ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




สิทธิได้รับค่าตอบแทนก่อนบอกเลิกสัญญาตัวแทนประกันชีวิต

สิทธิได้รับค่าตอบแทนก่อนบอกเลิกสัญญาตัวแทนประกันชีวิต

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การขายกรมธรรม์ประกันชีวิตของโจทก์เป็นการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตโดยชอบตามสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญและจำเลยได้รับชำระเบี้ยประกันชีวิตกับได้ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 9 ราย ตามฟ้องให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตแล้วก่อนที่จำเลยจะบอกเลิกสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญกับโจทก์ ถือว่าจำเลยได้รับประโยชน์จากการที่โจทก์เป็นนายหน้าอันเป็นการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลยและถึงกำหนดที่จะต้องจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนแก่โจทก์ก่อนที่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญสิ้นสุดลงโจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ อันเป็นค่าแห่งการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลย ตามสัญญาจึงหาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ยอมสละสิทธิเรียกร้องค่าแห่งการงานที่โจทก์มีต่อจำเลยทั้งหมดตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินค่าผลประโยชน์และค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่โจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2564

เมื่อพิเคราะห์สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญ ข้อ 4.1 ที่ระบุว่า ตัวแทนประกันชีวิตจะได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนจากสัญญาประกันชีวิตที่ตัวแทนประกันชีวิตหามาได้ ตามคำสั่งหรือประกาศหรือระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนของตัวแทนประกันชีวิตตามที่บริษัทกำหนด เฉพาะสัญญาประกันชีวิตที่บริษัทได้ออกกรมธรรม์และได้มีการชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว กับสัญญาข้อ 9.4 ที่ระบุว่า เมื่อสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลง ตัวแทนประกันชีวิตไม่มีสิทธิจะได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากผลงานที่ได้ทำให้ไว้กับบริษัทอีกต่อไป ประกอบกันแล้ว กรณีที่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลงอันจะเป็นผลให้ตัวแทนประกันชีวิตไม่มีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากผลงานที่ตนได้ทำให้ไว้กับจำเลยอีกต่อไปนั้น ย่อมหมายถึงกรณีผลงานที่ตัวแทนประกันชีวิตได้ทำไว้เป็นเพียงแต่หาผู้เข้าทำสัญญาประกันชีวิตหรือขายประกันชีวิตได้ แต่บริษัทยังไม่ได้ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตและผู้เอาประกันชีวิตยังไม่ได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตให้แก่บริษัท หรือผลงานที่ตัวแทนประกันชีวิตทำไว้แต่ยังไม่ถึงกำหนดจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทน แต่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลงเสียก่อน หากผู้เอาประกันชีวิตได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตและบริษัทออกกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตภายหลังจากนั้นหรือถึงกำหนดจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนภายหลังจากนั้น ตัวแทนประกันชีวิตย่อมไม่มีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากประกันชีวิตที่หามาได้เหล่านั้นอีก สัญญาข้อ 9.4 จึงหาใช่ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมดังที่โจทก์ฎีกา แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 9 ราย ของโจทก์เป็นการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตโดยชอบตามสัญญาตัวแทนประกันชีวิตและจำเลยได้รับชำระเบี้ยประกันชีวิตกับได้ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 9 ราย ตามฟ้องให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตแล้วก่อนที่จำเลยจะบอกเลิกสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญกับโจทก์ ถือว่าจำเลยได้รับประโยชน์จากการที่โจทก์เป็นนายหน้าอันเป็นการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลยและถึงกำหนดที่จะต้องจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนแก่โจทก์ก่อนที่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญสิ้นสุดลง โจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ อันเป็นค่าแห่งการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 391 วรรคสาม สัญญาข้อ 9.4 จึงหาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ยอมสละสิทธิเรียกร้องค่าแห่งการงานที่โจทก์มีต่อจำเลยทั้งหมดตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินค่าผลประโยชน์และค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่โจทก์

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 152,533.74 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 145,747.14 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 12 ตุลาคม 2561) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฎีกาว่า จำเลยต้องรับผิดชำระเงินค่าผลประโยชน์และค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่โจทก์หรือไม่ เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญ ข้อ 4.1 ที่ระบุว่า "ตัวแทนประกันชีวิตจะได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนจากสัญญาประกันชีวิตที่ตัวแทนประกันชีวิตหามาได้ ตามคำสั่งหรือประกาศหรือระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนของตัวแทนประกันชีวิตตามที่บริษัทกำหนด เฉพาะสัญญาประกันชีวิตที่บริษัทได้ออกกรมธรรม์และได้มีการชำระเบี้ยประกันภัยแล้ว" กับสัญญาข้อ 9.4 ที่ระบุว่า "เมื่อสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลง ตัวแทนประกันชีวิตไม่มีสิทธิจะได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากผลงานที่ได้ทำให้ไว้กับบริษัทอีกต่อไป" ประกอบกันแล้ว กรณีที่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลงอันจะเป็นผลให้ตัวแทนประกันชีวิตไม่มีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากผลงานที่ตนได้ทำให้ไว้กับจำเลยอีกต่อไปนั้น ย่อมหมายถึงกรณีผลงานที่ตัวแทนประกันชีวิตได้ทำไว้เป็นเพียงแต่หาผู้เข้าทำสัญญาประกันชีวิตหรือขายประกันชีวิตได้แต่บริษัทยังไม่ได้ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตและผู้เอาประกันชีวิตยังไม่ได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตให้แก่บริษัท หรือผลงานที่ตัวแทนประกันชีวิตทำไว้แต่ยังไม่ถึงกำหนดจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทน แต่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสิ้นสุดลงเสียก่อนหากผู้เอาประกันชีวิตได้ชำระเบี้ยประกันชีวิตและบริษัทออกกรมธรรม์ประกันชีวิตให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตภายหลังจากนั้นหรือถึงกำหนดจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนภายหลังจากนั้นตัวแทนประกันชีวิตย่อมไม่มีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากประกันชีวิตที่หามาได้เหล่านั้นอีก สัญญาข้อ 9.4 จึงหาใช่ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมดังที่โจทก์ฎีกา แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การขายกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 9 ราย ของโจทก์เป็นการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตโดยชอบตามสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญและจำเลยได้รับชำระเบี้ยประกันชีวิตกับได้ออกกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้ง 9 ราย ตามฟ้องให้แก่ผู้เอาประกันชีวิตแล้วก่อนที่จำเลยจะบอกเลิกสัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญกับโจทก์ ถือว่าจำเลยได้รับประโยชน์จากการที่โจทก์เป็นนายหน้าอันเป็นการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลยและถึงกำหนดที่จะต้องจ่ายผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนแก่โจทก์ก่อนที่สัญญาตัวแทนประกันชีวิตสามัญสิ้นสุดลงโจทก์ย่อมมีสิทธิได้รับผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนใด ๆ อันเป็นค่าแห่งการงานที่โจทก์ทำให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม สัญญาข้อ 9.4 จึงหาใช่เป็นกรณีที่โจทก์ยอมสละสิทธิเรียกร้องค่าแห่งการงานที่โจทก์มีต่อจำเลยทั้งหมดตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินค่าผลประโยชน์และค่าตอบแทนต่าง ๆ ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแก่โจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน

พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้เป็นพับ




นิติกรรม

ผู้อนุบาลและคนไร้ความสามารถ, สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์เป็นโมฆียะ, การบอกล้างโมฆียะกรรม
เพิกถอนนิติกรรมวิกลจริต, การบอกล้างโมฆียกรรม, นิติกรรมของผู้ป่วยจิตเวช, โมฆียกรรมกลายเป็นโมฆะ
ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิด, การขยายเวลาชำระหนี้, ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ค้ำประกัน
คดีเลิกสัญญาก่อสร้าง, สิทธิในเบี้ยปรับตามกฎหมาย, เบี้ยปรับในสัญญาก่อสร้าง
ความรับผิดของผู้รับประกันภัย, รถสูญหาย, ถูกเพลิงไหม, การละทิ้งความครอบครองรถยนต์
คดีเกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวน, ข้อกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินรัฐ, สิทธิการครอบครองที่ดินชั่วคราว
เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดิน, การปลอมแปลงหนังสือมอบอำนาจโอนที่ดิน, ค่าสินไหมทดแทนจากการละเมิด
กฎหมายกู้ยืมเงิน, หลักฐานการกู้ยืมเงิน, ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์, การกู้ยืมเงินในไลน์และเฟสบุค
นิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์
หลักฐานการกู้ยืมเงิน, การลงลายมือชื่อในสัญญากู้ยืม, การพิสูจน์การชำระหนี้
คดีผู้บริโภค, การใช้สิทธิไม่สุจริต, ความสุจริตในการชำระหนี้, มาตรฐานทางการค้า
สัญญาประนีประนอมยอมความ, การรังวัดที่ดินแนวเขต, อำนาจฟ้อง,
สัญญานายหน้าและค่านายหน้า, กฎหมายลาภมิควรได้, การบอกเลิกสัญญานายหน้าโดยไม่สุจริต
สัญญาซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ, นิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงิน
กู้ยืมเงินไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือ
ผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรสละมรดกของบุตรผู้เยาว์ไม่ได้
การทำนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เยาว์
หนังสือสัญญากู้เงินตราสารที่ต้องปิดอากรแสตมป์
การซื้อขายที่ดินตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 150
ผู้รับจำนองมีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีเจ้าหนี้อื่นมาขอเฉลี่ยหนี้
สัญญาเช่าที่ดินซึ่งเป็นเจ้าของรวม
การโอนที่ดินในระยะเวลาห้ามโอนเป็นโมฆะ
สิทธิบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุด
คำสั่งงดสืบพยานจำเลย
สัญญาจะซื้อจะขายมีผลอย่างไรกับสัญญาซื้อขาย
หนังสือมอบอำนาจ พิมพ์ลายนิ้วมือ
กฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยฝ่าฝืนเป็นโมฆะ | ดอกเบี้ยผิดนัด
สิทธิของผู้รับจำนองเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้เรียกว่า"บุริมสิทธิ"
ยืนยันข้อเท็จจริงหลายทางไม่อาจเป็นไปได้ในคราวเดียวกัน จึงไม่ขัดแย้งกันเอง
สัญญาที่ทำขึ้นโดยไม่มีเจตนาแท้จริงให้ผูกพันกัน
ความรับผิดในคดีแพ่งต้องอาศัยมูลมาจากการกระทำความผิดในทางอาญา
นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย, ฝ่าฝืนกฎหมาย
อำนาจฟ้องเพิกถอนนิติกรรมการจำหน่ายที่ดินเพื่อชำระเป็นเงินให้คนต่างด้าว
ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมให้สินสมรสเมื่อผู้ให้ตายแล้วไม่ต้องฟ้องผู้จัดการมรดกก็ได้
ขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการให้ที่ดินสินสมรส
การขายอสังหาริมทรัพย์ของบุตรผู้เยาว์จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน
ผลของการบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย คู่สัญญาแต่ละฝ่ายได้กลับคืนสู่ฐานะเดิม
นิติกรรมอำพรางคู่กรณีต้องแสดงเจตนาทำนิติกรรมขึ้นสองนิติกรรม
องค์ประกอบของนิติกรรม
สัญญารับเหมาก่อสร้างเลิกกัน คู่สัญญากลับคืนสู่ฐานะเดิม
สัญญาซื้อขายที่ดินเป็นนิติกรรมอำพรางการกู้ยืมเงิน
ทำสัญญากู้ยืมเงินในฐานะผู้แทนของสมาคมไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
แม้ดอกเบี้ยเป็นโมฆะแต่ยังต้องรับผิดต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยผิดนัด
ข้อตกลงให้ผู้ซื้อทรัพย์เป็นผู้ชำระค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ขายที่ดินห้ามโอนภายใน 10 ปีเป็นการสละการครอบครอง
ฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประกันชีวิต-อ้างถูกฉ้อฉลให้ทำสัญญา
ผู้รับประกันภัยได้รับประกันวินาศภัยไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการ
ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเกินอัตราเป็นโมฆะต้องนำมาหักเป็นต้นเงิน
สัญญาเช่าบ้านภายหลังการซื้อขาย
ผู้จะขายไม่ได้รับใบอนุญาตให้จัดสรรที่ดินผู้จะซื้อไม่รู้สัญญาไม่เป็นโมฆะ
ผู้แทนโดยชอบธรรมทำสัญญาขายไม้มรดกส่วนของผู้เยาว์-ไม่ต้องขออนุญาตศาลก่อน
คู่สัญญามีอำนาจฟ้องให้โอนทรัพย์สินให้บุตรได้
การฟ้องคดีแพ่งมิใช่เป็นการทำนิติกรรม
การกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญาถือว่าเป็นเบี้ยปรับ
จดทะเบียนจำนองที่ดินเฉพาะส่วนของตน
สิทธิในการเช่าซื้อเป็นมรดกหรือไม่?