สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

ความรับผิดของผู้รับประกันภัย
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3) peesirilaw หรือ (4) @peesirilaw (5) @leenont1 -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE ความรับผิดของผู้รับประกันภัย สิทธิของผู้เอาประกันภัยอันเกิดแต่สัญญาประกันภัย แม้ผู้ขายสินค้าในฐานะผู้เอาประกันภัยได้มอบสินค้าให้แก่ผู้ขนส่งแล้วความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยหาได้สิ้นสุดเพราะเหตุเรื่องกรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อไม่ สิทธิของผู้เอาประกันภัยจะมีเพียงใดย่อมเป็นไปตามสัญญาประกันภัย สิทธิตามสัญญาซึ่งกฎหมายบัญญัติต่างลักษณะกัน เมื่อเข้าลักษณะใดต้องใช้ลักษณะนั้นบังคับ จะยกเอาบทบัญญัติในเรื่องกรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อแล้วหรือไม่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะซื้อขายมาเป็นข้อวินิจฉัยสิทธิของผู้ขายอันเกิดแต่สัญญาประกันภัยไม่ได้ ในเรื่องสิทธิของผู้เอาประกันภัยอันเกิดแต่สัญญาประกันภัยจะมีเพียงใดก็ต้องเป็นไปตามสัญญาประกันภัย เมื่อโจทก์ที่ 1 (ผู้ขาย) และจำเลย (ผู้รับประกันภัย) ได้ตกลงประกันภัยทุกชนิดที่อาจเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผู้ขนส่งทำการขนส่งสินค้าจากต้นทางกรุงเทพมหานครถึงปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยจึงไม่สิ้นสุดลงเมื่อโจทก์ที่ 1 มอบสินค้าให้แก่ผู้ขนส่งตามเงื่อนไขการซื้อขายแบบเอฟ. โอ. บี. แต่การคุ้มครองจะมีตลอดเวลาที่ผู้ขนส่งทำการขนส่งจากต้นทางกรุงเทพมหานครถึงปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสินค้าสูญหายในระหว่างการขนส่ง จำเลยผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6337/2550 โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 1,770,794 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,673,156 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,254,867 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่จำเลยปฏิเสธการจ่ายเงิน (วันที่ 21 สิงหาคม 2546) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่ 1 กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ที่ 1 โดยกำหนดค่าทนายความให้ 50,000 บาท ยกฟ้องโจทก์ที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับโจทก์ที่ 2 ให้เป็นพับ จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ที่ 1 หรือไม่ ...ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าโจทก์ทั้งสองตกลงซื้อขายสินค้ากันในราคา เอฟ โอ บี โจทก์ที่ 1 ผู้ขายมีหน้าที่เพียงส่งมอบสินค้าให้แก่โจทก์ที่ 2 ในต่างประเทศคือเพียงได้ส่งมอบสินค้าแก่ผู้ขนส่งและผู้ขนส่งได้ออกใบรับขนทางอากาศให้แก่ผู้ส่งของแล้ว กรรมสิทธิ์ในสินค้าโอนไปยังผู้ซื้อคือโจทก์ที่ 2 แล้ว เมื่อโจทก์ที่ 1 เอาประกันภัยในความเสียหายของสินค้าในระหว่างการขนส่งและโจทก์ที่ 1 ได้ส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้ขนส่งแล้ว ความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยย่อมสิ้นสุดลง ความเสียหายอยู่นอกเหนือความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำเลยรับประกันภัยความเสียหายในระหว่างการขนส่งจากโจทก์ที่ 1 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดนั้น ที่จำเลยอ้างว่าเมื่อโจทก์ที่ 1 ได้ส่งมอบสินค้านั้นให้แก่ผู้ขนส่งแล้ว กรรมสิทธิ์ในสินค้าย่อมโอนไปยังผู้ซื้อนั้น เห็นว่า การส่งมอบทรัพย์สินซื้อขายดังกล่าวนั้นมิใช่เป็นข้อวินิจฉัยว่ากรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายโอนไปยังผู้ซื้อแล้วหรือไม่ เพราะการส่งมอบเป็นเพียงหน้าที่ประการหนึ่งของผู้ขายเท่านั้น กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ขายย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขายกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 458 และถ้าสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาบังคับไว้ หรือในการซื้อขายทรัพย์สินซึ่งมิได้กำหนดลงไว้แน่นอน หรือในการซื้อขายทรัพย์เฉพาะสิ่ง กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ขายโอนไปยังผู้ซื้อเมื่อใดก็ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 459, 460 และจะยกเอาบทบัญญัติเรื่องกรรมสิทธิ์โอนไปยังผู้ซื้อแล้วหรือไม่ในลักษณะซื้อขายมาเป็นข้อวินิจฉัยสิทธิของผู้ขายอันเกิดแต่สัญญาประกันภัยไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิตามสัญญาซึ่งกฎหมายบัญญัติต่างลักษณะกัน เมื่อเข้าลักษณะใดต้องใช้ลักษณะนั้นบังคับ ในเรื่องสิทธิของผู้เอาประกันภัยอันเกิดแต่สัญญาประกันภัยจะมีเพียงใดก็ต้องเป็นไปตามสัญญาประกันภัย ในข้อนี้นางเสาวภาและนางสาวปริยาภรณ์ พยานโจทก์ที่ 1 ได้ให้ถ้อยคำตรงกันได้ความว่าโจทก์ที่ 1 และจำเลยได้ตกลงประกันภัยทุกชนิดที่อาจเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผู้ขนส่งทำการขนส่งสินค้าจากต้นทางกรุงเทพมหานครถึงปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวก็ระบุไว้ชัดว่า การประกันภัยนี้เริ่มคุ้มครองตั้งแต่เวลาที่สำนักไปรษณีย์ได้รับวัตถุที่เอาประกันภัยและมีการออกใบรับโดยถูกต้อง และผลความคุ้มครองจะดำเนินต่อเนื่อง โดยเส้นทางการขนส่งตามปกติจนกว่าได้ส่งมอบให้ผู้รับสินค้า ณ ปลายทาง ดังนี้ ความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจึงไม่สิ้นสุดลงเมื่อโจทก์ที่ 1 มอบสินค้าให้แก่ผู้ขนส่ง แต่กรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวคุ้มครองตลอดเวลาที่ผู้ขนส่งทำการขนส่งจากต้นทางกรุงเทพมหานครจนถึงปลายทางที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามที่โจทก์ที่ 1 นำสืบ เมื่อสินค้าสูญหายในระหว่างการขนส่ง จำเลยผู้รับประกันภัยย่อมต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัย... พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นนี้ 30,000 บาท แทนโจทก์ที่ 1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 861 อันว่าสัญญาประกันภัยนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง ตกลงจะใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือใช้เงินจำนวนหนึ่งให้ในกรณีวินาศภัย หากมีขึ้น หรือในเหตุอย่างอื่นในอนาคตดั่งได้ระบุไว้ในสัญญาและใน การนี้บุคคลอีกคนหนึ่งตกลงจะส่งเงินซึ่งเรียกว่าเบี้ยประกันภัย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 0859604258 สำนักงานพีศิริ ทนายความ
|