

อำนาจปกครองบุตร-มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลใด? อำนาจปกครองบุตร-มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลใด? การที่จำเลย(บิดา)ได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ เป็นการได้มาโดยความยินยอมในกรณีหย่า อันเป็นการได้อำนาจปกครองมาโดยข้อสัญญา การที่โจทก์(มารดา)ฟ้องขอให้เพิกถอนอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ โดยอ้างเหตุแห่งการฟ้องร้องว่าจำเลย(บิดา)ปล่อยปละละเลยไม่ทำหน้าที่ของผู้ใช้อำนาจปกครอง ดังนั้น สถานที่ที่ได้มีการจดทะเบียนหย่าเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยหย่ากันที่สำนักงานเขตดุสิตกรุงเทพมหานคร มูลคดีจึงเกิดที่กรุงเทพมหานคร ทั้งจำเลยก็มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี โจทก์จึงเสนอคำฟ้องต่อศาลจังหวัดสระบุรีไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ถอนอำนาจปกครองเด็กชายพิชิต และเด็กหญิงชุติมา ของจำเลยทั้งหมด แล้วให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรทั้งสองคน ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อแรกต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่าโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดสระบุรีได้หรือไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(1) บัญญัติว่า คำฟ้อง ให้เสนอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลไม่ว่าจำเลยจะมีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรหรือไม่ ปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ระบุว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 4ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ซึ่งอยู่ในเขตศาลจังหวัดปทุมธานี โจทก์มิได้ฟ้องคดีต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลจึงต้องพิจารณาต่อไปว่า ศาลจังหวัดสระบุรีเป็นศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยได้เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ทั้งสองนั้นเป็นการได้มาโดยความยินยอมในกรณีหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520 และมาตรา 1566(6) อันเป็นการได้อำนาจปกครองมาโดยข้อสัญญา การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ทั้งสองของจำเลยโดยอ้างเหตุแห่งการฟ้องร้องว่าจำเลยปล่อยปละละเลยไม่ทำหน้าที่ของผู้ใช้อำนาจปกครองจึงเป็นกรณีที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาหรือข้อตกลงในการจดทะเบียนหย่า ดังนั้น สถานที่ที่ได้มีการจดทะเบียนหย่าและทำบันทึกข้อตกลงในเรื่องการใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ทั้งสองของจำเลยจึงถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาล เมื่อได้ความว่าโจทก์และจำเลยได้จดทะเบียนการหย่าและทำบันทึกข้อตกลงหลังทะเบียนการหย่าที่สำนักงานเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงต้องถือว่ามูลคดีนี้เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครศาลจังหวัดสระบุรีจึงหาใช่ศาลที่มูลคดีเกิดขึ้นในเขตศาลแต่อย่างใดไม่ โจทก์จึงไม่อาจนำคดีมาฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดสระบุรีได้ คดีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ที่ว่าบุตรผู้เยาว์ทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลจังหวัดสระบุรีอันเป็นศาลชั้นต้นที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีหรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ พิพากษายืน
|