

การฟ้องคดีแพ่งมิใช่เป็นการทำนิติกรรม การฟ้องคดีแพ่งมิใช่เป็นการทำนิติกรรม การฟ้องคดีแพ่งมิใช่เป็นการทำนิติกรรมเพราะมิได้มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลเพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ แต่เป็นกรณีที่ฟ้องขอให้บังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่แล้วและถูกโต้แย้งสิทธิ ดังนั้น แม้ตราสารของมูลนิธิจะให้อำนาจโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิทำนิติกรรมของมูลนิธิได้ แต่โจทก์ไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อมีข้อโต้แย้งสิทธิของสมาคมและมูลนิธิ ผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทนคือผู้จัดการสมาคมและมูลนิธิซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล กรรมการสมาคมและมุลนิธิไม่มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดี การฟ้องคดีแพ่ง มิใช่เป็นการทำนิติกรรม เพราะมิได้มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลเพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ ตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 112 หากแต่เป็นกรณีที่ฟ้องขอให้บังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่แล้วและถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ดังนั้น แม้ตราสารของมูลนิธิจะให้อำนาจโจทก์ซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิทำนิติกรรมของมูลนิธิได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จำเลยทั้งแปดให้การว่า โจทก์ทั้งเก้าไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมิใช่ผู้มีอำนาจกระทำการแทนสมาคมและมูลนิธิ ฟ้องเกี่ยวกับค่าเสียหายเคลือบคลุมโจทก์ทั้งเก้าไม่ได้รับความเสียหาย จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย สมาคมและมูลนิธิปล่อยให้นายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ ผู้จัดการสมาคมและมูลนิธิกระทำการอันเสื่อมเสียวัฒนธรรมแห่งชาติ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ จึงได้เพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมและมูลนิธิเสียและเพิกถอนการใช้ที่ดินบริเวณถ้ำเขาพระด้วย จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ทั้งเก้ามีอำนาจฟ้องจำเลยเพราะเป็นผู้มีส่วนได้เสียนั้น เห็นว่าการกระทำของจำเลยตามฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องโต้แย้งสิทธิของสมาคมและมูลนิธิซึ่งมีสภาพเป็นนิติบุคคลต่างหากจากตัวโจทก์ผู้มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้ก็คือนิติบุคคลที่ถูกโต้แย้งสิทธิเท่านั้นเมื่อนิติบุคคลดังกล่าวมีผู้จัดการสมาคมและมูลนิธิเป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนอยู่คือนายสุชาติ โกศลกิติวงศ์ผู้จัดการสมาคมและมูลนิธิดังกล่าว โจทก์ซึ่งเป็นเพียงกรรมการนิติบุคคลแต่ไม่มีอำนาจกระทำการแทน ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดี ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าโจทก์ที่ 1 ที่ 3 ฟ้องคดีแทนมูลนิธิในฐานะรองประธานกรรมการและเลขาธิการ ตามอำนาจในตราสารมูลนิธิซึ่งให้อำนาจทำนิติกรรมของมูลนิธิและการฟ้องคดีก็เป็นการทำนิติกรรมอย่างหนึ่งนั้น เห็นว่า การฟ้องคดีมิใช่เป็นการทำนิติกรรม เพราะมิได้มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 112 หากแต่เป็นกรณีที่ฟ้องขอให้ศาลบังคับตามสิทธิของตนที่มีอยู่แล้วและถูกโต้แย้งสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 พิพากษายืน |