สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

คำสั่งเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง นอกฟ้องนอกประเด็น
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3) peesirilaw หรือ (4) @peesirilaw (5) @leenont1 -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE
คำสั่งเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง นอกฟ้องนอกประเด็น คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลที่ชี้ขาดคดีต้องตัดสิน ตามข้อหาในคำฟ้องทุกข้อ แต่ห้ามมิให้พิพากษาหรือคำสั่งให้สิ่งใด ๆ เกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ประเด็นข้อพิพาทในคดีจะต้องพิจารณาจากคำฟ้อง คำให้การ เป็นข้อสำคัญมิฉะนั้นถือว่าเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2552 ประเด็นข้อพิพาทในคดีจะต้องพิจารณาจากคำฟ้อง คำให้การ เป็นข้อสำคัญ มิใช่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและการนำสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณา แม้พยานโจทก์จะได้เบิกความถึงว่า มีการเสนอว่าจะให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้วก็ตาม แต่ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้มีการเสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยแต่อย่างใด คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 1352 หรือไม่ เมื่อคดีไม่มีประเด็นดังกล่าวเสียแล้ว ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามฟ้องโจทก์และกำหนดค่าทดแทนเพื่อให้โจทก์ชำระแก่จำเลยได้เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์ฟ้องว่า ขอให้บังคับจำเลยอนุญาตให้โจทก์กระทำการเดินสายไฟฟ้า ท่อน้ำประปา และสายโทรศัพท์ผ่านที่ดินและบ้านของจำเลย หากจำเลยไม่อนุญาตหรือเพิกเฉย ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งให้บังคับโจทก์รื้อถอนสายไฟฟ้าออกไป โดยโจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ขอให้ยกฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ และยกฟ้องแย้งจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่ามีประเด็นที่โจทก์ชอบจะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 หรือไม่ เห็นว่า ประเด็นข้อพิพาทในคดีจะต้องพิจารณาจากคำฟ้อง คำให้การ เป็นข้อสำคัญ มิใช่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและการนำสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณา แม้พยานโจทก์จะได้เบิกความถึงว่า เสนอว่าจะให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้วก็ตาม แต่ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยแต่อย่างใด คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 หรือไม่ เมื่อคดีไม่มีประเด็นดังกล่าวเสียแล้ว ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามฟ้องโจทก์และกำหนดค่าทดแทนเพื่อให้โจทก์ชำระแก่จำเลยได้ เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ ( บุญรอด ตันประเสริฐ - เฉลิมเกียรติ ชาญศิลป์ - สนอง เล่าศรีวรกต ) ศาลจังหวัดนนทบุรี - นางสาววัจนาถ วังตาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2552 ประเด็นข้อพิพาทในคดีจะต้องพิจารณาจากคำฟ้อง คำให้การ เป็นข้อสำคัญมิใช่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและการนำสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณา แม้พยานโจทก์จะได้เบิกความถึงว่าเสนอว่าจะให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้วก็ตาม แต่ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยแต่อย่างใด คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 1352 หรือไม่ เมื่อคดีไม่มีประเด็นดังกล่าวเสียแล้ว ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามฟ้องโจทก์ และกำหนดค่าทดแทนเพื่อให้โจทก์ชำระแก่จำเลยได้ เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 124391 ตำบลบางสีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พร้อมบ้านบนที่ดินดังกล่าว จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 124390 ตำบลบางสีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี พร้อมบ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 5 ที่ดินของโจทก์อยู่ทางทิศตะวันตกติดที่ดินของจำเลย ที่ดินของจำเลยอยู่ด้านทิศตะวันออกติดคลองบางสีทอง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนนทบุรีปักเสาไฟฟ้าไว้ที่ริมคลองบางสีทองฝั่งบ้านและที่ดินของจำเลย การประปาจังหวัดนนทบุรีเดินท่อน้ำประปามาที่ริมคลองฝั่งตรงข้ามกับบ้านของจำเลย โจทก์กับจำเลยเดินสายไฟฟ้าจากเสาไฟฟ้าดังกล่าวมาใช้งานตลอดมาจนถึงปี 2545 โจทก์กับจำเลยมีเหตุขัดใจกัน จำเลยจึงตัดสายไฟฟ้าไม่ให้โจทก์ใช้ โจทก์ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ต้องไปอาศัยอยู่บ้านผู้อื่นจนกระทั่งปัจจุบัน โจทก์เจรจากับจำเลยแล้วแต่จำเลยปฏิเสธไม่ยินยอมให้โจทก์เดินสายไฟฟ้า ท่อน้ำประปา และสายโทรศัพท์ผ่านที่ดินและบ้านของจำเลย ขอให้บังคับจำเลยอนุญาตให้โจทก์กระทำการดังกล่าวตามแผนผังท้ายคำฟ้อง หากจำเลยไม่อนุญาตหรือเพิกเฉยให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์อาจไม่ใช่เจ้าของที่ดินและไม่ใช่เจ้าของบ้านตามฟ้อง ทะเบียนบ้านท้ายคำฟ้องไม่ปรากฏชื่อโจทก์ทั้งไม่ได้มอบอำนาจให้นางกิจจา ฟ้องและดำเนินคดีแทน หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ เพราะไม่ได้ลงวันเดือนปีหรือขีดฆ่าอากรแสตมป์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนนทบุรีปักเสาไฟฟ้าไว้ข้างคลองบางสีทองใกล้ที่ดินของจำเลยไม่มีการวางท่อน้ำประปา ชาวบ้านละแวกนี้ใช้น้ำบาดาลจากวัดอมฤต ส่วนชุมสายโทรศัพท์จังหวัดนนทบุรีมิได้เดินสายหรือปักเสาโทรศัพท์ไว้บริเวณคลองบางสีทองบ้านที่ไม่ได้อยู่ติดกับคลองบางสีทองใช้วิธีเดินสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์หรือท่อน้ำบาดาลผ่านบริเวณข้างที่ดินของผู้อื่น หรือทางสาธารณประโยชน์ ไม่มีชาวบ้านรายใดเดินสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ท่อน้ำบาดาล ผ่านหลังคาหรือกลางบ้านผู้อื่น หากมีต้องขออนุญาตและเสียค่าตอบแทนตามกฎหมาย โจทก์ไม่เคยขอใช้โทรศัพท์และไม่เคยขอใช้น้ำบาดาลมาก่อน แผนผังท้ายคำฟ้องบิดเบือนความจริง โจทก์ไม่เคยเดินสายไฟฟ้าหรือปักเสาไฟฟ้าผ่านบ้านของจำเลยเพื่อไปใช้ยังบ้านโจทก์ เคยแต่ขอต่อไฟฟ้าจากบ้านจำเลยเพื่อไปใช้ในบ้านของโจทก์เป็นเวลาหลายปีสมัยที่ยังปรองดองกัน โจทก์กับพี่น้องมีสาเหตุผิดใจกัน โจทก์ถือทิฐิไม่ขอใช้ไฟฟ้าจากบ้านจำเลย จำเลยหาได้ตัดไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้าอย่างใดไม่ ต่อมาโจทก์ลักลอบเดินสายไฟฟ้าฝ่านบ้านจำเลยเมื่อจำเลยทราบมีการทะเลาะกัน โจทก์และนางกิจจาต่างทิ้งร้างบ้านไปอาศัยอยู่กับสามีของตน ก่อนฟ้องคดีนี้บุตรของโจทก์ได้ขอเดินสายไฟฟ้าผ่านหลังคาบ้านของจำเลยจำเลยไม่อนุญาตเพราะหลังคาบ้านของจำเลยเป็นสังกะสี หากเกิดอุบัติเหตุจะเป็นอันตราย และทำให้จำเลยได้รับความเสียหายเกินควร ไม่สะดวก จำเลยแนะนำให้ปักเสาไม้ตามร่องสวนเพื่อเดินสายไฟฟ้าเข้าบ้าน แต่โจทก์ไม่ยอม โจทก์สามารถเดินสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์และท่อน้ำบาดาลเข้าบ้านของโจทก์โดยไม่ก่อความเสียหายแก่ผู้อื่น แต่โจทก์ไม่อยากลงทุน โจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริต กลั่นแกล้งฟ้องจำเลยให้ได้รับความเดือดร้อน ทุกวันนี้สายไฟฟ้าของโจทก์ยังอยู่ โดยมิได้ใช้ประโยชน์ เพราะเจ้าหน้าที่ถอดสายไฟฟ้าออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าในช่วงที่โจทก์ทิ้งร้างบ้านไปหลายปีหากปล่อยสายไฟฟ้าดังกล่าวทิ้งไว้อาจเป็นอันตราย จำเลยขอให้โจทก์ถอดสายไฟฟ้าดังกล่าว แต่โจทก์เพิกเฉย ขอให้ยกฟ้องและให้บังคับโจทก์รื้อถอนสายไฟฟ้าออกไปโดยโจทก์เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง หากโจทก์ไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของโจทก์ โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 124391 พร้อมบ้านเลขที่ 18 บนที่ดินดังกล่าว เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ หนังสือมอบอำนาจของโจทก์สมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ยอมรับว่าละแวกบ้านโจทก์จำเลยมีการใช้น้ำบาดาลท่อน้ำบาดาลอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับที่ดินของจำเลยตามแผนผังท้ายคำฟ้องโจทก์ อย่างไรก็ตามหากจะเดินท่อน้ำบาดาล สายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ก็ต้องผ่านที่ดินหรือบ้านของจำเลยโดยโจทก์ไม่มีทางอื่นจะหลีกเลี่ยง โจทก์เคยเดินสายไฟฟ้าจากบ้านของจำเลยเข้าไปใช้ในบ้านของโจทก์ได้นานนับสิบปี เมื่อจำเลยรื้อและตัดสายไฟฟ้าออกจากบ้านของจำเลยแล้ว โจทก์ไม่มีไฟฟ้าใช้ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น สายไฟฟ้าที่จำเลยอ้างนั้นการไฟฟ้าได้รื้อออกไปแล้ว จำเลยต่อเติมบ้านครอบคลุมบริเวณนั้นจนไม่มีสายไฟฟ้าที่จะให้โจทก์ต้องดำเนินการอีก ขอให้ยกฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์และยกฟ้องแย้งจำเลย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าคดีมีประเด็นว่าโจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 หรือไม่ โจทก์ฎีกาทำนองว่า ศาลอุทธรณ์มิได้รับฟังข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของพยานโจทก์ประกอบการพิจารณาและวินิจฉัยของศาล เนื่องจากพยานโจทก์ปากนางกิจจาผู้รับมอบอำนาจโจทก์ได้เบิกความต่อศาลแล้วว่า พี่ชายของพยานไปพูดกับจำเลยขอวางสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของจำเลยและได้เสนอว่าจะให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยแต่จำเลยพูดว่า กูมีแล้วไม่เอา แสดงให้เห็นว่าโจทก์ได้พยายามเจรจาและเสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยแล้ว และฎีกาว่าศาลควรพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามคำฟ้องเสียก่อน ส่วนค่าทดแทนนั้นโจทก์ยินยอมที่จะชำระให้แก่จำเลยจนเป็นที่พอใจตามที่ศาลจะพิจารณากำหนดให้แก่จำเลย เห็นว่า ประเด็นข้อพิพาทในคดีจะต้องพิจารณาจากคำฟ้อง คำให้การ เป็นข้อสำคัญมิใช่พิจารณาจากข้อเท็จจริงและการนำสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณา แม้พยานโจทก์จะได้เบิกความถึงว่า เสนอว่าจะให้ค่าทดแทนแก่จำเลยแล้วก็ตาม แต่ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้แก่จำเลยแต่อย่างใด คดีจึงไม่มีประเด็นว่าโจทก์ชอบที่จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 หรือไม่ เมื่อคดีไม่มีประเด็นดังกล่าวเสียแล้ว ศาลจึงไม่อาจพิจารณาพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติตามฟ้องโจทก์และกำหนดค่าทดแทนเพื่อให้โจทก์ชำระแก่จำเลยได้ เพราะเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็นฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ ป.พ.พ. มาตรา 1352 |