ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2055/2568: ความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร

 ทนาย ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

ความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2055/2568 เกี่ยวข้องกับความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคหนึ่งและวรรคสาม โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่ครบองค์ประกอบของการพราก เนื่องจากจำเลยไม่ได้พาผู้เสียหายไปที่อื่นหรือแยกออกจากการดูแลของบิดามารดา แม้จะมีการกระทำอนาจารเกิดขึ้นในบ้านของผู้เสียหายเอง จึงไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็ก และพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

ข้อเท็จจริงของคดี

•จำเลยติดต่อผู้เสียหายทางข้อความเพื่อให้เปิดประตูบ้านให้

•ผู้เสียหายเปิดประตูให้จำเลย จากนั้นเดินไปยังห้องนอนของผู้เสียหายเอง

•จำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายในห้องนอน โดยที่ผู้เสียหายยินยอม

•จำเลยไม่ได้พาผู้เสียหายออกไปที่อื่นหรือแยกออกจากอำนาจปกครองของบิดามารดา

คำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดสองกรรม คือ

1.ความผิดฐานพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร

2.ความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน

ลงโทษจำคุกกรรมละ 6 ปี แต่เนื่องจากจำเลยรับสารภาพ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือกรรมละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีเดิมตาม ป.อ. มาตรา 91

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดโทษ ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็น ยกฟ้องข้อหาพรากเด็ก เนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำเลยพาผู้เสียหายไปที่อื่น หรือแยกออกจากอำนาจปกครองของบิดามารดา

ประเด็นข้อกฎหมายสำคัญ

1.ความหมายของคำว่า "พราก" ตามมาตรา 317

1.1 “พราก” หมายถึง การพาไป การทำให้จากไป หรือการแยกเด็กออกจากการปกครองของผู้ปกครอง

1.2 หากเด็กเป็นฝ่ายเปิดประตูให้เองและไม่ได้ถูกพาไปที่อื่น องค์ประกอบความผิดจะไม่ครบ

2.องค์ประกอบของความผิดฐานพรากเด็กไปเพื่อการอนาจาร

2.1 เด็กต้องมีอายุต่ำกว่า 15 ปี

2.2 จำเลยต้องพาเด็กไปหรือทำให้เด็กแยกจากผู้ปกครองโดยไม่ได้รับยินยอม

2.3 มีเจตนาเพื่อการอนาจาร

3.การนับโทษต่อเนื่องและการลดโทษ

3.1 ศาลใช้มาตรา 91 ในการนับโทษต่อจากคดีเดิม

3.2 ใช้มาตรา 78 ในการลดโทษเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพ

คำวินิจฉัยของศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็ก เนื่องจากจำเลยไม่ได้พาผู้เสียหายไปที่อื่น ผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดประตูให้เองและเดินไปห้องนอนเอง ดังนั้นองค์ประกอบของความผิดตามมาตรา 317 จึงไม่ครบถ้วน

ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้ยกฟ้องข้อหาพรากเด็ก แต่คงโทษจำคุกในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีตามมาตรา 277

การวิเคราะห์เชิงลึกและแนวปฏิบัติทางรูปคดี

สำหรับฝ่ายโจทก์

•การฟ้องคดีในข้อหาพรากเด็กต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า เด็กถูกพาออกจากอำนาจปกครอง เช่น มีการพาไปสถานที่อื่น หรือแยกเด็กออกจากการดูแลของบิดามารดา

สำหรับฝ่ายจำเลย

•หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ได้พาเด็กไปที่อื่น หรือเด็กเป็นฝ่ายยินยอมเปิดประตูและเดินไปเอง จะเป็นข้อโต้แย้งสำคัญว่าขาดองค์ประกอบความผิด

แนวปฏิบัติของทนายความ

•ควรตรวจสอบรายละเอียดในคำฟ้อง หากไม่มีถ้อยคำที่แสดงถึงการ “พาไป” หรือ “แยกออก” อย่างชัดเจน สามารถยกข้อต่อสู้เรื่ององค์ประกอบความผิดไม่ครบได้

ข้อคิดทางกฎหมาย

•ความผิดฐานพรากเด็กต้องมีองค์ประกอบครบทุกประการ ศาลตีความอย่างเคร่งครัด

•หากไม่ปรากฏว่ามีการพาเด็กออกจากอำนาจผู้ปกครอง ก็ไม่สามารถเอาผิดฐานพรากเด็กได้ แม้ว่าจะมีการกระทำอนาจารเกิดขึ้นก็ตาม

•คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การเขียนคำฟ้องและการนำสืบพยานต้องละเอียดครบถ้วน จึงจะเอาผิดได้ตามข้อหา


คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2055/2568

ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ตาม ป.อ. มาตรา 317 วรรคหนึ่งและวรรคสามนั้น การพรากหมายถึง การทำให้จากไป การพาไปเสียจาก การทำให้แยกออกจากกันหรือแยกออกไป ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล จึงหมายถึงการพาไปหรือแยกเด็กออกไปจากอำนาจปกครองดูแล ทำให้อำนาจปกครองดูแลของบิดามารดาเด็กถูกรบกวนหรือถูกกระทบกระเทือนโดยบิดามารดาเด็กไม่รู้เห็นยินยอม อันเป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของบิดามารดาเด็ก การที่จำเลยไปที่บ้านของผู้เสียหายที่ 1 และเข้าไปกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 1 ในห้องนอนของผู้เสียหายที่ 1 โดยจำเลยมิได้พาหรือนำตัวผู้เสียหายที่ 1 ไปที่อื่น จึงมิได้เป็นการพรากเด็กอันเป็นการขาดองค์ประกอบความผิดตามมาตราดังกล่าว


โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 277, 317 นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 548/2566 ของศาลชั้นต้น

จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ


ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก, 317 วรรคสาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร จำคุก 6 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร คงจำคุก 3 ปี ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม คงจำคุก 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี นับโทษต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ 558/2566 ของศาลชั้นต้น

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลดโทษ

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา


ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีประเด็นตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจารหรือไม่ เห็นว่า ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคหนึ่งและวรรคสามนั้น การพรากตามพจนานุกรมหมายถึง การทำให้จากไป การพาไปเสียจาก การทำให้แยกออกจากกันหรือแยกออกไป ความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล จึงหมายถึงการพาไปหรือแยกเด็กออกไปจากอำนาจปกครองดูแล ทำให้อำนาจปกครองดูแลของบิดามารดาเด็กถูกรบกวนหรือถูกกระทบกระเทือนโดยบิดามารดาเด็กไม่รู้เห็นยินยอม อันเป็นการล่วงละเมิดอำนาจปกครองของบิดามารดาเด็ก คดีนี้พยานโจทก์ที่นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยฟังได้ว่า วันเกิดเหตุ เวลา 0.10 นาฬิกา จำเลยพิมพ์ข้อความแจ้งผู้เสียหายที่ 1 ว่าจะเดินมาที่หน้าบ้านและให้เปิดประตูให้ ต่อมา จำเลยพิมพ์ข้อความแจ้งผู้เสียหายที่ 1 ว่าจำเลยอยู่หน้าบ้านแล้ว ให้เปิดประตูบ้านให้ ผู้เสียหายที่ 1 เดินไปเปิดประตูหน้าบ้านให้ จากนั้นจำเลยและผู้เสียหายที่ 1 เดินไปห้องนอนของผู้เสียหายที่ 1 ต่อมาจำเลยกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 1 โดยความยินยอมของผู้เสียหายที่ 1 แล้วนอนอยู่ในห้องนอนผู้เสียหายที่ 1 จนเวลาประมาณ 11 นาฬิกา ผู้เสียหายที่ 2 เปิดประตูห้องนอนเข้ามาพบจำเลยกับผู้เสียหายที่ 1 ข้อเท็จจริงในคดีจึงรับฟังได้ว่า จำเลยไปที่บ้านของผู้เสียหายที่ 1 และเข้าไปกระทำชำเราผู้เสียหายที่ 1 ในห้องนอนโดยความยินยอมของผู้เสียหายที่ 1 โดยจำเลยมิได้พาหรือนำตัวผู้เสียหายที่ 1 ไปที่อื่นอันเป็นองค์ประกอบความผิดของความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าไปไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เมื่อขาดองค์ประกอบของการพรากเช่นนี้แล้ว การกระทำและเจตนาของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายกฟ้องความผิดฐานนี้เสีย จึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

 




คำพิพากษาฎีกาทั่วไป

(ฎีกาที่ 1346/2568) การแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวมัสยิด ก. และอำนาจคณะกรรมการอิสลาม
(ฎีกาที่ 3589/2567): ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจ, การประปานครหลวง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4128/2567 การริบยานพาหนะในคดีบุหรี่หนีภาษีและการตีความมาตรา 165 พ.ร.บ.ศุลกากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4252/2567 คัดค้านอนุญาโตตุลาการ สิทธิยื่นต่อศาลแม้กระบวนพิจารณาชั้นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5669/2567: อำนาจฟ้องระหว่างหน่วยงานรัฐกับข้อยกเว้นการใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6020 - 6021/2567: การเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการในสัญญาประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6427/2567 ความผิดศุลกากร การคำนวณโทษปรับตามมาตรา 27 ทวิ และความหมายของคำว่า "อากร"
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6542/2567 : คดีผู้บริโภคฟ้องบริษัทรับเหมาก่อสร้าง กรณีก่อสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐานและไม่มีใบอนุญาต พร้อมการกำหนดค่าเสียหายเพื่อการลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6848/2567 : คดีติดป้ายหาเสียงนอกพื้นที่ที่กำหนด ศาลชี้เป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6849/2567 : ความผิดติดตั้งป้ายหาเสียงนอกพื้นที่ตามกฎหมายเลือกตั้ง และการวินิจฉัย “ต่างกรรมต่างวาระ”
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2551: ข้อพิพาทการจัดการมรดกตามพินัยกรรมของอิสลามศาสนิกในจังหวัดสตูล
ศาลฎีกายืนคำสั่งริบรถยนต์ที่ใช้ลักลอบขนคนต่างด้าว: คำพิพากษาที่ 719/2568
สลากกินแบ่งรัฐบาล 48 ฉบับหายกลายเป็นคดียักยอกทรัพย์: วิเคราะห์คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2568
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2568: การใช้หมวกนิรภัยเพื่อปิดบังใบหน้าในการชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2568 : สรุปวินิจฉัยความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และสิทธิของผู้เสียหาย
คดีทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 และหลักห้ามฎีกาประเด็นข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาตัดสินคืนแหวนทองคำหรือชดใช้ราคาแทน พร้อมดอกเบี้ย ในคดีลักทรัพย์นายจ้าง | คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2568
ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คืออะไร?, ข้อห้ามโอนสิทธิ ส.ป.ก., สิทธิการทำกินในที่ดิน ส.ป.ก., การใช้ที่ดินต่างดอกเบี้ยในเขต ส.ป.ก.
อำนาจนายกรัฐมนตรี คำสั่งน้ำมันเชื้อเพลิง, การส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ความผิดฐานทำคำรับรองอันเป็นเท็จในงานตรวจสอบมาตรฐานสินค้า
ผลของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ. 2550 ต่อคดีอาญา
เสือสวนสัตว์หลุดกัดศีรษะโจทก์, ละเมิด, เรียกค่าสินไหมทดแทน
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน-พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน
จัดทำและส่งเป็นงบการเงินโดยมีเจตนาเพื่อลวง
ใบจอง (น.ส. 2)
โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ท้ายฟ้องแนบหนังสือมอบอำนาจผิดฉบับถือเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อย
ความเสียหายไม่เกินวงเงินความคุ้มครองของสัญญาประกันภัย
การคืนเงินค่าหุ้นในภาวะขาดทุนตามคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์
อำนาจฟ้องขณะยังไม่มีคำสั่งศาลให้เป็นคนไร้ความสามารถ
วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษา
อำนาจพิจารณาคดีตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ.2559
การกระทำโดยสำคัญผิด
ผิดฐานพาบุคคลไปเพื่อการอนาจารเพื่อสนองความใคร่ของตนเอง
ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คืออะไร-การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ความผิดฐานรับของโจรได้ต้องมีการลักทรัพย์เกิดขึ้นแล้ว
ภาษีให้กู้ยืมเงินไม่มีค่าตอบแทน
กฎหมายอันมีที่ประสงค์เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่น ๆ
แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
สิทธิขั้นพื้นฐานในเชิงปรัชญา
ลูกหนี้ค้างจ่ายสรรพากรโอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์
บุตรผู้เยาว์ยังไร้เดียงสาย่อมไม่สามารถให้ความยินยอมได้
สำนักงานทนายความ รับปรึกษากฎหมาย
ตัวการย่อมมีความผูกพันต่อบุคคลภายนอก
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างและคำนิยามศัพท์
อำนาจฟ้องคดี
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ตีความไปในทางที่เป็นคุณแก่คฝ่ายผู้ต้องเสียในมูลหนี้
ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบ
ห้ามมิให้อุทธรณ์การประเมินภาษี
โอนที่ดินเพื่อให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์
โอนที่ดินตามคำพิพากษาเป็นการขายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
สิทธิหักลดหย่อนสำหรับบุตรซึ่งเกิดจากภริยาเดิม
รับเงินมาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายต้องคืนเงินในฐานลาภมิควรได้
คุ้มครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์
คดีพิพาทเกี่ยวกับการขอคืนค่าภาษีอากร
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องเป็นอันระงับ
ขาดคุณสมบัติรับราชการเรียกเงินเดือนคืนได้หรือไม่?
ความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย
ผู้แทนเฉพาะการของนิติบุคคลอาคารชุดมีประโยชน์ได้เสียขัดกัน
ทำหนังสือมอบอำนาจล่วงหน้า จำเลยนำไปทำจำนอง ฟ้องเพิกถอน
สนามกอล์ฟต้องเสียภาษีโรงเรือนหรือไม่?
สัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก
ใบมอบฉันทะที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องติดอากร
ภัยพิบัติที่อาจป้องกันได้ - เหตุสุดวิสัยเป็นเหตุที่ไม่อาจป้องกันได้
การซื้อรถยนต์ที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาโดยหลีกเลี่ยงอากรมีความผิดถูกจำคุก 4 ปี
คำสั่งขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมต้องมีพฤติการณ์พิเศษเท่านั้น
ความสำคัญผิดในตัวบุคคล กระทำต่ออีกบุคคลหนึ่งโดยสำคัญผิด article
ศาลต้องยกฟ้อง หรือจำหน่ายคดี
โอนที่ดินให้บุตรไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
คดีแพ่งเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวและมรดกอิสลาม
สิทธิเรียกร้องคืออะไร การบังคับชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องที่ได้รับโอน
สิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม
ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่ง
ระบอบการเมืองการปกครอง