ReadyPlanet.com
dot
สำนักงานทนายความ
dot
bulletทนายความฟ้องหย่า
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
dot
พระราชบัญญัติ
dot
bulletพระราชบัญญัติ
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
dot
บทความเฉพาะเรื่อง
dot
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletสัญญายอมความ
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletกรมบังคับคดี
dot
ลิงค์ต่าง ๆ
dot
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletอำนาจปกครองบุตร




คลองสาธารณะไม่ได้ใช้สัญจรไม่ทำให้สิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะได้

ทนายความโทร0859604258

ภาพจากซ้ายไปขวา ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ, ทนายความภคพล มหิทธาอภิญญา, ทนายความเอกชัย อาชาโชติธรรม, ทนายความอภิวัฒน์ สุวรรณ

-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258

-ติดต่อทางอีเมล  : leenont0859604258@yahoo.co.th

-ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์  (5) ID line  :

         (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3)  peesirilaw  หรือ (4) @peesirilaw   (5)   @leenont1

-Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย  QR CODE

peesirilaw@leenont

 คลองสาธารณะไม่ได้ใช้สัญจรไม่ทำให้สิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะได้                  

การสิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะ  คลองที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นทางสัญจรในอดีตซึ่งเป็นคลองอันเป็นทางสาธารณะ แต่ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เป็นทางสัญจรทางน้ำไม่สะดวกเท่ากับการสัญจรทางบกไม่ทำให้ทางน้ำสิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะไปได้

       คำพิพากษาศาลฎีกาที่  1768/2548
 
          คลองมหาชัยมีเขื่อนโครงการแก้มลิงกั้นอยู่บริเวณปากคลองแต่มีชาวบ้านบางคนใช้เรือส่วนตัวสัญจรไปมา ส่วนเขื่อนจะปิดกั้นเฉพาะกรณีเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน มิได้ปิดตลอดเวลา คลองมหาชัยจึงเป็นทางสาธารณะตามความหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 1349 การที่ประชาชนส่วนใหญ่มิได้ใช้เป็นทางสัญจรทางน้ำ เนื่องจากไม่สะดวกเท่ากับการสัญจรทางบกหาได้ทำให้สิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะไปไม่ เมื่อที่ดินของโจทก์อยู่ติดคลองมหาชัยซึ่งเป็นทางสาธารณะอยู่แล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยเปิดทางจำเป็น

           โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดเลขที่ 2645 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีเนื้อที่ประมาณ 180 ตารางวา จำเลยทั้งห้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 2644 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับบุคคลอื่นมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ที่ดินของจำเลยทั้งห้าทางด้านทิศเหนือติดกับที่ดินของโจทก์ทั้งสองทางด้านทิศใต้และมีถนนสาธารณะตัดผ่านที่ดินของจำเลยทั้งห้าตลอดแนวจากด้านทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกซึ่งโจทก์ทั้งสองได้ใช้ที่ดินบางส่วนทางด้านทิศเหนือของจำเลยทั้งห้าเป็นทางเข้าออกสู่ทางสาธารณะ ต่อมาปี 2540 จำเลยทั้งห้าไม่ยอมให้โจทก์ทั้งสองเข้าออกผ่านที่ดินของจำเลยทั้งห้าโดยได้สร้างรั้วสังกะสีปิดกั้นทางเดินทำให้ที่ดินของโจทก์ทั้งสองถูกที่ดินของจำเลยทั้งห้าและที่ดินแปลงอื่นล้อมรอบจนไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะโจทก์ทั้งสองได้รับความเดือดร้อน ขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าเปิดทางจำเป็นทางด้านทิศเหนือของที่ดินของจำเลยทั้งห้าโดยให้โจทก์ทั้งสองทำถนนกว้างประมาณ 4 เมตร ยาวประมาณ 6 เมตร เพื่อให้โจทก์ทั้งสองสามารถนำรถยนต์แล่นเข้าออกสู่ทางสาธารณะได้ ซึ่งพอสมควรแก่ความจำเป็นของโจทก์ทั้งสองและไม่ทำให้จำเลยทั้งห้าต้องเสียหายมาก โดยโจทก์ทั้งสองยินยอมชดใช้ค่าทดแทนให้จำเลยทั้งห้าเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท

          จำเลยทั้งห้าให้การว่า บริเวณทางด้านทิศเหนือของที่ดินโจทก์ทั้งสองติดกับคลองมหาชัยซึ่งเป็นคลองสาธารณะมีน้ำใช้ตลอดทั้งปีประชาชนยังคงใช้สัญจรไปมา โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิขอให้เปิดทางจำเป็นผ่านที่ดินของจำเลยทั้งห้าเพื่อออกสู่ทางสาธารณะขอให้ยกฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งห้ารื้อถอนรั้วสังกะสีของจำเลยทั้งห้าที่สร้างปิดกั้นทางออกบ้านโจทก์ทั้งสอง โดยให้มีความกว้าง 4 เมตร และยอมให้โจทก์ทั้งสองกับบริวารใช้ทางบนที่ดินโฉนดเลขที่ 2644 ตำบลโคกขาม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ของจำเลยทั้งห้าตามพิพาทเดิมยาวตลอดแนวเริ่มตั้งแต่แนวเขตที่ดินทางด้านทิศใต้ของโจทก์ทั้งสองไปจดทางสาธารณะเพื่อใช้เป็นทางออกสู่ทางสาธารณะได้ (ดังปรากฏตามแผนที่โดยสังเขปแสดงที่ดินโจทก์-จำเลย เอกสารหมาย จ.2) โดยโจทก์ทั้งสองต้องใช้ค่าทดแทนให้แก่จำเลยทั้งห้าเป็นเงินรายปี ปีละ 5,000 บาท หากจำเลยทั้งหาไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งห้า ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
          จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งสองให้โจทก์ทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยทั้งห้าโดยกำหนดค่าทนายความรวม 2,000 บาท
          โจทก์ทั้งสองฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ที่ดินของโจทก์ทั้งสองทางด้านทิศเหนือติดคลองมหาชัยทิศใต้ติดที่ดินของจำเลยทั้งห้า ทิศตะวันออกติดที่ดินของนางสำรวย สุขผล และทิศตะวันตกติดที่ดินของนายทวี ทองดี มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ทั้งสองว่า คลองมหาชัยเป็นทางสาธารณะตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า คลองมหาชัยมีเขื่อนโครงการแก้มลิงกั้นอยู่บริเวณปากคลอง หากเขื่อนเปิดกั้นเรือก็ไม่สามารถแล่นผ่านได้ปัจจุบันไม่มีเรือโดยสารรับจ้างสาธารณะแล้ว การเดินทางโดยทางเรือจึงเป็นไปด้วยความลำบาก ประชาชนหันมาเดินทางโดยทางรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นทางสาธารณะ เห็นว่า แม้คลองมหาชัยจะมีเขื่อนโครงการแก้มลิงกั้นอยู่บริเวณปากคลองแต่ก็ได้ความจากนายวุฒิพงษ์ หมอปาน พยานโจทก์ทั้งสองตอบคำถามค้านทนายจำเลยว่า คลองมหาชัยมีชาวบ้านบางคนใช้เรือส่วนตัวสัญจรไปมา เพียงแต่ไม่ได้ใช้สัญจรไปยังจังหวัดสมุทรสาครเนื่องจากไกลเท่านั้น จึงเจือรับกับคำเบิกความของนายทวี ทองดี พยานจำเลยทั้งห้าว่า คลองมหาชัยมีน้ำตลอดปี ประชาชนยังใช้ในการสัญจรไปมา การเดินทางไปจังหวัดสมุทรสาครบางครั้งพยานจะใช้เรือส่วนตัวซึ่งเป็นเรือหางยาวเป็นพาหนะ ส่วนเขื่อนโครงการแก้มลิงที่โจทก์ทั้งสองอ้างว่าหากเขื่อนปิดกั้นเรือก็ไม่สามารถแล่นผ่านได้นั้น ก็ได้ความจากโจทก์ทั้งสองเองว่าเขื่อนจะปิดกั้นกรณีเพื่อป้องกันน้ำทะเลหนุน แสดงว่า การปิดกั้นมิได้ทำตลอดเวลา คลองมหาชัยจึงเป็นทางสาธารณะตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 การที่ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่มิได้ใช้เป็นทางสัญจรทางน้ำ เนื่องจากไม่สะดวกเท่ากับการสัญจรทางบก หาได้ทำให้คลองมหาชัยสิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณไปไม่ เมื่อที่ดินของโจทก์ทั้งสองอยู่ติดคลองมหาชัยซึ่งเป็นทางสาธารณะอยู่แล้ว โจทก์ทั้งสองจึงไม่มีสิทธิเรียกให้จำเลยเปิดทางพิพาทเป็นทางจำเป็นได้อีก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น”

          พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
( ประทีป ปิติสันต์ - สมคักดิ์ เนตรมัย - สุภิญโญ ชยารักษ์ )


คำพิพากษาศาลฎีกาที่  1768/2548 เรื่อง การสิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะ  คลองที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นทางสัญจรในอดีตซึ่งเป็นคลองอันเป็นทางสาธารณะ แต่ปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้เป็นทางสัญจรทางน้ำไม่สะดวกเท่ากับการสัญจรทางบกไม่ทำให้ทางน้ำสิ้นสภาพการเป็นทางสาธารณะไปได้

ปรึกษากฎหมาย  ปรึกษาทนายความ ลีนนท์   โทร 085-9604258   สำนักงานพีศิริ ทนายความ

 




ครอบครองปรปักษ์/ภาระจำยอม/ทางจำเป็น

ปรปักษ์ใช้ยันผู้ได้สิทธิมาโดยจ่ายค่าซื้อที่ดินและจดทะเบียนโอนแล้วไม่ได้
รับโอนที่ดินมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต
ตกลงยินยอมให้ใช้ทางเป็นการทำนิติกรรมก่อตั้งสิทธิภาระจำยอมระหว่างกัน
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม
ที่ดินตาบอดมีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ ขอเปิดทางจำเป็น
การครอบครองปรปักษ์ขาดตอนเมื่อเปลี่ยนเจ้าของ-การนับระยะเวลาครอบครองปรปักษ์
การครอบครองปรปักษ์กับการนับเวลาการครอบครองต่อเนื่องต่อจากเจ้าของเดิม
ผู้ขายสละการครอบครอง ผู้ซื้ออ้างครอบครองปรปักษ์ได้
ขอเปิดทางจำเป็นจากที่ดินแบ่งแยก
ที่ดินแบ่งแยกเป็นเหตุให้ไม่มีทางออกมีสิทธิเรียกให้เปิดทางจำเป็น
เจ้าของที่ดินจำต้องยอมให้ที่ดินมีแนวเขตติดต่อวางท่อน้ำ ท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้าได้
ฟ้องขอเปิดทางจำเป็นแต่ระหว่างพิจารณาคดีได้สิทธิภาระจำยอมแปลงอื่น
กรรมสิทธิ์ครอบครองปรปักษ์ไม่ใช่สิทธิเฉพาะตัวของผู้ครอบครอง
ครอบครองอาศัยสิทธิไม่บอกเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ
ภาระจำยอมคืออะไร การใช้ทางโดยไม่มีใครห้ามและไม่ต้องรับอนุญาต
ได้กรรมสิทธิ์ปรปักษ์แล้วไม่ได้จดทะเบียนการได้มา
ต่อสู้คดีอ้างครอบครองปรปักษ์แต่ขาดเจตนาเป็นเจ้าของ10 ปี
การใช้ที่ดินข้างเคียงเป็นทางผ่านโดยถือวิสาสะไม่ได้ภาระจำยอม
ทางจำเป็นคืออะไร | เงินค่าทดแทนใช้ทาง
อำนาจฟ้องคดี ครอบครองปรปักษ์ที่ดินของตนเองไม่ได้
ครอบครองที่ดินมรดกตกทอดหาใช่การครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของผู้อื่นไม่
นับเวลาซึ่งผู้โอนครอบครองอยู่ก่อนนั้นรวมเข้ากับเวลาครอบครองของตนก็ได้
ทางจำเป็นเกิดขึ้นได้กี่วิธี -ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน
การโอนกรรมสิทธิ์ในระยะที่ดินถูกครอบครองปรปักษ์กระทบสิทธิครอบครอง
อุทิศที่ดินให้กับทางราชการเพื่อสร้างถนนสาธารณะแล้วจะขอเรียกคืน
ทายาททำหนังสือยินยอมให้ใช้ทางไม่ได้สิทธิภาระจำยอม
ความแตกต่างของทางจำเป็นกับภาระจำยอม
เจ้าของที่ดิน น.ส. 3 ก ออกเอกสารสิทธิทับที่ดินมีโฉนดอ้างครอบครองปรปักษ์
ฟ้องขอให้เปิดทางจำแต่เจ้าของที่ดินแปลงอื่นตกลงจดภาระจำยอมให้
ได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 เพราะเจ้าของสละแล้ว
ทางออกมีที่ดินสูงชันขวางอยู่ขอให้เปิดทางจำเป็นได้
ค่าทดแทนการใช้ทางเดือนละเท่าไหร่เหมาะสม
ใช้ทางโดยสำคัญผิดว่าทางนั้นอยู่ในที่ดินของตนกว่า10 ปีได้ภาระจำยอม
การใช้สิทธิวางท่อน้ำ,สายไฟฟ้าในที่ดินของผู้อื่น
ครอบครองโดยสำคัญผิดได้กรรมสิทธิ์โดยปรปักษ์หรือไม่?
ค่าทดแทนทางจำเป็นและท่อระบายน้ำสายไฟฟ้า
จดภาระจำยอมให้แค่เดินผ่านแต่ปลูกสร้างหลังคาและวางของขาย
เจ้าของที่ดินมีสิทธิสร้างแผงร้านค้าบนทางภาระจำยอมหรือไม่?
ภาระจำยอมที่เกิดจากการจัดสรรที่ดินขาย
ใช้ทางอย่างเป็นปรปักษ์กับใช้ทางเป็นการวิสาสะ
ยึดถือที่ดินเพื่อตนกับมีชื่อในทะเบียนสิทธิใดดีกว่า?
ตกเป็นภาระจำยอมแล้วจึงรับโอนมาทั้งสิทธิและหน้าที่
ภาระจำยอมหมดประโยชน์หรือไม่?
คนต่างด้าวครอบครองปรปักษ์ห้องชุด
ภาระจำยอมเป็นสิทธิในประเภทรอนสิทธิ
ครอบครองปรปักษ์ที่ดินที่ซื้อมาไม่จดทะเบียน
ตกอยู่ในภาระจำยอมตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 3-(ต่อ)
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 2-(ต่อ)
เหตุตามกฎหมายทำให้ภาระจำยอมสิ้นไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เป็นทางจำเป็น ศาลอุทธรณ์ให้จดภาระจำยอม
มีทางออกสู่ทางสาธารณะอื่นทางจำเป็นที่สิ้นความจำเป็นแล้ว
การครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์-การครอบครองอย่างเป็นเจ้าของ
การยึดถืออย่างสิทธิครอบครอง กับครอบครองเจตนาเป็นเจ้าของ
ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภาระจำยอม 4-(ต่อ)
ทางที่ประชาชนเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะมานานโดยเจ้าของที่ดินไม่หวงห้าม