-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258
-ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th
-ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line :
(1) @leenont หรือ (2) @leenont1 หรือ (3) @peesirilaw หรือ (4) peesirilaw (5) leenont
-Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE
ให้ใช้นามสกุลในสูติบัตรยังไม่เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
การที่บิดาไปแจ้งการเกิดและยินยอมให้บุตรใช้ชื่อสกุล (นามสกุล) ของตน มีชื่อเป็นบิดาในสูติบัตร อุปการะเลี้ยงดูตั้งแต่เกิดอย่างเช่นบิดากับบุตรทั่ว ๆ ไป ก็ยังไม่ถือว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย เพราะกฎหมายกำหนดให้บุตรที่เกิดจากบิดา มารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันนั้น จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายมี 3 กรณีคือ 1. บิดามารดาสมรสกันในภายหลัง 2. บิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร 3. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 452/2553
ป.พ.พ มาตรา 1547 บัญญัติว่า เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกันจะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนี้ พฤติการณ์รับรองว่าผู้เยาว์เป็นบุตร เช่น การให้ผู้เยาว์ใช้ชื่อสกุลของจำเลย และการที่จำเลยอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์อย่างบิดากับบุตรจึงไม่ใช่เหตุที่กฎหมายรับรองทำให้ผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยได้ จำเลยจึงไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เยาว์
มาตรา 1547 เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยนำบุตรผู้เยาว์มามอบคืนให้แก่โจทก์และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับบุตรผู้เยาว์อีกต่อไป(เรียกบุตรคืนจากสามีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย)
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยส่งมอบเด็กหญิงจิตตินีหรืออนัญพร บุตรผู้เยาว์คืนให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ยุติว่า เด็กหญิงจิต ผู้เยาว์ เกิดจากโจทก์ในระหว่างอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส และต่อมาไม่ปรากฏว่าโจทก์กับจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกันหรือจำเลยได้จดทะเบียนว่าผู้เยาว์เป็นบุตรหรือมีคำพิพากษาของศาลว่าผู้เยาว์เป็นบุตรของจำเลย ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีตามที่จำเลยฎีกาเพียงว่าการที่จำเลยมีพฤติการณ์รับรองว่าผู้เยาว์เป็นบุตร เช่น การให้ผู้เยาว์ใช้ชื่อสกุลของจำเลยและการที่จำเลยอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์อย่างบิดากับบุตรมาตลอด ถือได้ว่าจำเลยเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เยาว์แล้วหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1547 บัญญัติไว้ว่า เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกันจะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนี้ พฤติการณ์รับรองว่าผู้เยาว์เป็นบุตร เช่น การให้ผู้เยาว์ใช้ชื่อสกุลของจำเลย และการที่จำเลยอุปการะเลี้ยงดูผู้เยาว์อย่าบิดากับบุตรจึงไม่ใช่เหตุที่กฎหมายรับรองทำให้ผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยได้ จำเลยจึงไม่ใช่บิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้เยาว์ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ตามกฎหมาย จำเลยจึงต้องคืนผู้เยาว์แก่โจทก์ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
( พิศาล อัยยะวรากูล - นพวรรณ อินทรัมพรรย์ - พิษณุ ดำรงเกียรติวัฒนา )