![](https://www.peesirilaw.com/images/column_1718776501/lawyer-under-800-129.jpg)
![](/images_profiles/heading2.jpg)
เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครอง เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ เปลี่ยนอำนาจปกครองให้บิดาดูแล, เปลี่ยนผู้ดูแลจากมารดาเป็นบิดา การถอนอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ บิดามารดาจดทะเบียนหย่าโดยมีข้อตกลงกันว่าให้มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองของบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียวต่อมามารดาไม่สามารถเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตรผู้เยาว์ต่อไปเนื่องจากมิได้ประกอบอาชีพ ประสงค์จะให้เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองเป็นบิดาของผู้เยาว์ ประกอบกับบิดาผู้เยาว์รับราชการเป็นทหารสามารถเลี้ยงดูให้การศึกษาและความอบอุ่นแก่บุตรได้ ย่อมถือได้ว่ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภายหลังแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองได้โดยคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8161/2543 บทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1521 ประกอบมาตรา 1566(5) ที่ให้อำนาจศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิและประโยชน์ของผู้เยาว์ ในการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ใช้อำนาจปกครองมิได้กำหนดวิธีการที่คดีจะมาสู่ศาล แสดงว่าประสงค์จะให้คดีขึ้นสู่ศาลได้ทั้งการเสนอคดีโดยทำเป็นคำฟ้องอย่างคดีมีข้อพิพาท และทำเป็นคำร้องขอแบบคดีไม่มีข้อพิพาท ฉะนั้นเมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นบิดาของเด็กหญิง ป. อ้างในคำร้องขอว่า ร. มารดาเด็กหญิง ป. ไม่สามารถเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กหญิงป. เนื่องจากมิได้ประกอบอาชีพ ประสงค์จะให้เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองเป็นผู้ร้อง ทั้งผู้ร้องรับราชการเป็นทหาร สามารถอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษาและความอบอุ่นแก่เด็กหญิง ป. ได้ หากเป็นจริงย่อมถือได้ว่ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภายหลังแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองได้โดยคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของเด็กหญิง ป. เป็นสำคัญหาใช่เป็นเรื่องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลไม่แม้ผู้ร้องสอดเสนอคดีโดยทำเป็นคำร้องขอศาลก็รับคำร้องขอของผู้ร้องไว้พิจารณาได้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องกับนางรัชนก เป็นสามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย มีบุตรด้วยกัน 1 คน คือเด็กหญิง ป เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2538 ผู้ร้องและนางรัชนกได้จดทะเบียนหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยา โดยตกลงให้นางรัชนกเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กหญิง ป เมื่อต้นเดือนมกราคม 2542 นางรัชนกแจ้งแก่ผู้ร้องว่าไม่สามารถเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กหญิง ป ได้เนื่องจากไม่ได้ประกอบอาชีพใด ๆ ผู้ร้องประกอบอาชีพรับราชการทหารมีเงินเดือนและสวัสดิการ สามารถเลี้ยงดู ให้การศึกษา ให้ความอบอุ่นแก่เด็กหญิง ป ได้ ขอให้มีคำสั่งให้เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองเด็กหญิง ป จากนางรัชนกเป็นผู้ร้อง ศาลชั้นต้นตรวจคำร้องขอแล้วมีคำสั่งว่า ไม่ใช่กรณีที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้ร้องในอันที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธินำคดีมาสู่ศาลเพื่อให้วินิจฉัยตามคำร้อง พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า "มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า มีกฎหมายให้สิทธิแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของเด็กหญิงปุษยายื่นคำร้องขอเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กหญิงปุษยาจากนางรัชนกผู้เป็นมารดาเป็นผู้ร้องได้หรือไม่ เห็นว่า ตามคำร้องขอของผู้ร้องปรากฏว่าผู้ร้องกับนางรัชนกสามีภริยายินยอมจดทะเบียนหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยาโดยทำเป็นหนังสือตกลงกันให้นางรัชนกแต่ผู้เดียวเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองของเด็กหญิง ป จึงเป็นกรณีที่ทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1566(6) เมื่อตกลงกันตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว หากจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ใช้อำนาจปกครองศาลเท่านั้นที่มีอำนาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขตามมาตรา 1521 ประกอบมาตรา 1566(5) แต่การที่ศาลจะใช้อำนาจเปลี่ยนแปลงได้นั้นจะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ใช้อำนาจปกครองประพฤติตนไม่สมควรหรือภายหลังพฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปเข้ามาสู่ความรู้ของศาล กล่าวคือ จะต้องมีคดีมาสู่ศาลโดยบุคคลที่เกี่ยวข้องเสนอคดีของตนต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้องอย่างคดีมีข้อพิพาท เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ประการหนึ่งกับทำเป็นคำร้องขอเมื่อบุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาลอีกประการหนึ่งเนื่องจากมาตรา 1521 ประกอบมาตรา 1566(5) เป็นบทบัญญัติที่ให้อำนาจศาลเพื่อคุ้มครองสิทธิและประโยชน์ของผู้เยาว์ การที่มาตรา 1521 ประกอบมาตรา 1566(1) มิได้กำหนดวิธีการที่คดีจะมาสู่ศาลประการใดดังที่มีบัญญัติไว้ในมาตราอื่น แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 แสดงว่าบทบัญญัติดังกล่าวประสงค์จะให้คดีขึ้นสู่ศาลได้ ทั้งการเสนอคดีโดยทำเป็นคำฟ้องอย่างคดีมีข้อพิพาทและทำเป็นคำร้องขอแบบคดีไม่มีข้อพิพาทเพื่อเป็นการคุ้มครองและรักษาประโยชน์ของผู้เยาว์ดังกล่าว เมื่อผู้ร้องอ้างในคำร้องขอว่านางรัชนกไม่สามารถเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็กหญิง ป เนื่องจากมิได้ประกอบอาชีพ ประสงค์จะให้เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองเป็นผู้ร้อง ทั้งผู้ร้องรับราชการเป็นทหารสามารถเลี้ยงดูให้การศึกษาและความอบอุ่นแก่เด็กหญิง ป ได้ หากเป็นจริงตามคำร้องขอย่อมถือได้ว่ามีพฤติการณ์เปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในภายหลังแล้ว ศาลจึงมีอำนาจสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองได้โดยคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของเด็กหญิง ป เป็นสำคัญตามมาตรา 1521 ประกอบมาตรา 1566(1) ดังนั้น ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งรับคำร้องขอของผู้ร้องไว้พิจารณาได้ หาใช่เป็นเรื่องไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ผู้ร้องจะต้องใช้สิทธิทางศาลไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาต้องกันให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาผู้ร้องฟังขึ้น" พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 และคำสั่งศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำร้องขอของผู้ร้อง แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามรูปคดี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520 ในกรณีหย่าโดยความยินยอมให้สามีภริยาทำความตกลง เป็นหนังสือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ถ้ามิได้ตกลงกันหรือตกลงกันไม่ได้ให้ศาลเป็นผู้ชี้ขาด ในกรณีหย่าโดยคำพิพากษาของศาลให้ศาลซึ่งพิจารณาคดีฟ้องหย่านั้นชี้ขาดด้วยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรคนใด ในการพิจารณาชี้ขาด ถ้าศาลเห็นว่ามีเหตุที่จะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสนั้นได้ตามมาตรา 1582 ศาลจะถอนอำนาจปกครองของคู่สมรสและสั่งให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ปกครองก็ได้ ทั้งนี้ให้ศาลคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรนั้นเป็นสำคัญ มาตรา 1566 บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของ บิดามารดาอำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือมารดาในกรณีดังต่อไปนี้ Section 1566. Unless Sui Juris, Child is Subject to Parental Control A child is subject to parental power as long as he is not sui juris. The parental power is exercised by the father or the mother in any of the following cases: 1. the mother or the father is dead; 2. It is uncertain whether the mother or the father is living or dead; 3. the mother or the father has been adjudged incompetent or quasi-incompetent; 4. the mother or the father is placed in a hospital by reason of mental infirmity; 5. the parental power has been granted to the mother or the father by an order of the court; 6. the mother or the father have come to such agreement as provided by the law that it can be made. |