความตามมาตรา 42, สิทธิของทายาทในคดีมรดก, คำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับมรดก, ข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง, คุณสมบัติผู้แทนคู่ความในคดีแพ่ง, คดีแบ่งแยกที่ดินมรดก, ศาลฎีกาวินิจฉัยคู่ความผู้มรณะ, กฎหมายแพ่งเรื่องการจัดการมรดก, ความสงบเรียบร้อยในกระบวนพิจารณาคดี,

 

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มีฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของนายช่วง  ตามคำสั่งศาล โจทก์กับจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) เนื้อที่ 5 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา คนละครึ่ง โจทก์มีความประสงค์ต้องการแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนสัด และบอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้วจำเลยเพิกเฉย จึงขอให้บังคับจำเลยไปดำเนินการจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวจำนวน 2 ไร่ 3 งาน 84.5ตารางวา ตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้องให้แก่โจทก์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย และหากแบ่งแยกตกลงกันไม่ได้ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำที่ดินดังกล่าวออกขายโดยประมูลราคาระหว่างโจทก์กับจำเลยหรือขายทอดตลาดแล้วนำเงินที่ขายได้มาแบ่งกันคนละครึ่ง

จำเลยให้การว่า เดิมที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานเป็นแบบแจ้งการครอบครองซึ่งมีชื่อนางหมา ชาวเขาดิน เป็นผู้มีสิทธิครอบครองโจทก์เป็นบุตรของนายช่วง  กับนางมูลไม่ทราบชื่อสกุล ส่วนจำเลยเป็นบุตรของนางหมากับนายไทย ต่อมานายช่วงกับนางหมาได้อยู่กินฉันสามีภริยา มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือนางบุญสม  กับนางสาวสร้อย เมื่อที่ดินพิพาทได้มีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์นางหมาจึงใส่ชื่อนายช่วงเป็นผู้ถือสิทธิครอบครองร่วมกับนางหมา เมื่อนายช่วงตายนางหมา จำเลยและนางสาวสร้อยร่วมกันครอบครองที่ดินดังกล่าวโดยโจทก์ไม่ได้เข้าเกี่ยวข้อง จากนั้นนางหมาและนางสาวสร้อยก็ตายไป โดยนับตั้งแต่นายช่วงตายโจทก์ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่ดินดังกล่าว และไม่เคยฟ้องเรียกเอาทรัพย์มรดกส่วนของนายช่วงจากจำเลยและนางสาวสร้อย คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ 1 ปี ทรัพย์มรดกของนายช่วงจึงตกได้แก่นางหมา จำเลย และนางสาวสร้อย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) ทะเบียนเล่ม 26 หน้า 159 สารบบเลขที่ 295 ตำบลวังยาง อำเภอศรีประจันต์จังหวัดสุพรรณบุรี ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง ส่วนวิธีการแบ่งให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1364 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้

ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 โจทก์ถึงแก่ความตาย นางสาวสาลี ทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 7 อนุญาต

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้

*ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "เห็นว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายช่วง ตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้จัดการมรดก เมื่อโจทก์ถึงแก่ความตาย สิทธิและหน้าที่ของโจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกย่อมสิ้นสุดลง หาได้ตกทอดไปยังทายาทของโจทก์ไม่ นางสาวสาลี  เป็นเพียงทายาทของโจทก์เท่านั้นไม่ปรากฏว่านางสาวสาลีเป็นผู้ครอบครองที่พิพาทหรือมีอำนาจในการจัดการทรัพย์มรดกของนายช่วงแต่อย่างใด นางสาวสาลีย่อมไม่อาจเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ได้ ปัญหาว่า บุคคลที่จะเข้าแทนที่คู่ความผู้มรณะเป็นบุคคลตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 หรือไม่ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 อนุญาตให้นางสาวสาลีเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์จึงเป็นการไม่ชอบเมื่อวินิจฉัยดังนี้แล้วปัญหาตามฎีกาโจทก์จึงไม่จำต้องวินิจฉัย

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ยกคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 ที่อนุญาตให้นางสาวสาลี  เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ ยกฎีกาโจทก์ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 ก่อน แล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งและคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

*ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 กำหนดเกี่ยวกับบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะเข้าเป็นคู่ความแทนที่ในกรณีที่คู่ความเดิมไม่สามารถดำเนินคดีต่อไปได้ เช่น เสียชีวิต หรือสิ้นสภาพความเป็นคู่ความ โดยระบุถึงคุณสมบัติของบุคคลที่สามารถเข้าเป็นคู่ความแทนได้ ดังนี้:

หลักเกณฑ์ตามมาตรา 42

1.ผู้รับช่วงสิทธิหรือหน้าที่

oบุคคลที่ได้รับการถ่ายโอนสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดี เช่น ผู้รับมรดก ผู้รับสิทธิตามสัญญา หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ตามกฎหมาย

oตัวอย่าง: ในกรณีที่คู่ความเสียชีวิตในระหว่างคดี ผู้จัดการมรดกสามารถเข้ามาเป็นคู่ความแทนคู่ความที่เสียชีวิตเพื่อดำเนินคดีต่อไป

2.ผู้จัดการมรดก

oในกรณีที่คู่ความเดิมเป็นผู้ตาย และคดีเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินในมรดก ผู้จัดการมรดกสามารถดำเนินคดีต่อไปในฐานะคู่ความแทนผู้ตาย

oตัวอย่าง: หากจำเลยเสียชีวิตในคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย ผู้จัดการมรดกจะเป็นคู่ความแทนจำเลย

3.ผู้รับโอนสิทธิในข้อพิพาท

oหากมีการโอนสิทธิในข้อพิพาทในระหว่างการดำเนินคดี บุคคลที่รับโอนสิทธินั้นสามารถเข้าเป็นคู่ความแทนได้

oตัวอย่าง: โจทก์ที่ฟ้องเรื่องกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโอนสิทธิให้บุคคลอื่น บุคคลที่รับโอนสิทธินั้นจะเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์เดิม

ข้อสังเกตเพิ่มเติม

•การเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ต้องอยู่ภายใต้การอนุญาตของศาล หรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

•หากศาลเห็นว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม อาจไม่อนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทน

•สิทธิของบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่ความแทนต้องไม่ขัดกับกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน

1.ผู้จัดการมรดกสิ้นสุดหน้าที่

2.การเข้าแทนที่คู่ความตามมาตรา 42

3.สิทธิของทายาทในคดีมรดก

4.คำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับมรดก

5.ข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

6.คุณสมบัติผู้แทนคู่ความในคดีแพ่ง

7.คดีแบ่งแยกที่ดินมรดก

8.ศาลฎีกาวินิจฉัยคู่ความผู้มรณะ

9.กฎหมายแพ่งเรื่องการจัดการมรดก

10.ความสงบเรียบร้อยในกระบวนพิจารณาคดี

 



เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความแพ่ง

การเข้ารับมรดกความกรณีคดีถึงที่สุดแล้วได้หรือไม่และเป็นการขัดต่อ ป.วิ.แพ่ง มาตรา 42 หรือไม่
คำสั่งคดีมีมูลเป็นที่สุดห้ามอุทธรณ์, การเพิกถอนกระบวนพิจารณาผิดระเบียบ, สิทธิในการขอพิจารณาใหม่
คดีก่อนคู่ความตกลงท้ากันเป็นข้อแพ้ชนะคดี, ฟ้องซ้ำในคดีแพ่ง, สิทธิขับไล่จากที่ดินกรรมสิทธิ์รวม,
ฟ้องแย้งในคดีแพ่ง, การผิดสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน, การเรียกเงินมัดจำคืนตามสัญญา
การสละประเด็นข้อพิพาท, อำนาจศาลตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 (3), อัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายแพ่งใหม่
สัญญาประนีประนอมยอมความตกลงยุติคดี-ฟ้องซ้ำ
พิพากษาที่เกินคำขอและขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1548 อันเป็นการไม่ชอบ
ฟ้องแย้งของจำเลยแตกต่างกันกับคำฟ้องเดิม
ค่าสินไหมทดแทนที่จำนวนเงินไม่แน่นอนต้องนำสืบพยาน
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์
ฟ้องปลูกสร้างผิดต่อข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร
ศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอ
คดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์มีทุนทรัพย์
รับฟังพยานหลักฐานฝ่าฝืนกฎหมาย
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
หน้าที่ในการเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน
ขาดนัดยื่นคำให้การ-สิทธิถามค้าน การพิจารณาผิดระเบียบ
โจทก์ร่วมไม่จำต้องจัดทำคำให้การใหม่เพื่อแก้คำให้การและฟ้องแย้งของจำเลย
วันนัดชี้สองสถาน
ห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง
คำร้องสอด
การส่งคำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดี
สิทธิในฐานะผู้รับจำนอง -ขอรับชำระหนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
การบรรยายคำฟ้องที่มิได้ระบุวัน เวลาที่แน่ชัดว่าเป็นวันที่เท่าใด ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
ยื่นฟ้องคดีอันไม่มีข้อพิพาทแต่ได้มีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องในคดี
การยื่นคำร้องในชั้นบังคับคดีไม่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
ส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลยไม่ครบหน้าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
คู่ความจะนำคดีเรื่องที่เคยพิพาทมาฟ้องกันใหม่อีกไม่ได้
การยื่นอุทธรณ์คำสั่งภายในกำหนด 1 เดือน
ฟ้องขับไล่- แสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนดเวลา 8 วัน
เพิกถอนการขายทอดตลาดหากเป็นประวิงให้ชักช้าต้องรับผิดชดค่าสินไหมทดแทน
ผู้สวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพิกถอนการขายทอดตลาด
ฟ้องขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้น-ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์
ในคดีเดิมเป็นเพียงคู่ความตกลงยุติคดีไม่ดำเนินการต่อเท่านั้นไม่เป็นฟ้องซ้ำ
การยื่นและการส่งคำคู่ความในคดีฟอกเงิน
ให้คู่ความฝ่ายที่แพ้คดีต้องชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียม
ค่าขาดไร้อุปการะเป็นหนี้ที่แบ่งแยกเป็นส่วนแต่ละคน
เจ้าหนี้ผู้รับจำนองขอรับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดที่ดิน
การมีอยู่ขององค์กรสาธารณประโยชน์ที่ได้รับรองแล้ว
กระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีตามคำพิพากษา-ฟ้องซ้ำ
ยื่นคำร้องสอดเข้ามาในคดีเพื่อเป็นคู่ความฝ่ายที่สามในคดีอาญา
อายัดเงินปันผลของหุ้นได้แม้จะพ้นระยะเวลา 10 ปีแล้ว
เจ้าหนี้บุริมสิทธิ มิได้ร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปี
คำสั่งเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง นอกฟ้องนอกประเด็น
สิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนของผู้รับจำนอง
ฟ้องซ้ำ คดีถึงที่สุดห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีก
โจทก์และจำเลยต่างมีสภาพเป็น"เจ้าหนี้" และ "ลูกหนี้" ตามคำพิพากษา
จำเลยไม่ใช่บุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะจึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลออกคำบังคับ
ไม่เกินห้าหมื่นบาทห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
การร้องขอให้ศาลสั่งปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึดต้องอ้างว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าของทรัพย์
เงื่อนเวลาเริ่มต้น-สิ้นสุดให้สันนิษฐานว่าเพื่อประโยชน์แก่ฝ่ายลูกหนี้
นำใบแต่งทนายความซึ่งปลอมลายมือชื่อไปทำสัญญายอม
อำนาจว่าความหรือดำเนินกระบวนพิจารณาของทนายความในศาล
ฟ้องเคลือบคลุม, สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข, วางประจำไว้หรือได้ชำระหนี้บางส่วนแล้ว
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ
ค่าเสียหายตามคำพิพากษาและค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทน
ผู้ร้องสอดต้องมีส่วนได้เสียกับคู่ความเดิมถือเป็นคู่ความฝ่ายที่สาม
แก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยเป็นข้อยกเว้นตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 180
ยื่นเอกสารฝ่าฝืนต่อกฎหมายไม่อาจรับฟังเป็นพยานได้(ยื่นชั้นอุทธรณ์ฎีกา)
จำเลยฟ้องแย้ง-โจทก์ทิ้งฟ้อง ไม่มีผลให้ฟ้องแย้งตกไป
อำนาจปกครองบุตร-มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลใด?
ดุลพินิจสั่งค่าฤชาธรรมเนียมคำนึงความสุจริตของคู่ความ
พินัยกรรมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?ไม่มีประเด็นข้อพิพาท
มีเส้นทางอื่นออกไม่ตัดสิทธิขอคุ้มครองประโยชน์
คำขอให้คุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา
คำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมตามมาตรา 229
ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์แล้วคดีอยู่ในอำนาจศาลอุทธรณ์
คำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
ไม่รับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การส่งหมายนัดไต่สวน-สำเนาคำร้องไม่ชอบ
คำสั่งให้โจทก์นำส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้อง
เพิกถอนการขายทอดตลาด
คำฟ้องโจทก์ไม่มีลายมือชื่อของผู้เรียงพิมพ์
คณะบุคคลไม่อาจเป็นคู่ความในคดีได้
มอบอำนาจให้ฟ้องคดีไว้ล่วงหน้าก่อนเกิดสิทธิฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนระบุชื่อศาลผิด
หน้าที่นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐาน
อำนาจฟ้องที่รัฐเป็นผู้เสียหาย
ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
วินิจฉัยนอกเหนือไปจากคำฟ้องและคำให้การ
เข้าเป็นโจทก์ร่วมต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยด้วย
ใครมีอำนาจอนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
การถอนการบังคับคดี | คำพิพากษาถูกกลับชั้นที่สุด
ยังไม่ผิดสัญญายังไม่มีเหตุขอออกหมายบังคับคดีได้
แจ้งคำสั่งขายทอดตลาดแก่ผู้มีส่วนได้เสีย คู่สมรสไม่มีชื่อในโฉนดที่ดิน
คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์คำสั่งไม่ชอบ
ขอให้เพิกถอนการพิจารณาคดีของศาล มีพยานหลักฐานใหม่
ผู้เสียหายฐานละเมิดอำนาจศาล