ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




สิทธิอำนาจปกครองบุตรหลังหย่า และเงื่อนไขการ ‘ตั้งผู้ปกครอง’(ฎีกา 2960/2548)
คำพิพากษาศาลฎีกา 2960/2548, อำนาจปกครองบุตรหลังหย่า, ข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่าอำนาจปกครองเพียงผู้เดียว, เปลี่ยนอำนาจปกครองเมื่อผู้ใช้อำนาจถึงแก่กรรม, เงื่อนไขการเพิกถอนอำนาจปกครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1582, เงื่อนไขการตั้งผู้ปกครองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1585 และ 1586, สิทธิญาติร้องขอตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์, กรณีป้าร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ไม่สำเร็จ, วิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลฎีกาเกี่ยวกับอำนาจปกครอง
    ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์

     เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

บทนำ
คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกรณีอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์หลังการหย่า ซึ่งคู่สมรสได้ตกลงกันให้บิดาเป็นผู้มีอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์เพียงผู้เดียวตามข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่า เมื่อบิดาถึงแก่ความตาย มารดาซึ่งยังมีชีวิตอยู่รับอำนาจปกครองตามกฎหมาย ไม่ถือว่าเป็นกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง จึงไม่มีสิทธิให้ญาติอื่น เช่น ป้า ของผู้เยาว์ ยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ภายใต้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา 1586 วรรคหนึ่ง

ข้อเท็จจริง
ผู้เยาว์เป็นบุตรของ นาย ว. กับ นาง ผู้คัดค้าน (มารดา) ซึ่งจดทะเบียนสมรสและต่อมาได้หย่ากัน แล้วทั้งสองได้ทำ “ข้อตกลง” ให้บุตรอยู่ในการปกครองของนาย ว. (บิดา) เพียงผู้เดียว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง และมาตรา 1566 วรรคสอง (6) ซึ่งอนุญาตให้คู่สมรสตกลงได้ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรหลังหย่า. 
นาย ว. ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์มาโดยตลอด จนกระทั่งถึงแก่ความตาย
หลังจากบิดาถึงแก่ความตาย ผู้คัดค้าน (มารดา) ได้รับอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์ ตามบทบัญญัติ มาตรา 1566 วรรคสอง (1) ซึ่งกำหนดว่า เมื่อบิดาถึงแก่ความตาย มารดาจะได้รับอำนาจปกครองผู้เยาว์แทนบิดา
ขณะที่ผู้ร้อง (ซึ่งเป็นป้า) ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ โดยอ้างเหตุว่า มารดาได้ครอบครองดูแลผู้เยาว์มาแล้ว และตนสามารถเลี้ยงดูได้ดี เป็นต้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวนพยานของผู้ร้องและผู้คัดค้าน แล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ส่วนศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน พร้อมให้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์เป็นพับ
ผู้ร้องได้ฎีกา โดยประเด็นหลักคือว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์หรือไม่

ประเด็นสำคัญที่สุดของคดีนี้อยู่ที่การตีความและการใช้บังคับบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520, มาตรา 1566, มาตรา 1582, มาตรา 1585 และมาตรา 1586 ซึ่งเป็นมาตราที่เกี่ยวข้องกับ “อำนาจปกครองบุตร” และ “การตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์” โดยตรง
คำพิพากษานี้เป็นแนวสำคัญที่ยืนยันหลักว่า การตกลงเรื่องอำนาจปกครองบุตรหลังหย่าเป็นข้อตกลงที่มีผลตามกฎหมาย และเมื่อผู้ใช้อำนาจปกครองถึงแก่กรรม อำนาจดังกล่าวจะกลับไปยังอีกฝ่ายหนึ่งโดยอัตโนมัติ ไม่ถือว่าผู้เยาว์ “ไม่มีบิดามารดา” ที่จะเปิดช่องให้ญาติยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครองแทนได้
Key Words สำคัญที่สุดของคดีนี้พร้อมคำอธิบายสั้น ๆ
1. อำนาจปกครองบุตร 
ประเด็นหลักของคดีคือ การกำหนดว่าผู้ใดมีสิทธิใช้อำนาจปกครองบุตรภายหลังการหย่า ซึ่งกฎหมายให้คู่สมรสตกลงกันได้ตามมาตรา 1520 และถือเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย
2. ข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่า 
การระบุในข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่าว่าฝ่ายบิดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพียงผู้เดียว เป็นข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งศาลเพิ่มเติม
3. อำนาจปกครองกลับสู่มารดาเมื่อบิดาถึงแก่กรรม 
ตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) เมื่อผู้ใช้อำนาจปกครองถึงแก่กรรม อำนาจดังกล่าวจะกลับไปยังบิดาหรือมารดาอีกฝ่ายหนึ่งโดยอัตโนมัติ จึงถือว่าผู้เยาว์ยังมีผู้ปกครองตามกฎหมายอยู่
4. การถอนอำนาจปกครอง 
การเพิกถอนอำนาจปกครองต้องเป็นคำสั่งของศาลและมีเหตุชัดเจนตามมาตรา 1582 ในคดีนี้ไม่ได้มีคำสั่งศาลเพิกถอนอำนาจปกครองของมารดา ผู้เยาว์จึงยังมีผู้ใช้อำนาจตามกฎหมาย
5. การตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ 
ตามมาตรา 1585 และ 1586 บุคคลภายนอกจะร้องขอตั้งผู้ปกครองได้ต่อเมื่อผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขในคดีนี้ ผู้ร้องซึ่งเป็นป้าจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์
สรุปสาระสำคัญของคดีนี้อยู่ที่ “ขอบเขตอำนาจปกครองบุตรตามข้อตกลงหย่า และการกลับคืนอำนาจปกครองสู่มารดาโดยผลของกฎหมาย” ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ศาลฎีกาใช้วินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิขอตั้งตนเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์

คำวินิจฉัยของศาลฎีกา
ศาลฎีกาได้พิจารณาว่า ข้อเท็จจริงปรากฏชัดว่า คู่สมรสได้ตกลงในการหย่าให้บิดาใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์เพียงผู้เดียวตามมาตรา 1520 วรรคหนึ่ง ประกอบ มาตรา 1566 วรรคสอง (6) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้ ได้. 
ไม่ใช่กรณีที่ผู้คัดค้าน (มารดา) ถูกเพิกถอนอำนาจปกครอง เพราะการเพิกถอนอำนาจปกครองเป็นอำนาจของศาล และต้องมีเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 1582 ซึ่งในคดีนี้ไม่มี 
เมื่อบิดาผู้ใช้อำนาจปกครองจนถึงแก่ความตาย ตามข้อกฎหมาย มาตรา 1566 วรรคสอง (1) บัญญัติว่า “เมื่อผู้มีอำนาจปกครองฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย … ให้ฝ่ายผู้ใช้สิทธิอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมีสิทธิใช้อำนาจปกครองอยู่กลับเข้ามาแทน” ดังนั้น มารดาซึ่งเป็นผู้คัดค้านจึงกลับมีอำนาจปกครองผู้เยาว์
เนื่องจากผู้เยาว์ยังมีมารดาคือผู้คัดค้าน ที่มิได้ถูกเพิกถอนอำนาจปกครอง และยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่เข้าเงื่อนไขของ ป.พ.พ. มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง (“บุคคลที่จะร้องขอตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว”) ประกอบกับมาตรา 1586 วรรคหนึ่ง (“ผู้ปกครองตามมาตรา 1585 … ให้ตั้งโดยคำสั่งศาลเมื่อมีการร้องขอของญาติของผู้เยาว์ …”) ดังนั้น ผู้ร้อง (ป้า) จึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์
ศาลฎีกาจึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่า “ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น” และให้ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาเป็นพับ

วิเคราะห์ประเด็นทางกฎหมาย
1. ข้อตกลงหลังการหย่าเกี่ยวกับอำนาจปกครอง (มาตรา 1520 + มาตรา 1566)
ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีหย่าโดยความยินยอม ให้สามีภริยาทำความตกลงเป็นหนังสือว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร …” ซึ่งในคดีนี้มีข้อตกลงเช่นนั้น จึงให้ผลตามกฎหมายว่าบิดามีอำนาจปกครองผู้เยาว์เพียงผู้เดียว
มาตรา 1566 วรรคสอง (6) ให้รับรองว่า หากมีข้อตกลงดังกล่าว ก็ถือเป็นผู้มีอำนาจปกครองตามที่ตกลง
เมื่อบิด์ถึงแก่ความตายตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) อำนาจปกครองจึงตกกลับไปมารดาโดยอัตโนมัติ
2. เงื่อนไขการตั้งผู้ปกครองบุคคลภายนอก (มาตรา 1585 และ 1586)
มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า ต้องเป็นกรณีที่ “ผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว” จึงจะให้มีผู้ปกครองใหม่
มาตรา 1586 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า “ผู้ปกครองตามมาตรา 1585 … ให้ตั้งโดยคำสั่งศาลเมื่อมีการร้องขอของญาติของผู้เยาว์ …”
ในคดีนี้ ผู้เยาว์ยังมีมารดาซึ่งมิได้ถูกเพิกถอนอำนาจปกครอง และมีหนังสือข้อตกลงกับบิดา จึงไม่เข้าเงื่อนไขของมาตรา 1585 ทำให้ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้อง
3. ความสำคัญของการเพิกถอนอำนาจปกครอง (มาตรา 1582)
หากผู้ใช้อำนาจปกครอง “ใช้อำนาจโดยมิชอบหรือประพฤติชั่วร้าย” ศาลสามารถเพิกถอนอำนาจบางส่วนหรือทั้งหมดได้ตามมาตรา 1582
แต่ในคดีนี้ ไม่มีการเพิกถอน จึงผู้ใช้อำนาจเดิม (มารดา) ยังคงมีอำนาจอยู่
4. ผลของข้อเท็จจริงต่อสิทธิของญาติบุคคลภายนอก
ญาติ เช่น ป้า หรืออื่น ๆ แม้จะดูแลผู้เยาว์มานาน หรือมีความสามารถดูแลได้ดี แต่ถ้าเงื่อนไขตามมาตรา 1585 ไม่ครบ (คือผู้เยาว์ยังมีผู้ใช้อำนาจตามกฎหมายอยู่) ญาติไม่มีสิทธิยื่นขอเป็นผู้ปกครอง
สิทธิในการร้องขอเป็นผู้ปกครองจึงถูกจำกัดไว้โดยชัดเจนตามบทบัญญัติ

สรุปข้อคิดทางกฎหมาย
การตกลงท้ายทะเบียนหย่าที่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์เพียงผู้เดียว เป็นข้อตกลงที่กฎหมายรับรองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1520 และประกอบมาตรา 1566
เมื่อตัวผู้ใช้อำนาจปกครองถึงแก่ความตาย อำนาจจะถูกโอนไปอีกฝ่ายทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งศาล ตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1)
การตั้งผู้ปกครองบุคคลภายนอกต้องเป็นกรณีที่ผู้เยาว์ “ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว” ตามมาตรา 1585 และ 1586 — ถ้าไม่เข้าเงื่อนไข ญาติไม่มีสิทธิขอ
ญาติที่อุปการะผู้เยาว์มายาวนาน แม้มีความสามารถดูแลได้ดี ก็ไม่สามารถเข้าไปแทนผู้ใช้อำนาจปกครองตามกฎหมายได้ หากยังไม่เข้าเงื่อนไขตาม มาตรา 1585
กฎหมายเน้น “ประโยชน์และความผาสุกของผู้เยาว์” เป็นหลัก แต่ก็ต้องอยู่ภายในกรอบที่บทบัญญัติกำหนด

IRAC 
Issue (ประเด็น):
ผู้ร้อง (ป้า) มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ได้หรือไม่ เมื่อผู้เยาว์มีมารดาซึ่งยังมีชีวิตอยู่ และบิดาที่เคยใช้อำนาจปกครองถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยมีข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่าให้บิดาใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์เพียงผู้เดียว?
Rule (กฎกฎหมาย):
ป.พ.พ. มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง: ในกรณีหย่าโดยความยินยอม สามีภริยาสามารถทำข้อตกลงเป็นหนังสือให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้อำนาจปกครองบุตรได้
ป.พ.พ. มาตรา 1566 วรรคสอง (1) และ (6): (1) เมื่อผู้มีอำนาจปกครองฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย อำนาจนั้นตกไปอีกฝ่ายหนึ่ง; (6) ให้สอดคล้องกับกรณีมีข้อตกลงตามมาตรา 1520
ป.พ.พ. มาตรา 1582: ศาลมีอำนาจเพิกถอนอำนาจปกครองของผู้ใช้อำนาจหากใช้อำนาจโดยมิชอบหรือประพฤติชั่วร้าย
ป.พ.พ. มาตรา 1585 วรรคหนึ่ง: การตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้ว
ป.พ.พ. มาตรา 1586 วรรคหนึ่ง: ผู้ปกครองตามมาตรา 1585 ให้ตั้งโดยคำสั่งศาลเมื่อมีการร้องขอของญาติผู้เยาว์
Application (การใช้กฎกับกรณี):
คู่สมรสได้ตกลงในการหย่าให้บิดาใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์เพียงผู้เดียวตามมาตรา 1520 และ 1566 (6) → ข้อตกลงมีผลบังคับใช้
เมื่อบิดาถึงแก่ความตาย อำนาจการปกครองจึงตกไปที่มารดาโดยอัตโนมัติตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1)
มารดายังมีชีวิตอยู่ และมิได้ถูกเพิกถอนอำนาจปกครองตามมาตรา 1582 → ผู้เยาว์จึงยังมีบิดามารดาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตามมาตรา 1585 วรรคหนึ่ง และ 1586 วรรคหนึ่ง เงื่อนไขในการตั้งผู้ปกครองญาติภายนอกจึงไม่ครบ เพราะยังมีมารดาอยู่และไม่ได้ถูกเพิกถอนอำนาจปกครอง
ผู้ร้อง (ป้า) จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์
Conclusion (ผล):
ภายใต้ข้อเท็จจริงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ เพราะผู้เยาว์ยังมีมารดาอยู่และไม่มีกรณีที่บิดามารดาถูกเพิกถอนอำนาจปกครองตามที่มาตรา 1585 กำหนด ดังนั้น คำพิพากษาศาลฎีกาจึงวินิจฉัยว่า “ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น” และยืนตามศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2960/2548 
ผู้เยาว์เป็นบุตรของ ว. กับผู้คัดค้าน ต่อมา ว. หย่ากับผู้คัดค้านโดยมีข้อตกลงเรื่องการใช้อำนาจปกครองว่าให้ผู้เยาว์อยู่ในความปกครองของ ว. บิดา ว. จึงเป็นผู้มีสิทธิใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์เพียงผู้เดียวตามข้อสัญญาดังกล่าวซึ่งสามารถใช้บังคับได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1566 วรรคสอง (6) และมิใช่เป็นกรณีที่ผู้คัดค้านถูกถอนอำนาจปกครองเพราะการถอนอำนาจปกครองเป็นอำนาจของศาลและจะต้องมีเหตุตามมาตรา 1582 ดังนั้น เมื่อ ว. ถึงแก่ความตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์จึงกลับมาเป็นของผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาฝ่ายเดียวตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) กรณีจึงถือไม่ได้ว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง อันจะทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นป้ามีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ตามมาตรา 1585 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1586 วรรคหนึ่ง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า เด็กชายพงศ์พิพัฒน์  อายุ 5 ปี เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายวาทิต กับนางวิภา  หรืออยู่สุขสบาย ต่อมาบิดามารดาผู้เยาว์ได้จดทะเบียนหย่า และตกลงให้บิดาเป็นผู้มีอำนาจปกครอง ผู้เยาว์จึงอยู่ในความปกครองของนายวาทิตตลอดมา จนกระทั่งนายวาทิตได้ถึงแก่กรรมผู้เยาว์จึงอยู่ในความดูแลของผู้ร้องซึ่งเป็นป้าของผู้เยาว์ ผู้ร้องรับราชการครู มีอาชีพมั่นคง สามารถเลี้ยงดูผู้เยาว์ได้ ส่วนมารดาผู้เยาว์มีครอบครัวใหม่ ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลต้องห้าม ขอให้มีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นมารดาของเด็กชายพงศ์พิพัฒน์  ผู้เยาว์ ภายหลังบิดาผู้เยาว์ถึงแก่กรรม ผู้คัดค้านก็รับตัวผู้เยาว์มาอยู่ในความปกครองและได้อุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษา ผู้เยาว์ไม่ได้ขาดผู้ปกครอง (ที่ถูกเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง) ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดไต่สวนพยานของผู้ร้องและผู้คัดค้านแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "คดีมีปัญหาตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้ร้องเป็นผู้ปกครองเด็กชายพงศ์พิพัฒน์  ผู้เยาว์หรือไม่ ในประเด็นนี้ข้อเท็จจริงยุติฟังได้ว่า ผู้เยาว์เป็นบุตรของนายวาทิต  กับผู้คัดค้าน ต่อมานายวาทิต หย่ากับผู้คัดค้านโดยมีข้อตกลงเรื่องการใช้อำนาจปกครองว่าให้ผู้เยาว์อยู่ในความปกครองของนายวาทิตบิดา นายวาทิตจึงเป็นผู้มีสิทธิใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์เพียงผู้เดียวตามข้อสัญญาดังกล่าวซึ่งสามารถใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1566 วรรคสอง (6) และมิใช่เป็นกรณีที่ผู้คัดค้านถูกถอนอำนาจปกครองเพราะการถอนอำนาจปกครองเป็นอำนาจของศาลและจะต้องมีเหตุตามมาตรา 1582 ดังนั้น เมื่อนายวาทิตผู้ใช้อำนาจปกครองแต่ผู้เดียวตามที่ตกลงกันขณะที่จดทะเบียนหย่าถึงแก่ความตาย อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์จึงกลับมาเป็นของผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาฝ่ายเดียวตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) กรณีจึงถือไม่ได้ว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง อันจะทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นป้ามีสิทธิยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ตามมาตรา 1585 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1586 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่งยกคำร้องขอของผู้ร้องชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ

แนวคำถาม - ธงคำตอบ
ข้อ 1. นายวาทิต และนางวิภา ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของผู้เยาว์ได้หย่ากันโดยมีข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่าว่าให้บุตรอยู่ในอำนาจปกครองของนายวาทิตเพียงผู้เดียว ต่อมานายวาทิตถึงแก่กรรม ผู้ร้องซึ่งเป็นป้าของผู้เยาว์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองโดยอ้างว่ามารดาของผู้เยาว์มีครอบครัวใหม่และผู้ร้องมีฐานะมั่นคงเหมาะสมกับการดูแลผู้เยาว์ เห็นว่าผู้ร้องจะมีสิทธิตามกฎหมายที่จะขอตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์หรือไม่
ธงคำตอบ
เมื่อบิดาและมารดาหย่ากันโดยมีข้อตกลงให้บิดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรเพียงผู้เดียว ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลบังคับใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1520 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1566 วรรคสอง (6) แต่เมื่อบิดาซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองถึงแก่กรรม อำนาจปกครองย่อมกลับไปเป็นของมารดาตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) ไม่ถือว่าผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา ดังนั้น ผู้ร้องซึ่งเป็นป้า จึงไม่มีสิทธิตามมาตรา 1585 และมาตรา 1586 ที่จะยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ได้ เพราะเงื่อนไขดังกล่าวใช้ได้เฉพาะกรณีที่ผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดาหรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้วเท่านั้น
ข้อ 2. การที่มารดาของผู้เยาว์แต่งงานใหม่และให้ผู้ร้องซึ่งเป็นป้าดูแลผู้เยาว์มาระยะหนึ่ง จะถือได้ว่ามารดาสละหรือหมดสิ้นอำนาจปกครองบุตรโดยปริยายหรือไม่ และผู้ร้องจะอ้างเหตุนี้เพื่อขอให้ศาลตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองได้หรือไม่
ธงคำตอบ
การที่มารดามีครอบครัวใหม่หรือมอบหมายให้ญาติช่วยดูแลบุตรไม่ได้ทำให้มารดาสละอำนาจปกครองโดยปริยาย เพราะการสิ้นอำนาจปกครองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งศาลถอนอำนาจปกครองตามมาตรา 1582 เท่านั้น ซึ่งศาลต้องมีเหตุอันชอบ เช่น มารดาใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือประพฤติชั่วร้าย อันเป็นอันตรายแก่บุตร ดังนั้น การมีครอบครัวใหม่หรือมอบหมายให้ญาติดูแลบุตรไม่ใช่เหตุเพิกถอนอำนาจปกครอง และผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะขอตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ได้
ข้อ 3. หากในขณะบิดายังมีชีวิตอยู่ มารดาไม่เคยใช้อำนาจปกครองและไม่ได้อยู่กับผู้เยาว์เลย จะถือได้ว่ามารดาขาดสิทธิหรือหมดสิทธิใช้อำนาจปกครองหลังจากบิดาถึงแก่กรรมหรือไม่
ธงคำตอบ
สิทธิในการใช้อำนาจปกครองของบิดามารดาเป็นสิทธิตามกฎหมายที่ไม่สิ้นสุดลงโดยเหตุไม่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาหนึ่ง เว้นแต่ศาลมีคำสั่งถอนอำนาจปกครองตามมาตรา 1582 ดังนั้น แม้มารดาจะไม่ได้อยู่กับผู้เยาว์หรือไม่ได้ใช้อำนาจปกครองในขณะบิดามีชีวิตอยู่ เมื่อบิดาถึงแก่กรรม อำนาจปกครองย่อมกลับมาสู่มารดาโดยอัตโนมัติ ตามมาตรา 1566 วรรคสอง (1) ไม่ถือว่ามารดาสิ้นสิทธิ หรือว่าผู้เยาว์ไม่มีผู้ใช้อำนาจปกครอง
ข้อ 4. การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นป้า อ้างว่าตนมีอาชีพมั่นคงและสามารถเลี้ยงดูผู้เยาว์ได้ดีกว่ามารดา จะถือว่าเป็นเหตุอันสมควรให้ศาลเปลี่ยนผู้มีอำนาจปกครองหรือแต่งตั้งผู้ปกครองแทนมารดาได้หรือไม่
ธงคำตอบ
การพิจารณาว่าใครควรเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครองต้องพิจารณาภายใต้หลักประโยชน์สูงสุดของผู้เยาว์เป็นสำคัญ แต่กฎหมายได้วางหลักไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนอำนาจปกครองต้องเป็นไปตามมาตรา 1582 ซึ่งต้องมีเหตุว่าผู้มีอำนาจปกครองใช้อำนาจโดยมิชอบหรือประพฤติชั่วร้าย การที่ผู้ร้องมีฐานะดีกว่าเพียงอย่างเดียวไม่ใช่เหตุให้ศาลสามารถเพิกถอนอำนาจปกครองของมารดาหรือแต่งตั้งผู้ร้องแทนได้ ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งเปลี่ยนผู้มีอำนาจปกครองเพียงเพราะผู้ร้องอ้างว่ามีความพร้อมมากกว่า
ข้อ 5. ในกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ แต่ผู้เยาว์ยังมีมารดาที่มีอำนาจปกครองอยู่ ศาลจะมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ และคำสั่งศาลที่ยกคำร้องถือว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ธงคำตอบ
ตามมาตรา 1585 และมาตรา 1586 การตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์สามารถทำได้เฉพาะเมื่อผู้เยาว์ไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเสียแล้วเท่านั้น กรณีนี้ผู้เยาว์ยังมีมารดาที่มีอำนาจปกครองตามกฎหมายอยู่ การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นป้ายื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองจึงเป็นการยื่นโดยไม่มีสิทธิ ศาลย่อมไม่มีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณา และเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาวินิจฉัยยืนตาม ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติในหมวดว่าด้วยอำนาจปกครองและการตั้งผู้ปกครอง
สรุป
ประเด็นสำคัญทั้งห้านี้แสดงให้เห็นหลักเกณฑ์สำคัญของกฎหมายครอบครัวเกี่ยวกับอำนาจปกครองบุตรและเงื่อนไขการตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์ โดยศาลฎีกาได้ยืนยันหลักว่าการเพิกถอนหรือโอนอำนาจปกครองต้องอาศัยบทบัญญัติของกฎหมายเท่านั้น ไม่สามารถอ้างเหตุด้านความเหมาะสมหรือความสมัครใจของญาติภายนอกมาแทนที่อำนาจตามกฎหมายของบิดามารดาได้.
 



บิดามารดา กับ บุตร

(ฎีกาที่ 3013/2568) – ฟ้องบุพการีอุทลุมต้องห้าม ป.พ.พ. มาตรา 1562
ไม่มีกฎหมายให้บิดาต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรนอกกฎหมาย แม้บิดาจะรับรองแล้วก็ตาม
การจดทะเบียนรับรองบุตร: ขั้นตอน กฎหมาย และคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง
ขอบเขตการขอเป็นคู่ความแทนในคดีหย่าและแบ่งสินสมรส(ฎีกา 3927/2562)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4410/2563 : ศาลฎีกายืนให้บิดาจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรตามศาลชั้นต้น
เปลี่ยนสิทธิดูแลบุตรจากมารดาเป็นบิดา
สิทธิและหน้าที่ในการเลี้ยงดูบุตร, ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร,
การเลี้ยงดูบุตรหลังการหย่า, การอุปการะเลี้ยงดูบุตร มาตรา 1564, ข้อตกลงการเลี้ยงดูบุตรในกรณีหย่าร้าง
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร, การคำนวณค่าเลี้ยงดูบุตร, สิทธิเลี้ยงดูบุตร หลังการหย่า,
การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร, การรับรองบุตร, ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
การเปลี่ยนแปลงอำนาจการปกครองบุตร, การยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อสิทธิเลี้ยงดูบุตร
เปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครอง
สิทธิการตั้งผู้ปกครองผู้เยาว์เมื่อมารดาเสียชีวิตและบิดายังมีชีวิต(ฎีกา 2563/2544)
บิดามารดาโดยกำเนิดหมดอำนาจปกครองบุตร
กฎหมายเรื่อง,ฟ้องร้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร, ฟ้องหย่า, อำนาจปกครองบุตร,
ขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว
ค่าอุปการะเลี้ยงดูกับค่าเลี้ยงชีพ, การใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์
ฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตร-มารดาเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมฟ้องแทนได้
ส่วนแบ่งสินสมรสและความรับผิดค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
อำนาจศาลเพิกถอน ลด เพิ่ม หรือกลับการให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน
ให้ใช้นามสกุลในสูติบัตรยังไม่เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
หน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรยุติไปด้วยความตายไม่ตกทอดเป็นมรดก
โจทก์ฟ้องขอให้โจทก์เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว
หน้าที่ตามกฎหมายบิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตร
อายุความฟ้องขอเลิกรับบุตรบุญธรรม
ถอนข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่า เรียกค่าเลี้ยงชีพ อำนาจปกครองบุตร(ฎีกา 8596/2559)
อำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวมีได้ในกรณีใดบ้าง
รับสมอ้างว่าเป็นบุตรในการแจ้งเกิด, บิดาในสูติบัตร
ทำสัญญาประนีประนอมแทนผู้เยาว์ต้องขออนุญาตศาล
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรแต่บิดาปฏิเสธว่าเป็นบุตร
เรียกบุตรคืนจากสามีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย, บิดานอกกฎหมายไม่มีสิทธิที่จะกำหนดที่อยู่ของบุตร
บิดาลงชื่อในใบแต่งทนายความแทนบุตรที่บรรละนิติภาวะแล้ว
การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร (เด็กและมารดาของเด็กถึงแก่ความตายแล้ว)
บุตรนอกกฎหมายเรียกค่าขาดไร้อุปการะได้หรือไม่?
บุตรนอกกฎหมาย สิทธิประกันสังคม
บุตรจำต้องเลี้ยงดูบิดามารดา เรียกค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยได้
ข้อตกลงท้ายทะเบียนหย่าให้บิดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร
ผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่เพียงผู้เดียว
เพิกถอนผู้จัดการทรัพย์สินผู้เยาว์ & ส่งมอบทรัพย์สิน(ฎีกา 458/2547)
ฟ้องบุพการี,คดีอุทลุม,การใช้สิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์จากผู้ไม่มีสิทธิยึดถือได้
อำนาจศาลสั่งให้ใช้อำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว(ฎีกา 2668/2556)
ศาลชอบที่จะสั่งให้แก้ไขความบกพร่องเรื่องความสามารถเสียก่อนยกฟ้อง
บุตรไม่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องบิดาไม่เป็นคดีอุทลุม
การฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรต้องพิสูจน์หักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมาย
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตร (คดีขาดอายุความ)
ใช้สิทธิทางศาลขอเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมาย
บิดาขอจดทะเบียนรับรองบุตรกรณีเด็กถึงแก่ความตายแล้ว
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตร (บิดาถึงแก่ความตาย)
อำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์, ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร
ฟ้องให้บิดารับรองบุตร เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์
การนับอายุความสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของผู้เยาว์
จำเลยตั้งครรภ์ด้วยวิธีการผสมเทียมโดยไม่ใช่อสุจิของโจทก์
ละเมิดเรียกค่าขาดแรงงานในครัวเรือนของบิดามารดา
ศาลมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตามสัญญายอมความได้
ผู้เยาว์บรรลุนิติภาวะได้ทั้งการสมรสหรือมีอายุครบ 20 ปี
คำร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
สามีภริยาสมัครใจมีบุตรร่วมกันโดยการทำกิ๊ฟท์
การอุปการะเลี้ยงดูบุตรต้องกระทำจนถึงบุตรบรรลุนิติภาวะ
เงินที่มีผู้ช่วยทำศพผู้ตายนำมาบรรเทาความรับผิดไม่ได้
โจทก์เป็นบุตรมีอำนาจฟ้องบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายได้
ห้ามฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งและคดีอาญา
บุตรขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ผู้ตายในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ถือหุ้นฟ้องปู่ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทไม่เป็นคดีอุทลุม
คดีอุทลุมคือการห้ามฟ้องบุพการี
ฟ้องให้รับรองบุตรเมื่อเด็กอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์แล้ว
กฎหมายไม่บังคับว่าบุตรจะต้องใช้ชื่อสกุลของบิดาหรือมารดา
สิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตร
ฟ้องคดีไม่รับเด็กเป็นบุตรเนื่องจากไม่ใช่บุตรที่แท้จริง
เด็กหรือมารดาเด็กไม่ให้ความยินยอมจดทะเบียนรับรองบุตรได้หรือไม่
ขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเป็นบุตรเพราะมิใช่บิดาแท้จริง
สิทธิรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายที่เจ้ามรดกได้รับรองแล้ว
บุตรนอกสมรสตาย บิดามารดาจดทะเบียนสมรสภายหลังการตาย
เมื่อศาลได้พิพากษาแล้วไม่จำต้องบังคับจำเลยให้ไปจดทะเบียนรับเป็นบุตรอีก
เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน
ถอนอำนาจปกครองบิดามารดาเกี่ยวกับการกำหนดที่อยู่ของบุตร(ฎีกา 515/2560)