สำนักงานกฎหมายพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำนักงาน โทร. 02 -984 4258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ รับสมัครผู้ช่วยทนายความ เสมียนทนายความ ฝึกงาน

|
ทายาทมีส่วนเท่ากันออกค่าใช้จ่ายจัดการทำศพ
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3) peesirilaw หรือ (4) @peesirilaw (5) @leenont1 -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE
ทายาทมีส่วนเท่ากันออกค่าใช้จ่ายในการจัดการทำศพ ส่วนของทายาททุกคนของผู้ตายต่างก็ต้องมีหน้าที่เท่า ๆ กันที่จะต้องจัดการทำศพของผู้ตาย เมื่อบิดาชอบด้วยกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวได้จัดการทำศพของผู้ตายต้องเสียค่าใช้จ่าย ภริยาและบุตรชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นทายาทก็จะต้องร่วมรับผิดในค่าใช้จ่ายนี้ด้วย ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า บิดาไม่มีสิทธิที่จะฟ้องบังคับให้ภริยา และบุตรผู้ตายร่วมกันชำระหนี้ค่าจัดการทำศพให้บิดา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1761/2545 โจทก์และจำเลยทั้งสามต่างเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายและมีสิทธิได้รับมรดกของผู้ตายคนละหนึ่งส่วนเท่า ๆ กัน ย่อมถือได้ว่าโจทก์และจำเลยทั้งสามแต่ละคนคนใดคนหนึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมมากที่สุด เมื่อผู้ตาย มิได้ตั้งบุคคลใดเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการศพ และทายาทก็มิได้มอบหมายให้บุคคลใดจัดการทำศพ โจทก์จึงมีอำนาจและหน้าที่จัดการศพผู้ตายตามกฎหมาย เมื่อโจทก์จัดการศพไปแล้วย่อมมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการจัดการศพจากกองมรดกได้ ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1650 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ค่าใช้จ่ายเกิดมีหนี้เป็นคุณแก่บุคคลใดในการจัดทำศพนั้น ให้เรียกเอาได้ตามบุริมสิทธิที่ระบุไว้ในมาตรา 253(2) ดังนั้น การที่โจทก์จ่ายเงินจัดการทำศพผู้ตายไปหากไม่เป็นจำนวนเกินสมควรแล้ว โจทก์ย่อมเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิตามมาตรา 253(2) ประกอบมาตรา 1739(2)จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยทั้งสามร่วมรับผิดในเงินดังกล่าวตามส่วนแต่ต้องไม่เกินจากทรัพย์มรดกที่จำเลยทั้งสามได้รับ โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของนายดาบตำรวจทวิช ทิพระษาหาร จำเลยที่ 1 เป็นภริยาของนายดาบตำรวจทวิช ส่วนจำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นบุตรของนายดาบตำรวจทวิช เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2539 นายดาบตำรวจทวิชถึงแก่ความตาย โจทก์จัดการปลงศพของผู้ตายเสียค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 160,000 บาทโจทก์เรียกให้จำเลยทั้งสามชำระเงินคืนแก่โจทก์คนละ 40,000 บาท แต่จำเลยทั้งสามเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชำระเงินคนละ 40,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 40,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยแต่ละคนจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 กับพวกไม่เคยสัญญาว่าจะชำระเงินในการจัดการทำศพ การจัดการทำศพนายดาบตำรวจทวิชไม่ใช่หน้าที่ของโจทก์และจำเลยทั้งสาม แต่เป็นเพียงประเพณีที่บิดามารดา ภริยา และบุตรต้องจัดการงานศพ ซึ่งโจทก์และจำเลยทั้งสามรวมทั้งญาติพี่น้องต่างช่วยเหลือค่าใช้จ่ายร่วมกัน โจทก์ออกเงินค่าทำศพเป็นความสมัครใจของโจทก์เอง จำเลยที่ 1 กับพวกไม่มีหน้าที่ต้องใช้คืนแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะมารดาของจำเลยที่ 2และที่ 3 หย่ากับนายดาบตำรวจทวิชผู้ตายเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2530 จำเลยที่ 2และที่ 3 มิได้กระทำละเมิดให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย โจทก์สมัครใจจัดการทำศพเองและจัดเกินฐานานุรูป ค่าใช้จ่ายที่โจทก์กล่าวอ้างโจทก์กล่าวอ้างลอย ๆ ไม่น่าเชื่อถือจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่เคยทำสัญญาว่าจะชำระค่าจัดการทำศพ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์ไม่แยกแยะว่าได้ใช้จ่ายเงินช่วยงานในเรื่องอะไร จำนวนเท่าใดและฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงินคนละ 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 9 มีนาคม 2541)เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 และที่ 3ร่วมกันชำระหนี้ค่าจัดการทำศพให้โจทก์ และแม้จำเลยที่ 2 มิได้ยื่นอุทธรณ์ด้วยก็ตามแต่การชำระหนี้ดังกล่าวไม่อาจแบ่งแยกได้ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิจารณาและพิพากษาใหม่ในประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดการศพและคดีโจทก์ขาดอายุความตามรูปคดี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 253 ถ้าหนี้มีอยู่เป็นคุณแก่บุคคลผู้ใดในมูลอย่างหนึ่ง อย่างใดดังจะกล่าวต่อไปนี้ บุคคลผู้นั้นย่อมมีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สิน ทั้งหมดของลูกหนี้ คือ มาตรา 1601 ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ได้แก่ตน มาตรา 1649 ผู้จัดการมรดกซึ่งผู้ตายตั้งไว้ย่อมมีอำนาจและหน้าที่ใน อันที่จะจัดการทำศพของผู้ตาย เว้นแต่ผู้ตายจะได้ตั้งบุคคลอื่นไว้โดย เฉพาะให้จัดการดั่งว่านั้น มาตรา 1650 ค่าใช้จ่ายเกิดมีหนี้เป็นคุณแก่บุคคลใดในการจัดทำ ศพนั้นให้เรียกเอาได้ตามบุริมสิทธิที่ระบุไว้ใน มาตรา 253 (2) แห่งประมวลกฎหมายนี้ มาตรา 1739 ให้ชำระหนี้ที่กองมรดกค้างชำระตามลำดับต่อไปนี้ และตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยบุริมสิทธิ โดยไม่ต้อง ไม่เป็นที่เสื่อมเสียแก่บรรดาเจ้าหนี้ผู้มีบุริมสิทธิพิเศษ ตามประมวล กฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นและบรรดาเจ้าหนี้ที่มีประกันโดยการ จำนำหรือการจำนอง
|