

ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่ง ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่ง ขั้นตอนการดำเนินคดีแพ่งเริ่มต้นจากการเสนอคำฟ้องหรือคำร้องขอต่อศาลที่มีเขตอำนาจ ต่อมาก็จะมีการยื่นคำให้การหรือยื่นคำร้องคัดค้านโดยจำเลยหรือผู้คัดค้านหรืออาจจะมีการฟ้องแย้งมาในคำให้การก็ได้ เมื่อจำเลยได้รับหมายเรียกให้ยื่นคำให้การแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำให้การภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย หรือตามคำสั่งศาลให้ถือว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ถ้าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การให้โจทก์มีคำขอต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดให้จำเลยยื่นคำให้การได้สิ้นสุดลง เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดให้ตนเป็นฝ่ายชนะคดีโดยขาดนัด ถ้าโจทก์ไม่ยื่นคำขอต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นเสียจากสารบบความ เมื่อมีการยื่นคำให้การแล้วก็อาจจะมีการชี้สองสถานโดยมีการกำหนดประเด็นข้อพิพาท และกำหนดให้คู่ความนำพยานหลักฐานมาสืบ แล้วอาจจะมีการร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษา ถ้ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องคุ้มครองโจทก์ก็อาจจะยื่นคำร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราวก่อนศาลพิพากษา หรือขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาได้ตามลักษณะของคำฟ้องและคำขอบังคับที่ยื่นมาในคำร้องขอหรือคำฟ้องนั้น เมื่อศาลได้สืบพยานเสร็จก็ต้องมีคำพิพากษา แล้วก็อาจมีการอุทธรณ์และฎีกาต่อไป ในชั้นที่จะมีการบังคับตามคำพิพากษา ก็จะต้องมีการออกคำบังคับกำหนดเวลาให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องปฏิบัติเมื่อครบกำหนดเวลาแล้วลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับก็จะมีการตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการบังคับคดีให้ได้ผลตามที่ศาลพิพากษา ซึ่งในชั้นบังคับคดีก็อาจจะมีข้อพิพาทเกิดขึ้นเช่น การร้องขัดทรัพย์ การขอเฉลี่ยทรัพย์ การขอกันส่วน การขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิ หรือการขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาด ถ้าหากว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีไปโดยไม่ชอบ สำหรับผู้ที่ยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล ก็สามารถที่จะขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ ซึ่งขั้นตอนหลักสำหรับคดีแพ่งก็จะมีโดยสรุปตามที่กล่าวข้างตันนั้น
|