

สิทธิขั้นพื้นฐานในเชิงปรัชญา
สิทธิขั้นพื้นฐานในเชิงปรัชญา เนื่องจากขอบเขตหรือแนวสังเขปของวิชาสิทธิมนุษยชน(น.396)นี้ได้กำหนดให้นักศึกษาต้องเรียนรู้เรื่องปรัชญาที่เกี่ยวกับบรรดาสิทธิขั้นพื้นฐานด้วย ฉะนั้นในบันทึกนี้ข้าพเจ้าจึงจะขอกล่าวถึง สิทธิขั้นพื้นฐานในเชิงปรัชญา(ไล่ไปตามแต่ละยุคสมัยตั้งแต่อดีตจนถึงสมัยใหม่) ซึ่งรายละเอียดต่างๆมีดังต่อไปนี้ ในสมัยนี้มองว่าสิทธิเป็นสิ่งที่ผูกโยงกับระบบคุณธรรมและเหตุผล นอกจากนี้ยังมีแนวคิดว่าความรู้และความเข้าใจจะเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์ จึงอาจกล่าวได้ว่าสิทธินั้นเป็นเรื่องที่เกิดจากความรู้และเหตุผล และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยแนวคิดต่างๆในสมัยนี้ถูกคิดขึ้นโดยนักคิดดังต่อไปนี้ นอกจากนี้ เขายังกล่าวไว้ว่า มนุษย์ทุกคนนั้นมีกิเลส แต่มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐที่ควบคุมตนเองได้ ฉะนั้น หากเรารู้จักควบคุมตนเอง ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามสัญชาติญาณ มนุษย์ก็จะมีความรู้คุณธรรมและทำในสิ่งที่ถูกต้อง 1. ภาคที่เป็นสัตว์โลกทั่วไป - ภาคนี้เป็นภาคที่สิ่งมีชีวิตทั่วไปมี เช่น กิน ขับถ่าย นอน เป็นต้น 2.ภาคที่เป็นสัตว์ประเสริฐ - ภาคนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่น คือ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาระดับสูง และรู้จักแยกแยะสิ่งผิดชอบชั่วดี รวมทั้งมีความรับผิดชอบในการกระทำของตน 1.แนวคิดของพวกสโตอิก (Stoicism) พวกนี้มีแนวเกี่ยวกับเรื่องแบบแผนการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง โดยพวกสโตอิก กล่าวว่า มนุษย์ต้องรู้จักหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และทำเพื่อสังคม นอกจากนี้พวกเขายังคิดว่าการที่มนุษย์มีความทุกข์นั้นเพราะมนุษย์มีความอยาก นั่นเอง 2.แนวคิดที่ตรงข้ามกับพวกสโตอิก 2.1. พวก Epicurian - เสนอว่ามนุษย์ควรดำเนินชีวิตโดยการแสวงหาความสุขใส่ตัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น รับแนวคิดของพวก Stoic หรือ Stoicism มาเป็นฐานหรือเป็นหลักการ ซึ่งนำไปสู่การสร้างกฎหมายบ้านเมืองของพวกเขา จึงอาจกล่าวได้ว่าแนวคิดนามธรรมนั้นกรีกเป็นคนคิดค้น ส่วนแนวคิดเหล่านั้นโรมันเป็นคนเอามาทำให้เป็นรูปธรรมต่อไป โดยในยุคนี้ มีนักปราชญ์หรือนักคิดคนสำคัญก็คือ ชิเซโร (Cicero) เขาเป็นผู้กล่าวไว้ว่า กฎหมายที่แท้จริง คือ กฎหมายที่ถูกต้อง เป็นนิรันดร์ และถูกต้องเสมอในทุกที่ทุกเวลา (Cosmopolitanism) นอกจากนี้ในสมัยนี้ยังเกิดประมวลกฎหมายที่สำคัญขึ้น ซึ่งก็คือ ประมวลกฎหมายของพระเจ้าจุสติเนียน (Corpus Juris Civilis) จึงอาจกล่าวได้ว่า ในสมัยโรมันนี้ ต่างจากสมัยกรีก ตรงที่สิทธินั้นได้รับการเขียนไว้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อาทิ เขียนไว้ในกฎหมาย ในขณะที่กรีกนั้นได้ปล่อยให้สิทธิเป็นเรื่องของธรรมชาติและความถูกต้อง (เป็นนามธรรม) ที่มนุษย์เข้าถึงได้ ยุคนี้เป็นยุคศักดินาหรือถูกเรียกว่า ยุคมืด (Dark Age) ของยุโรป ทั้งนี้ก็เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในสมัยนี้ถูกกำหนดโดยศาสนจักร แม้แต่ผู้ปกครองหรือกษัตริย์ในสมัยนี้ก็ยังเป็นรองหรือต้องเกรงใจต่อ สันตปาปา (Pope) ส่วนคำสอนในยุคนี้มีดังต่อไปนี้ 1.ความยุติธรรมต้องขึ้นกับคำสอนของศาสนา จากทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าในยุคนี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนผูกติดกับศาสนา ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของสิทธิต่างๆก็เป็นพระผู้เป็นเจ้ากำหนดให้มนุษย์ 1.แนวคิดที่มองมนุษย์ในแง่ลบ 2.แนวคิดที่มองมนุษย์ในแง่บวก |