ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถือเป็นพินัยกรรม, เงินสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์, สิทธิผู้รับโอนประโยชน์ในเงินสงเคราะห์

 

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถือเป็นพินัยกรรม, เงินสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์, สิทธิผู้รับโอนประโยชน์ในเงินสงเคราะห์

*ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถือเป็นพินัยกรรม และมีผลบังคับตามกฎหมายสหกรณ์ ซึ่งไม่ตกเป็นมรดกของสมาชิกผู้ตาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินให้ผู้รับโอนประโยชน์จึงชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นการละเมิดสิทธิของทายาท

*เงินสงเคราะห์สหกรณ์จะจ่ายให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ตามข้อบังคับเมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย หากสมาชิกออกจากการเป็นสมาชิกก่อนจะไม่มีสิทธิได้รับเงินดังกล่าว ทุนเรือนหุ้นเป็นเงินสะสมที่ไม่สามารถถอนหรือโอนก่อนพ้นสมาชิกภาพ ยกเว้นตามเงื่อนไข พระราชบัญญัติสหกรณ์กำหนดให้หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์มีผลบังคับโดยไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรม และไม่สามารถจัดสรรทุนเรือนหุ้นให้ทายาทผ่านพินัยกรรมได้

*ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ นายทวีศักดิ์ ผู้ตายเป็นสมาชิกตั้งแต่ปี 2526 และได้ทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในปี 2548 ให้จำเลยร่วมและโจทก์ตามข้อบังคับ เมื่อถึงแก่ความตายในปี 2557 ทุนเรือนหุ้นและเงินสงเคราะห์รวม 299,400 บาท ถูกแบ่งเป็น 149,695 บาทให้โจทก์ และ 149,690 บาทให้จำเลยร่วม หลังหักค่าธรรมเนียมการโอนตามระเบียบของสหกรณ์

*ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นไม่ถือเป็นพินัยกรรมและไม่ตกเป็นโมฆะ ตามข้อบังคับของสหกรณ์ สมาชิกต้องชำระเงินทุนเรือนหุ้นเป็นรายเดือน และไม่สามารถขาย โอน หรือถอนคืนในระหว่างเป็นสมาชิกได้ ทั้งนี้ สมาชิกสามารถทำหนังสือตั้งผู้รับโอนประโยชน์เมื่อถึงแก่ความตายได้ โดยมอบไว้ให้สหกรณ์ถือเป็นหลักฐาน

*หากสมาชิกต้องการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับโอนประโยชน์ ต้องทำเป็นหนังสือและมอบให้สหกรณ์ เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย สหกรณ์จะแจ้งผู้รับโอนประโยชน์และจ่ายเงินค่าหุ้น เงินฝาก ปันผล หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ให้ตามข้อบังคับ หากไม่มีผู้รับโอนประโยชน์ เงินดังกล่าวจะมอบให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทตามหลักฐานที่แสดงต่อคณะกรรมการสหกรณ์

*สมาชิกสหกรณ์สามารถตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่าหุ้นและเงินอื่น ๆ ได้โดยทำหนังสือมอบให้สหกรณ์ถือไว้ หากต้องการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงต้องทำเป็นหนังสือใหม่ เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย สหกรณ์จะแจ้งผู้รับโอนประโยชน์และจ่ายเงินตามข้อบังคับ หากไม่มีผู้รับโอน เงินจะตกเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ เงินทุนเรือนหุ้นและเงินสงเคราะห์ไม่ถือเป็นมรดก และการตั้งผู้รับโอนประโยชน์มีผลบังคับตามกฎหมายสหกรณ์ โดยไม่ต้องทำตามแบบพินัยกรรม การที่จำเลยชำระเงินให้ผู้รับโอนประโยชน์ถือว่าถูกต้อง ไม่ละเมิดสิทธิของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8873/2561

เงินสงเคราะห์เป็นเงินที่พึงจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยจ่ายให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ตามข้อบังคับสหกรณ์ ถ้าสมาชิกผู้ใดออกจากการเป็นสมาชิกของสหกรณ์ก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินสงเคราะห์จากสหกรณ์ ดังนี้ หากสมาชิกประสงค์จะให้ผู้รับโอนประโยชน์มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จากสหกรณ์ก็จะต้องคงความเป็นสมาชิกไว้จนตายจะถอนเงินค่าหุ้นหรือออกจากการเป็นสมาชิกไม่ได้ และเงินทุนเรือนหุ้นหรือเงินค่าหุ้นที่สมาชิกมีอยู่กับสหกรณ์ก็มิใช่เงินที่สมาชิกสามารถที่จะเบิกถอนไปใช้ได้ก่อน เว้นแต่จะออกจากการเป็นสมาชิกแล้วซึ่งก็ยังมีเงื่อนไขที่อาจจะไม่ได้รับเต็มจำนวนก็ได้ เงินค่าหุ้นจึงมีลักษณะพิเศษที่มิใช่เป็นทรัพย์ของสมาชิกโดยแท้ เมื่อพระราชบัญญัติสหกรณ์บัญญัติให้สมาชิกสหกรณ์สามารถทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่าหุ้นหรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย โดยมอบไว้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน การจะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ก็ต้องทำเป็นหนังสือในลักษณะเดียวกันมอบให้สหกรณ์ถือไว้ และถ้าในที่สุดไม่มีผู้รับเงิน เงินนั้นก็จะนำไปสมทบเป็นเงินทุนสำรองของสหกรณ์ เมื่อเงินค่าหุ้นและเงินสงเคราะห์มีลักษณะพิเศษตามข้อบังคับและระเบียบของจำเลยเพื่อให้การบริหารเงินของสหกรณ์เป็นไปโดยสะดวกเพื่อประโยชน์ของสมาชิกและออกตามบทบัญญัติของกฎหมาย จึงเป็นกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติการจัดการเงินของสมาชิกสหกรณ์ไว้โดยเฉพาะ ย่อมมีผลบังคับได้นอกเหนือจากการทำพินัยกรรม การทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ของผู้ตายจึงมีผลบังคับได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบพินัยกรรมและไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรม โดยมีผลบังคับแตกต่างจากการทำพินัยกรรม เมื่อผู้ตายทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในทุนเรือนหุ้นไว้แก่สหกรณ์จำเลยแล้ว ทุนเรือนหุ้นจึงไม่เป็นมรดกของผู้ตายที่ผู้ตายจะทำพินัยกรรมยกทุนเรือนหุ้นนั้นให้แก่ผู้อื่นอีก โดยเป็นกรณีที่มีกฎหมายพระราชบัญญัติสหกรณ์บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นที่ทำให้ทายาทต้องเสียไปซึ่งสิทธิในมรดก ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 วรรคสอง หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในส่วนเงินทุนเรือนหุ้นจึงไม่เป็นพินัยกรรมของผู้ตายและไม่ตกเป็นโมฆะ

(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2561)

 

คำพิพากษาศาลฎีกา 8873/2561, เงินสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์, หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์, ข้อบังคับสหกรณ์เกี่ยวกับเงินค่าหุ้น, การจัดการมรดกตามกฎหมายสหกรณ์, พินัยกรรมกับเงินทุนเรือนหุ้น, สิทธิผู้รับโอนประโยชน์ในเงินสงเคราะห์, ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, การเพิกถอนผู้รับโอนประโยชน์ในสหกรณ์, ผลของข้อบังคับสหกรณ์ตามกฎหมาย,

 

 

คำถามที่ 1:

การตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ถือเป็นพินัยกรรมหรือไม่?

คำตอบ:

การตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถือเป็นพินัยกรรม เนื่องจากเป็นการกระทำตามข้อบังคับของสหกรณ์และกฎหมายพระราชบัญญัติสหกรณ์ ซึ่งกำหนดให้สามารถทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์โดยมอบให้สหกรณ์ถือเป็นหลักฐาน โดยไม่ต้องทำตามรูปแบบของพินัยกรรม และไม่ตกเป็นมรดกที่สามารถจัดสรรให้ผู้อื่นผ่านพินัยกรรมได้

คำถามที่ 2:

ผู้รับโอนประโยชน์ต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อขอรับเงินผลประโยชน์จากสหกรณ์เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย?

คำตอบ:

ผู้รับโอนประโยชน์ต้องยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ต่อสหกรณ์ภายในหนึ่งปีนับจากวันที่สมาชิกถึงแก่ความตายหรือได้รับแจ้งจากสหกรณ์ พร้อมแนบสำเนามรณบัตรเป็นหลักฐาน หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลา เงินดังกล่าวจะถูกโอนไปเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ตามข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์นั้นๆ

 

คำถามที่ 1: การตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ถือเป็นพินัยกรรมหรือไม่? คำตอบ: การตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ไม่ถือเป็นพินัยกรรม เนื่องจากเป็นการกระทำตามข้อบังคับของสหกรณ์และกฎหมายพระราชบัญญัติสหกรณ์ ซึ่งกำหนดให้สามารถทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์โดยมอบให้สหกรณ์ถือเป็นหลักฐาน โดยไม่ต้องทำตามรูปแบบของพินัยกรรม และไม่ตกเป็นมรดกที่สามารถจัดสรรให้ผู้อื่นผ่านพินัยกรรมได้ คำถามที่ 2: ผู้รับโอนประโยชน์ต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อขอรับเงินผลประโยชน์จากสหกรณ์เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย? คำตอบ: ผู้รับโอนประโยชน์ต้องยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ต่อสหกรณ์ภายในหนึ่งปีนับจากวันที่สมาชิกถึงแก่ความตายหรือได้รับแจ้งจากสหกรณ์ พร้อมแนบสำเนามรณบัตรเป็นหลักฐาน หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลา เงินดังกล่าวจะถูกโอนไปเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ตามข้อบังคับและระเบียบของสหกรณ์นั้นๆ

 

 

****โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้มีคำสั่งว่าพินัยกรรมหรือหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ที่นายทวีศักดิ์ทำไว้กับจำเลยเป็นโมฆะ และให้จำเลยชำระเงิน 149,690 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2526 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างพิจารณา จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกนางสาวนงนุช เข้ามาเป็นจำเลยร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (3) ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต

จำเลยร่วมขาดนัดยื่นคำให้การ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในส่วนที่เป็นพินัยกรรมตกเป็นโมฆะ ให้จำเลยและจำเลยร่วมร่วมกันชำระเงิน 94,690 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 8 เมษายน 2558 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยและจำเลยร่วมร่วมกันชำระค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความทั้งสองศาล 7,000 บาท

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 เดิมใช้ชื่อว่า สหกรณ์ออมทรัพย์บริษัททศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น สหกรณ์ออมทรัพย์บริษัททีโอที จำกัด นายทวีศักดิ์ ผู้ตายเป็นสมาชิกของสหกรณ์จำเลยเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2526 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2548 นายทวีศักดิ์ได้ทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ให้ไว้แก่จำเลย โดยหนังสือดังกล่าวระบุจำเลยร่วมและโจทก์เป็นผู้รับโอนประโยชน์ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับของจำเลย ข้อ 37 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 นายทวีศักดิ์ถึงแก่ความตายและศาลมีคำสั่งตั้งโจทก์ให้เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย เมื่อนายทวีศักดิ์ถึงแก่ความตายมีผลประโยชน์ที่จะได้รับจากจำเลย 299,400 บาท เป็นทุนเรือนหุ้น 189,400 บาท เงินสงเคราะห์ 150,000 บาท แต่นายทวีศักดิ์รับเงินสงเคราะห์ไปแล้ว 40,000 บาท และระเบียบของจำเลย ว่าด้วยการให้สวัสดิการสมาชิกและการใช้ทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ พ.ศ.2557 โจทก์และจำเลยร่วมได้ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ดังกล่าวจากจำเลย และจำเลยได้โอนเงินผลประโยชน์ของผู้ตายให้แก่โจทก์ 149,695 บาท ให้แก่จำเลยร่วม 149,690 บาท โดยหักค่าธรรมเนียมการโอนของธนาคารออกจากเงินที่มีสิทธิได้รับ 5 บาท และ 10 บาท ตามลำดับ

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในส่วนเงินทุนเรือนหุ้นเป็นพินัยกรรมของผู้ตายและตกเป็นโมฆะหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ตามข้อบังคับของจำเลย ข้อ 6 ทุนเรือนหุ้นนั้นเป็นเงินสะสมที่สมาชิกของจำเลยจะต้องชำระให้แก่จำเลยเป็นรายเดือนทุกเดือน แต่สมาชิกจะขายหรือโอน หรือถอนคืนหุ้นในระหว่างที่ตนยังเป็นสมาชิกอยู่ไม่ได้ ข้อ 37 "การตั้งผู้รับโอนประโยชน์ สมาชิกสามารถทำเป็นหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคน เพื่อให้เป็นผู้รับโอนประโยชน์ซึ่งตนมีอยู่ในสหกรณ์ในเมื่อตนตายและมอบให้สหกรณ์ถือไว้

ถ้าสมาชิกประสงค์จะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ทำไว้แล้ว ก็ต้องทำเป็นหนังสือตามลักษณะดังกล่าวในวรรคก่อนมอบให้สหกรณ์ถือไว้

เมื่อสมาชิกตาย ให้สหกรณ์แจ้งให้ผู้รับโอนประโยชน์ตามความในวรรคก่อนทราบ และสหกรณ์จะจ่ายเงินค่าหุ้น เงินรับฝาก เงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และเงินผลประโยชน์หรือเงินอื่นใดบรรดาที่สมาชิกผู้ตายมีอยู่ในสหกรณ์ หรือมีสิทธิได้รับจากสหกรณ์ให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ที่ได้ตั้งไว้ หรือถ้ามิได้ตั้งไว้ก็มอบให้แก่ผู้จัดการมรดกหรือบุคคลที่นำหลักฐานมาแสดงให้เป็นที่พอใจคณะกรรมการดำเนินการว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น ทั้งนี้ให้อยู่ภายใต้ข้อบังคับของสหกรณ์ข้อ 42 และข้อ 43

*ให้ผู้รับโอนประโยชน์ตามความในวรรคแรก ยื่นคำขอรับเงินผลประโยชน์ต่อสหกรณ์ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่สมาชิกตายหรือได้รับแจ้งจากสหกรณ์ โดยให้แนบสำเนามรณบัตรที่ทางราชการออกให้แสดงว่าสมาชิกนั้น ๆ ได้ถึงแก่ความตายไปประกอบการพิจารณาด้วย เมื่อคณะกรรมการดำเนินการได้พิจารณาและอนุมัติแล้ว สหกรณ์จะจ่ายเงินผลประโยชน์ดังกล่าวภายในสี่สิบห้าวัน ในกรณีผู้มีสิทธิรับเงินผลประโยชน์ไม่ยื่นคำร้องขอรับเงินผลประโยชน์หรือผู้ที่มีชื่อเป็นผู้รับโอนประโยชน์ที่สมาชิกได้จัดทำให้สหกรณ์ถือไว้ไม่มีตัวตนอยู่ก็ดี เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องคดี ให้สหกรณ์โอนจำนวนเงินดังกล่าวไปสมทบเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ทั้งสิ้น" ข้อบังคับของจำเลยข้อ 37 นี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 มาตรา 8 ที่ให้เพิ่มความมาตรา 42/2 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 โดยบัญญัติว่า "สมาชิกอาจทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่าหุ้น เงินฝาก หรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อตนถึงแก่ความตาย โดยมอบไว้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน" และตามข้อบังคับของจำเลยดังกล่าวข้อ 42 และข้อ 43 ยังกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายคืนเงินค่าหุ้นให้แก่สมาชิกที่พ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์ โดยอาจจะต้องหักการขาดทุนของสหกรณ์ออกก่อน หรือสหกรณ์มีอำนาจหักจำนวนเงินซึ่งสมาชิกต้องรับผิดต่อสหกรณ์ออกก่อนก็ได้ นอกจากนี้ตามระเบียบของจำเลย ว่าด้วยการให้สวัสดิการสมาชิกและการใช้ทุนเพื่อสาธารณประโยชน์ ข้อ 6 กำหนดว่า สมาชิกผู้ใดถึงแก่กรรมให้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ดังนี้ "...6.2 เป็นสมาชิกเกินกว่า 24 เดือน จะรับเงินสงเคราะห์...20,000 บาท บวกจำนวนเดือนที่เป็นสมาชิกเกินกว่า 24 เดือน รับเงินสงเคราะห์เพิ่มเดือนละ 500 บาท รวมแล้วไม่เกิน 150,000 บาท..." ข้อ 12 "สหกรณ์ (จำเลย) จ่ายเงินสงเคราะห์ให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับดังต่อไปนี้ 12.1 กรณีสมาชิกถึงแก่กรรมจ่ายเงินให้แก่บุคคลที่สมาชิกแต่งตั้งให้เป็นผู้รับโอนประโยชน์ตามข้อบังคับสหกรณ์ฯ แต่ถ้าสมาชิกไม่ได้แต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ สหกรณ์จะจ่ายเงินให้แก่ผู้จัดการมรดกหรือคู่สมรสหรือบุตรหรือบิดาหรือมารดาของผู้ถึงแก่กรรมตามลำดับ" จากระเบียบของจำเลยดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเงินสงเคราะห์เป็นเงินที่พึงจะได้รับเมื่อสมาชิกถึงแก่ความตายไปแล้ว โดยจ่ายให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ตามข้อบังคับสหกรณ์ ถ้าสมาชิกผู้ใดออกจากการเป็นสมาชิกของสหกรณ์ก็ไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินสงเคราะห์จากสหกรณ์ ดังนี้ หากสมาชิกประสงค์จะให้ผู้รับโอนประโยชน์มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์จากสหกรณ์ก็จะต้องคงความเป็นสมาชิกไว้จนตายจะถอนเงินค่าหุ้นหรือออกจากการเป็นสมาชิกไม่ได้ และเงินทุนเรือนหุ้นหรือเงินค่าหุ้นที่สมาชิกมีอยู่กับสหกรณ์ก็มิใช่เงินที่สมาชิกสามารถที่จะเบิกถอนไปใช้ได้ก่อนเว้นแต่จะออกจากการเป็นสมาชิกแล้วซึ่งก็ยังมีเงื่อนไขที่อาจจะไม่ได้รับเต็มจำนวนก็ได้ เงินค่าหุ้นจึงมีลักษณะพิเศษที่มิใช่เป็นทรัพย์ของสมาชิกโดยแท้ เมื่อพระราชบัญญัติสหกรณ์บัญญัติให้สมาชิกสหกรณ์สามารถทำหนังสือตั้งบุคคลหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้รับโอนประโยชน์ในเงินค่าหุ้นหรือเงินอื่นใดจากสหกรณ์เมื่อสมาชิกถึงแก่ความตาย โดยมอบไว้แก่สหกรณ์เป็นหลักฐาน การจะเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ก็ต้องทำเป็นหนังสือในลักษณะเดียวกันมอบให้สหกรณ์ถือไว้ และถ้าในที่สุดไม่มีผู้รับเงิน เงินนั้นก็จะนำไปสมทบเป็นเงินทุนสำรองของสหกรณ์ เมื่อเงินค่าหุ้นและเงินสงเคราะห์มีลักษณะพิเศษตามข้อบังคับและระเบียบของจำเลยดังกล่าวเพื่อให้การบริหารเงินของสหกรณ์เป็นไปโดยสะดวกเพื่อประโยชน์ของสมาชิกและออกตามบทบัญญัติของกฎหมาย จึงเป็นกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติการจัดการเงินของสมาชิกสหกรณ์ไว้โดยเฉพาะ ย่อมมีผลบังคับได้นอกเหนือจากการทำพินัยกรรม การทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ของผู้ตายจึงมีผลบังคับได้ ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบพินัยกรรมและไม่ถือว่าเป็นพินัยกรรม โดยมีผลบังคับแตกต่างจากการทำพินัยกรรม เมื่อผู้ตายทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในทุนเรือนหุ้นไว้แก่สหกรณ์จำเลยแล้ว ทุนเรือนหุ้นจึงไม่เป็นมรดกของผู้ตายที่ผู้ตายจะทำพินัยกรรมยกทุนเรือนหุ้นนั้นให้แก่ผู้อื่นอีก โดยเป็นกรณีที่มีกฎหมายพระราชบัญญัติสหกรณ์บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นที่ทำให้ทายาทต้องเสียไปซึ่งสิทธิในมรดก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 วรรคสอง หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในส่วนเงินทุนเรือนหุ้นจึงไม่เป็นพินัยกรรมของผู้ตายและไม่ตกเป็นโมฆะ ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น ดังนี้ การที่จำเลยชำระเงินค่าหุ้นของผู้ตายให้แก่จำเลยร่วมตามหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์จึงเป็นการกระทำไปโดยมีสิทธิที่จะทำได้ ไม่เป็นการกระทำละเมิดแก่โจทก์ตามฟ้อง จำเลยและจำเลยร่วมจึงไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวแก่โจทก์ แม้จำเลยร่วมไม่ได้ฎีกา แต่เป็นกรณีเกี่ยวด้วยการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงจำเลยร่วมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 245 (1) ประกอบมาตรา 247 (เดิม)

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ 

 

หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์

บทนำ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์เป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการเงินทุนเรือนหุ้นของสมาชิกเมื่อถึงแก่ความตาย หลักเกณฑ์และผลทางกฎหมายของเอกสารนี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติสหกรณ์และข้อบังคับของสหกรณ์แต่ละแห่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสมาชิกและผู้รับโอนประโยชน์

1. ความหมายของหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์เป็นเอกสารที่สมาชิกสหกรณ์จัดทำเพื่อกำหนดบุคคลหรือหลายบุคคลเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินทุนเรือนหุ้น เงินปันผล หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์ในกรณีที่สมาชิกถึงแก่ความตาย หนังสือดังกล่าวจะต้องมอบให้สหกรณ์เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐาน

2. หลักเกณฑ์การจัดทำและการเปลี่ยนแปลง สมาชิกสหกรณ์สามารถทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ได้ตามข้อบังคับของสหกรณ์และพระราชบัญญัติสหกรณ์ โดยการจัดทำหนังสือต้องระบุข้อมูลของผู้รับโอนประโยชน์อย่างชัดเจน หากต้องการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับโอนประโยชน์ สมาชิกจะต้องจัดทำหนังสือฉบับใหม่และมอบให้สหกรณ์แทนฉบับเดิม

3. ผลบังคับของหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายสหกรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามรูปแบบของพินัยกรรม ทั้งนี้ เงินทุนเรือนหุ้นและผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในหนังสือดังกล่าวจะไม่ตกเป็นมรดกของสมาชิกผู้ตาย แต่จะจ่ายให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ตามที่ระบุไว้

4. กรณีไม่มีผู้รับโอนประโยชน์ หากสมาชิกไม่ได้ทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หรือผู้รับโอนประโยชน์ที่ระบุไว้ไม่มีตัวตนหรือไม่สามารถติดต่อได้ เงินดังกล่าวจะถูกส่งมอบให้แก่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทที่มีสิทธิได้รับตามลำดับที่ข้อบังคับสหกรณ์กำหนด หรืออาจนำไปสมทบเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ตามที่กำหนดไว้

5. ประโยชน์และความสำคัญ

•ช่วยให้สมาชิกสามารถกำหนดผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างชัดเจน

•ลดข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดสรรเงินทุนเรือนหุ้นหลังจากสมาชิกถึงแก่ความตาย

•ช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพย์สินของสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ

 สรุป หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์เป็นเอกสารที่มีผลทางกฎหมายและบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสมาชิกและครอบครัว เพื่อให้การจัดการเงินทุนเรือนหุ้นสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสมาชิก การจัดทำหนังสือดังกล่าวจึงควรปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

 

หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์ บทนำ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์เป็นเอกสารที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการเงินทุนเรือนหุ้นของสมาชิกเมื่อถึงแก่ความตาย หลักเกณฑ์และผลทางกฎหมายของเอกสารนี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติสหกรณ์และข้อบังคับของสหกรณ์แต่ละแห่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสมาชิกและผู้รับโอนประโยชน์ 1. ความหมายของหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์เป็นเอกสารที่สมาชิกสหกรณ์จัดทำเพื่อกำหนดบุคคลหรือหลายบุคคลเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินทุนเรือนหุ้น เงินปันผล หรือผลประโยชน์อื่น ๆ ที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์ในกรณีที่สมาชิกถึงแก่ความตาย หนังสือดังกล่าวจะต้องมอบให้สหกรณ์เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐาน 2. หลักเกณฑ์การจัดทำและการเปลี่ยนแปลง สมาชิกสหกรณ์สามารถทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ได้ตามข้อบังคับของสหกรณ์และพระราชบัญญัติสหกรณ์ โดยการจัดทำหนังสือต้องระบุข้อมูลของผู้รับโอนประโยชน์อย่างชัดเจน หากต้องการเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงผู้รับโอนประโยชน์ สมาชิกจะต้องจัดทำหนังสือฉบับใหม่และมอบให้สหกรณ์แทนฉบับเดิม 3. ผลบังคับของหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายสหกรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามรูปแบบของพินัยกรรม ทั้งนี้ เงินทุนเรือนหุ้นและผลประโยชน์ที่กำหนดไว้ในหนังสือดังกล่าวจะไม่ตกเป็นมรดกของสมาชิกผู้ตาย แต่จะจ่ายให้แก่ผู้รับโอนประโยชน์ตามที่ระบุไว้ 4. กรณีไม่มีผู้รับโอนประโยชน์ หากสมาชิกไม่ได้ทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ หรือผู้รับโอนประโยชน์ที่ระบุไว้ไม่มีตัวตนหรือไม่สามารถติดต่อได้ เงินดังกล่าวจะถูกส่งมอบให้แก่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทที่มีสิทธิได้รับตามลำดับที่ข้อบังคับสหกรณ์กำหนด หรืออาจนำไปสมทบเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ตามที่กำหนดไว้ 5. ประโยชน์และความสำคัญ •ช่วยให้สมาชิกสามารถกำหนดผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างชัดเจน •ลดข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดสรรเงินทุนเรือนหุ้นหลังจากสมาชิกถึงแก่ความตาย •ช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพย์สินของสหกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพ สรุป หนังสือแต่งตั้งผู้รับโอนประโยชน์ในเงินทุนเรือนหุ้นของสหกรณ์เป็นเอกสารที่มีผลทางกฎหมายและบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของสมาชิกและครอบครัว เพื่อให้การจัดการเงินทุนเรือนหุ้นสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสมาชิก การจัดทำหนังสือดังกล่าวจึงควรปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด




คดีมรดก ร้องศาลตั้งผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกยักยอกเงิน & จัดการที่ดินมรดก (ฎีกา 1543/2568) article
สัญญาประนีประนอม & สิทธิผู้จัดการมรดกเสียงข้างมาก (ฎีกา 3001/2568) article
วิเคราะห์ผู้จัดการมรดกจำนองที่ดิน ทุจริต,กองมรดก, ทายาท,(ฎีกา 5902/2567)
สิทธิทายาท & การแบ่งมรดกโดยจับฉลาก, ทายาทไม่เข้าร่วมประชุม (ฎีกา 2128/2567)
อำนาจผู้จัดการมรดกร่วม & ฟ้องเรียกทรัพย์, มาตรา 1726, (ฎีกา 2628/2567)
คดีมรดก อายุความมรดก 10 ปี, สิทธิทายาท, แบ่งมรดก, (ฎีกา 9992/2560)
บังคับแบ่งมรดก & เพิกถอนโอน,ผู้จัดการมรดก, (ฎีกา 3886/2566) article
(ฎีกาที่ 2656/2567) ภาษีการรับมรดก & คำนวณมูลค่าทรัพย์สิน
(ฎีกาที่ 3681/2567) : อำนาจผู้จัดการมรดกร่วมในการฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนสู่กองมรดก
(ฎีกาที่ 8200/2567) เพิกถอนโฉนดที่ดินและการจัดการมรดก: การบังคับคดีและผลทางกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4043/2567 การตั้งผู้จัดการมรดกและการคัดค้านสิทธิของทายาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4044/2567: พินัยกรรมแบบเขียนเองทั้งฉบับ ความสมบูรณ์และผลทางกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5560/2567: มรดกไม่มีทายาทตกเป็นของแผ่นดิน และสิทธิเรียกร้องส่วนแบ่งเงินฝาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5668/2567: การเพิกถอนพินัยกรรมและหลักเกณฑ์ความชอบด้วยกฎหมายของอุทธรณ์
พินัยกรรมผิดแบบเอกสารลับยังสมบูรณ์ได้ หากครบเงื่อนไขพินัยกรรมธรรมดา – คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3001/2538
โจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายที่เจ้ามรดกได้รับรองแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 416/2563: ผู้จัดการมรดกยักยอกทรัพย์มรดกและความรับผิดตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2563: การโอนมรดกและอำนาจผู้จัดการมรดก
สรุปคดีมรดก & เพิกถอนโอนที่ดิน,เพิกถอนนิติกรรม,(ฎีกา 1028/2564) article
สิทธิรับมรดก ทายาทโดยธรรม & สินสมรส(ฎีกา 755/2565) article
การจัดการมรดกไม่ชอบไม่อาจถือว่าการจัดการมรดกสิ้นลงแล้ว
ทายาทฟ้องทายาทให้แบ่งทรัพย์มรดก สิทธิฟ้องแบ่งมรดกเมื่อพ้นอายุความ
พินัยกรรมของผู้ตายที่ห้ามโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตกเป็นโมฆะ, ข้อห้ามในพินัยกรรมเป็นโมฆะ, ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม
ถอนผู้จัดการมรดก, การปันมรดกเสร็จสิ้นแล้ว, การจัดการศาลจ้าวไม่เป็นมรดก, ศาลจ้าวใต้เซียฮุดโจ๊วเป็นกุศลสถาน
ที่ดินของรัฐ มรดกของผู้ตาย, ที่ดินนิคมสหกรณ์, สิทธิทำประโยชน์ในที่ดิน, สิทธิเหนือพื้นดิน, การเพิกถอนโฉนดที่ดิน,
การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในกองมรดก, การเพิกถอนนิติกรรมในทรัพย์มรดก, การขายทรัพย์มรดกเพื่อชำระหนี้, ผู้จัดการมรดกกับสิทธิและหน้าที่
มรดกตกทอด, การเพิกถอนการสละมรดก, อายุความในการฟ้องคดีมรดก, สิทธิเรียกร้องแทนลูกหนี้
นิติกรรมซื้อขายที่ดินซึ่งเป็นคนต่างด้าว, คดีมรดกที่ดินของคนต่างด้าว, อายุความคดีมรดก, การยักยอกทรัพย์มรดก
พินัยกรรมยกมรดกให้พี่น้องร่วมบิดามารดา, สิทธิของผู้สืบสันดานในการรับมรดกแทนที่, การฟ้องเรียกค่าเช่าจากทรัพย์สินมรดก
การกำจัดทายาทมิให้รับมรดก, สิทธิรับมรดกของผู้สืบสันดานเมื่อทายาทถูกกำจัด, การเพิกถอนนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์มรดก
เพิกถอนโอนมรดก & สิทธิทายาท (ฎีกา 1023/2566) article
ผู้จัดการมรดกและการโอนทรัพย์มรดก, พินัยกรรมด้วยวาจา ป.พ.พ. มาตรา 1663, การครอบครองทรัพย์มรดกแทนทายาท
สิทธิทายาทในมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง, ทายาทตายก่อนแบ่งมรดก, รับมรดกแทนที่ มาตรา 1639,
สิทธิการฟ้องขอแบ่งมรดกของทายาท, การเพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินมรดก, สินสมรสหลังคู่สมรสเสียชีวิต
สัญญาประกันชีวิต, สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก, ผู้ทำประกันชีวิตและผู้รับผลประโยชน์ตายพร้อมกัน
การจัดการหนี้สินในกองมรดก, สิทธิของเจ้าหนี้กองมรดก, ที่ดินมรดกและการบังคับคดี
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนมรดก
ผู้จัดการมรดกปฏิบัติผิดหน้าที่-ทายาทผู้มีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกได้
ผู้จัดการมรดกร่วมถึงแก่ความตายต้องทำอย่างไร, ฟ้องซ้อน คืออะไร, แต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่เพียงทำการอันจำเป็นเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไป
การจัดการทรัพย์มรดกในฐานะผู้จัดการมรดกตามหน้าที่ที่จำเป็น
คำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกปิดบังทรัพย์มรดกมีผลอย่างไร
ทายาทมิได้ฟ้องเรียกร้องมรดกภายใน 1 ปี
ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ทรัพย์สินที่ทำมาหาได้ร่วมกัน ผู้มีส่วนได้เสีย
สามีไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้มีส่วนได้เสียเป็นผู้จัดการมรดกได้
ทรัพย์มรดกยังไม่ได้แบ่งให้แก่ทายาททุกคน-การจัดการทรัพย์มรดกยังไม่เสร็จสิ้น
ผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มีผลอย่างไร?
ฟ้องผู้จัดการมรดกนับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลงเกินห้าปีขาดอายุความ
ผู้จัดการมรดกไม่จัดทำบัญชีทรัพย์มรดกยื่นต่อศาลถูกเพิกถอนได้
อายุความคดีมรดก เจ้าหนี้ฟ้องคดีมรดกเกินหนึ่งปี
คดีของโจทก์ขาดอายุความการจัดการมรดก
บุตรบุญธรรมเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรชอบด้วยกฎหมาย
บุตรนอกกฎหมายซึ่งผู้ตายรับรองแล้วเป็นผู้สืบสันดาน
มารดาขายที่ดินซึ่งผู้เยาว์มีส่วนแบ่งไม่ต้องขอศาล
นายอำเภอคือผู้มีอำนาจจัดทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง
ความรับผิดของผู้จัดการมดกภายหลังการเสียชีวิต
ผู้จัดการมรดกร่วมนำทรัพย์มรดกหาประโยชน์แก่ตน
ผู้สืบสันดาน คือใคร? ต่างกับทายาท อย่างไร?
คู่สมรสและการแบ่งมรดกของคู่สมรส | การสมรสเป็นโมฆะ
อายุความคดีมรดก และอายุความเกี่ยวกับการจัดการมรดก
เหตุอันจะร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดก
การปันมรดกเสร็จสิ้นลงแล้วการถอนผู้จัดการมรดกย่อมพ้นกำหนดเวลา
สามีมิได้จดทะเบียนสมรสไม่ถือเป็นทายาทของภริยาผู้ตาย
อำนาจหน้าที่จัดการศพพระภิกษุผู้มรณภาพไม่มีทรัพย์สิน
สามีไม่จดทะเบียนสมรสขอถอนผู้จัดการมรดก มีกรรมสิทธิ์รวม
ไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะทำหน้าที่ผู้จัดการมรดก
อำนาจฟ้องขอแบ่งปันทรัพย์มรดกของผู้ตาย
ทายาททุกคนมอบหมายให้ครอบครองที่ดินแทนทายาททุกคนเพื่อประโยชน์ร่วม
ผู้อยู่ในฐานะอันจะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อนตามมาตรา 1300
ทายาทโดยธรรมย่อมมีสิทธิเป็นเจ้าของรวมในทรัพย์มรดกตามส่วนที่จะพึงได้
สิทธิรับมรดกที่ยังไม่ได้จดทะเบียนการได้มาห้ามยกเป็นข้อต่อสู้ผู้รับโอนโดยสุจริต
ผู้จัดการมรดกทำนิติกรรมซึ่งตนมีส่วนได้เสียเป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดก
ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์มรดกเมื่อล่วงพ้นกำหนดอายุความแล้ว
ผู้คัดค้านไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในการขอจัดการมรดก
ทายาทมีส่วนเท่ากันออกค่าใช้จ่ายจัดการทำศพ
ความเหมาะสมในการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกครอบครองทรัพย์มรดกแทนทายาทอื่น
สิทธิของบิดาไม่ชอบด้วยกฎหมายในการรับมรดกของบุตรนอกกฎหมาย
หนังสือสัญญาแบ่งมรดกตกเป็นโมฆะหรือไม่?
อำนาจและหน้าที่ในการจัดการทำศพและลำดับก่อนหลัง
พินัยกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อน
ผู้จัดการมรดกฟ้องแทนทายาทโดยธรรมอื่น
คู่สมรสที่จดทะเบียนหย่าแล้วเป็นผู้จัดการมรดกได้หรือไม่
การสละมรดกมีผลย้อนหลังไปถึงเวลาเจ้ามรดกตายจึงขาดความเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
แม้กองมรดกมีผู้จัดการมรดกแล้วทายาทก็ยังมีสิทธิฟ้อง
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองไม่ได้ทำต่อหน้าพยานตกเป็นโมฆะ
บุตรนอกสมรสและบิดานอกกฎหมายมีสิทธิรับมรดกต่อกันอย่างไร
ผู้จัดการมรดก | ทายาทผู้ถูกตัดมิให้รับมรดก
ผู้จัดการมรดกเรียกให้เจ้าของรวมส่งมอบโฉนดที่ดิน
การจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลงอายุความ 5 ปียังไม่เริ่มนับ
สิทธิรับมรดกก่อนหลัง
คำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ
อายุความฟ้องคดีแพ่งอันเนื่องจากคดียักยอกทรัพย์มรดก
เมื่อแบ่งมรดกเสร็จแล้วความเป็นทายาทสิ้นสุดลง-อายุความมรดก
การแบ่งมรดกที่ดินมือเปล่าไม่มีเอกสารสิทธิ
คดีมรดกต้องเป็นคดีที่ทายาทด้วยกันพิพาทกันเรื่องสิทธิในส่วนแบ่งมรดก
ขอให้ศาลสั่งถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ความรับผิดของผู้ตาย
แสดงบัญชีเครือญาติเป็นเท็จปิดบังจำนวนทายาท