สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

รับของโจร รับซื้อทรัพย์ของกลางโดยรู้อยู่ว่าได้มาโดยการลักทรัพย์ ![]() -ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (1) @leenont หรือ (2) @peesirilaw (3) 0859604258 เพิ่มเพื่อนด้วยหมายเลขโทรศัพท์ -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE รับซื้อโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ รับของโจร | รับซื้อของกลางไว้โดยสุจริต โจทก์ไม่ได้ประสงค์จะให้ลงโทษฐานรับของโจรเพื่อค้ากำไร จึงไม่อาจลงโทษจำเลยได้ จำเลยนำสืบว่ารับซื้อทรัพย์ของกลางโดยสุจริต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดจำคุก 3 ปี รับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ จำคุก 2 ปี คำพิพากษาฎีกาที่ 528/2550 จำเลยรับซื้อทรัพย์ของกลางโดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ การที่จำเลยนำทรัพย์ดังกล่าวไปขายต่อ แม้จะเป็นการกระทำความผิดฐานรับของโจรเพื่อค้ากำไรก็ตาม แต่เมื่อคำบรรยายฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยรับของโจรเพื่อค้ากำไร จึงมิอาจลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคสองได้ เพราะโจทก์ไม่ได้ประสงค์จะให้ลงโทษตามบทดังกล่าว คงลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคหนึ่ง เท่านั้น โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335, 336 ทวิ, 357, 83 กับขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนอีก 8 รายการ รวมราคา 87,000 บาท ให้แก่ผู้เสียหาย ระหว่างพิจารณาพันตำรวจโท ณรงค์ชัย ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสอง จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและเบิกความเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี ข้อหาลักทรัพย์และคำขออื่นให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา คดีนี้โจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบว่า จำเลยรับซื้อทรัพย์ของกลางโดยมีข้อพิรุธหลายประการ จำเลยนำสืบว่ารับซื้อทรัพย์ของกลางโดยสุจริต เห็นว่า ทรัพย์ของกลางที่ยึดได้จากจำเลยเป็นบานประตูไม้สักที่มีแบบรูปทรงสี่เหลี่ยมและเป็นบานโค้ง ซึ่งปกติต้องติดตั้งกับวงกบไม้ ได้ความจากโจทก์ร่วมว่า โจทก์ร่วมสั่งทำบานประตูดังกล่าวเป็นพิเศษมีขนาดใหญ่กว่าบานประตูทั่วไป วงกบที่ติดตั้งบานประตูของกลางจึงมีขนาดแตกต่างไปจากวงกบทั่วไปเช่นกัน หากผู้นำบานประตูของกลางมาขายให้จำเลยเนื่องจากได้รับเหมาทุบตึกมาจริงดังที่จำเลยให้การไว้ในชั้นสอบสวนก็ควรต้องมีวงกบคู่มากับบานประตูดังกล่าว โดยจำเลยผู้มีอาชีพค้าไม้เก่ามานานนับสิบปีย่อมต้องทราบข้อเท็จจริงนี้ การที่จำเลยรับซื้อบานประตูไม้สักของกลางโดยไม่มีวงกบประกอบมาด้วย จึงเป็นข้อส่อพิรุธ นอกจากนี้ แม้บานประตูและลูกกรงที่ยึดคืนมาจะผ่านการใช้งานแล้ว แต่ยังใหม่และมีสภาพดี ซึ่งจำเลยบอกขายโจทก์ร่วมในราคาหลายหมื่นบาท แต่จำเลยกลับซื้อทรัพย์ของกลางมาจากชายแปลกหน้าในยามวิกาลในราคาไม่ถึงหมื่นบาทซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาที่แท้จริงอยู่มาก ทั้งยังเป็นราคาที่จำเลยเป็นผู้กำหนดเองฝ่ายเดียวโดยกลุ่มชายผู้ขายให้จำเลยไม่ได้ร่วมกำหนดหรือต่อรองด้วย ส่อแสดงว่าจำเลยรู้อยู่ว่า อย่างไรเสีย ชายกลุ่มดังกล่าวต้องรีบร้อนและยอมขายทรัพย์ของกลางให้แก่จำเลย จึงเป็นข้อพิรุธอีกประการหนึ่งของจำเลย ดังนั้น พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมฟังได้ว่า จำเลยรับซื้อทรัพย์จของกลางโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ การที่จำเลยนำทรัพย์ดังกล่าวไปขายต่อ แม้จะเป็นการกระทำความผิดฐานรับของโจรเพื่อค้ากำไรก็ตาม แต่เมื่อคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายว่า จำเลยรับของโจรเพื่อค้ากำไร จึงมิอาจลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคสอง ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์จะให้ศาลลงโทษตามบทดังกล่าว คงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง เท่านั้น พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคหนึ่ง จำคุก 2 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้หนึ่งในสามแล้วคงจำคุก 1 ปี 4 เดือน ข้อหาและคำขออื่นให้ยก ป.วิ.อ. มาตรา 2 (4), 192 วรรคสี่ ประมวลกฎหมายอาญา
|