ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562 เรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง

1.ภาพโลโก้สำนักงานทนายความพีศิริ – โลโก้สำนักงานทนายความพีศิริ ทนายลิ่นนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ ที่ปรึกษากฎหมายและคดีความ 2.ภาพข้อมูลที่ตั้งและติดต่อสำนักงาน – ข้อมูลที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานทนายความพีศิริ จังหวัดนนทบุรี 3.ภาพหัวข้อบทความคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562 – หัวข้อข่าว “คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562 เรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง” พร้อมข้อความสรุปคดี 4.ภาพทนายลิ่นนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ – ภาพทนายลิ่นนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญคดีแพ่ง คดีครอบครัว และคดีฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่น

ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

บทนำ

คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง โดยพิจารณาจากพฤติการณ์ที่หญิงอื่นแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีของโจทก์ แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นการพบกันเพื่อปรึกษาเรื่องงาน แต่ศาลเห็นว่าไม่มีหลักฐานสนับสนุน และพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะดังกล่าว ศาลฎีกาจึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่าทดแทนแก่โจทก์จำนวน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย


สรุปข้อเท็จจริง

โจทก์และสามีจดทะเบียนสมรส และประกอบธุรกิจร่วมกัน มีจำเลยเป็นลูกจ้างตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป

สามีโจทก์ไปที่บ้านเช่าของจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง บางครั้งพักค้างคืน และมีกุญแจเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง

จำเลยแต่งงานแล้ว และยินยอมให้สามีโจทก์เข้าออกบ้านยามวิกาล รวมทั้งออกไปทำงานพร้อมกันในบางครั้ง

พฤติการณ์นี้ทำให้บุคคลภายนอกเข้าใจว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทน 3,000,000 บาท ศาลชั้นต้นกำหนดให้ชำระ 1,500,000 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 9 กลับให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาพิพากษาแก้ กำหนดค่าทดแทน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย


คำวินิจฉัยของศาลฎีกา

1. การนำสืบไม่เป็นนอกฟ้องนอกประเด็น

การที่โจทก์นำสืบพฤติกรรมต่อเนื่องของจำเลยและสามี เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ฉันชู้สาว เป็นการขยายความประเด็นฟ้องให้ชัดเจน ไม่ขัดต่อข้อห้าม

2. องค์ประกอบมาตรา 1523 วรรคสอง

การกระทำของจำเลยเข้าข่าย “แสดงตนโดยเปิดเผย” ว่ามีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาว

3. การประเมินค่าทดแทน

ศาลพิจารณาพฤติการณ์ สถานะ และความสัมพันธ์ที่มีปัญหามาก่อน จึงปรับค่าทดแทนเหลือ 1,000,000 บาท


การวิเคราะห์ประเด็นทางกฎหมาย

หลักเกณฑ์ตามมาตรา 1523 วรรคสอง

ให้สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามี

การตีความคำว่า “แสดงตนโดยเปิดเผย”

ครอบคลุมถึงพฤติการณ์ที่บุคคลทั่วไปเมื่อพบเห็นสามารถเข้าใจได้ว่ามีความสัมพันธ์ดังกล่าว แม้ไม่มีหลักฐานทางเพศสัมพันธ์โดยตรง

น้ำหนักพยานหลักฐาน

การพบกันยามวิกาล การค้างคืน การใช้กุญแจเข้าออกได้เอง และการออกจากบ้านพร้อมกัน เป็นหลักฐานแวดล้อมที่มีน้ำหนักเพียงพอ


ข้อคิดทางกฎหมาย

1. สิทธิเรียกค่าทดแทนตามมาตรา 1523 วรรคสอง ต้องพิสูจน์การ “แสดงตนโดยเปิดเผย”

2. พฤติการณ์แวดล้อมมีความสำคัญในการตีความ แม้ไม่มีหลักฐานตรง

3. ศาลจะพิจารณากำหนดค่าทดแทนตามความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานะและความเสียหายจริง


IRAC Analysis

Issue (ประเด็นปัญหา)

ภริยามีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นหรือไม่ เมื่อหญิงอื่นมีพฤติการณ์ให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามี

Rule (บทกฎหมายที่ใช้บังคับ)

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง — “ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้”

Application (การประยุกต์ใช้)

จากพยานหลักฐาน พบว่าจำเลยอนุญาตให้สามีโจทก์เข้าออกบ้านยามวิกาล พักค้างคืน และออกไปทำงานพร้อมกัน พฤติการณ์ดังกล่าวเพียงพอให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แม้จำเลยจะอ้างเหตุผลเรื่องงานแต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน ศาลจึงเห็นว่าเข้าองค์ประกอบมาตรา 1523 วรรคสอง

Conclusion (ข้อสรุป)

จำเลยต้องชำระค่าทดแทนแก่โจทก์ 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย


สรุปย่อภาษาอังกฤษ (English Summary)

 

The Supreme Court Judgment No. 964/2562 concerns a wife’s right under Section 1523 paragraph 2 of the Civil and Commercial Code to claim compensation from another woman who openly shows a relationship with her husband in an adulterous manner. The Court found sufficient circumstantial evidence—frequent late-night visits, overnight stays, and unrestricted access to the house—indicating such a relationship. The defendant was ordered to pay 1,000,000 THB plus interest.

 

 สามีโจทก์เข้าออกบ้านของจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง

 

สามีโจทก์ยังมีกุญแจที่ใช้เปิดประตูเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง แม้ในยามกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยเข้านอนแล้วก็สามารถเข้าบ้านจำเลยโดยไม่ต้องรอให้จำเลยเปิดประตูบ้านให้ อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าที่จะเป็นเพียงนายจ้างหรือลูกจ้างกันตามปกติธรรมดา โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้
 
 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562
 

 
คำฟ้องโจทก์ขอเรียกค่าทดแทนจากจำเลย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า "ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้" จากพฤติการณ์ที่สามีโจทก์ไปพบจำเลยที่บ้านเช่าของจำเลยในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง โดยขับรถมาเองหรือมาพร้อมกับจำเลยก็ตาม บางครั้งก็นอนพักค้างคืนที่บ้านจำเลยและกลับออกมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น อีกทั้งสามีโจทก์ยังมีกุญแจที่ใช้เปิดประตูเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง แม้ในยามกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยเข้านอนแล้วก็สามารถเข้าบ้านจำเลยโดยไม่ต้องรอให้จำเลยเปิดประตูบ้านให้ อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าที่จะเป็นเพียงนายจ้างหรือลูกจ้างกันตามปกติธรรมดา การที่จำเลยเป็นหญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว ยินยอมให้สามีโจทก์ซึ่งเป็นชายอื่นเข้าออกบ้านจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง รวมทั้งให้มานอนค้างคืนที่บ้านแล้วออกจากบ้านไปช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยบางครั้งมีการแต่งกายออกไปทำงานพร้อมกัน ย่อมทำให้เพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นที่พบเห็นถึงพฤติกรรมระหว่างจำเลยกับสามีโจทก์เข้าใจได้ว่า จำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน พฤติการณ์เช่นนี้เป็นการที่จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าทดแทนความเสียหายต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงทางธุรกิจ ความเดือดร้อนที่ครอบครัวต้องแตกแยก และความทุกข์ทรมานทางด้านจิตใจ เป็นเงิน 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
 
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท
 
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
 
โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
 
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ในเบื้องต้นว่า โจทก์กับนายชัชชมจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2550 ระหว่างสมรสมีบุตรด้วยกัน 2 คน โจทก์กับนายชัชชมประกอบธุรกิจในนามบริษัทเอเชีย แปซิฟิค พาราวู้ด จำกัด มีจำเลยทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกว่า โจทก์นำสืบถึงการกระทำของจำเลยอันเป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นต้องห้ามมิให้รับฟังหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน 2557 จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายชัชชมสามีโจทก์โดยไปพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่บ้านเช่าของจำเลย ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2557 โจทก์รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของนายชัชชม จึงให้นายวันชัยซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์ติดตามพฤติกรรมของนายชัชชม เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 นายวันชัยไปที่บ้านเช่าจำเลยและถ่ายรูปรถยนต์ของนายชัชชมขณะจอดอยู่ที่บ้านเช่าของจำเลย ช่วงเวลา 2 นาฬิกา ส่วนการที่โจทก์นำสืบว่า นายวันชัยติดตามพฤติกรรมของนายชัชชมกับจำเลยโดยไปเช่าบ้านอยู่ใกล้กับบ้านเช่าของจำเลย จนนายวันชัยสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 วันที่ 27 สิงหาคม 2558 วันที่ 13 กันยายน 2558 วันที่ 7 ตุลาคม 2558 และวันที่ 8 ตุลาคม 2558 ในขณะที่นายชัชชมมาที่บ้านของจำเลยและพักค้างคืนด้วยนั้น เห็นว่า การที่โจทก์บรรยายฟ้องและนำสืบถึงพฤติกรรมที่สามีโจทก์ไปที่บ้านเช่าของจำเลยแล้วพักค้างคืนที่บ้าน ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 ตามฟ้อง โจทก์นำสืบโดยมีภาพถ่ายรถยนต์ของนายชัชชมขณะจอดอยู่หน้าบ้านเช่าของจำเลย เวลา 2 นาฬิกา ส่วนภาพเคลื่อนไหวที่นายวันชัยบันทึกไว้ขณะนายชัชชมมาที่บ้านของจำเลยแล้วพักค้างคืนนั้น เป็นการนำสืบถึงการติดตามพฤติกรรมของนายชัชชมและจำเลยอย่างต่อเนื่องทำให้ทราบถึงพฤติกรรมระหว่างจำเลยและนายชัชชม เช่นนี้ เป็นการนำสืบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญแห่งคดีที่ว่า จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์ให้ได้ความชัดเจนยิ่งขึ้น การนำสืบถึงพฤติกรรมของจำเลยและสามีโจทก์ที่มีความสัมพันธ์ในทางชู้สาวต่อเนื่องดังกล่าว หาใช่เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็นที่จะต้องห้ามมิให้รับฟังดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยไม่ ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
 
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ในประการต่อมาว่า จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์หรือไม่ เห็นว่า กรณีตามคำฟ้องโจทก์ขอเรียกค่าทดแทนจากจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า "ภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้" จากพฤติการณ์ที่สามีโจทก์ไปพบจำเลยที่บ้านเช่าของจำเลยในช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง โดยขับรถมาเองหรือมาพร้อมกับจำเลยก็ตาม บางครั้งก็นอนพักค้างคืนที่บ้านจำเลยและกลับออกมาในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น อีกทั้งสามีโจทก์ยังมีกุญแจที่ใช้เปิดประตูเข้าออกบ้านจำเลยได้เอง แม้ในยามกลางดึกซึ่งเป็นเวลาที่จำเลยเข้านอนแล้วก็สามารถเข้าบ้านจำเลยโดยไม่ต้องรอให้จำเลยเปิดประตูบ้านให้ อันแสดงให้เห็นว่าจำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากกว่าที่จะเป็นเพียงนายจ้างหรือลูกจ้างกันตามปกติธรรมดา แม้จำเลยจะนำสืบอ้างว่าที่สามีโจทก์ต้องมาพบจำเลยบ่อยครั้งในยามวิกาลเพื่อปรึกษาเรื่องงานเท่านั้น ก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีหลักฐานสนับสนุน จึงมีน้ำหนักน้อย น่าเชื่อว่า จำเลยมีความสัมพันธ์ในทำนองฉันชู้สาวกับสามีโจทก์จริง การที่จำเลยเป็นหญิงที่แต่งงานมีสามีแล้ว ยินยอมให้สามีโจทก์ซึ่งเป็นชายอื่นเข้าออกบ้านจำเลยในเวลากลางคืนบ่อยครั้ง รวมทั้งให้มานอนค้างคืนที่บ้านแล้วออกจากบ้านไปช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้น โดยบางครั้งมีการแต่งกายออกไปทำงานพร้อมกัน ย่อมทำให้เพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่นที่พบเห็นถึงพฤติกรรมระหว่างจำเลยกับสามีโจทก์เข้าใจได้ว่า จำเลยกับสามีโจทก์มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกัน พฤติการณ์เช่นนี้เป็นการที่จำเลยได้แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีโจทก์แล้ว โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง แต่การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์เป็นเงิน 1,500,000 บาท นั้น เห็นว่า เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี สถานะของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และสามีโจทก์ที่ต่างมีปัญหาที่ไม่ลงรอยกันทั้งทางครอบครัวและทางธุรกิจจนแยกกันอยู่มานานหลายปีแล้ว จึงเห็นสมควร กำหนดค่าทดแทนให้โจทก์เป็นเงิน 1,000,000 บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระค่าทดแทนเป็นเงิน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 17 พฤศจิกายน 2558) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9

สิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย



การสิ้นสุดแห่งการสมรส

การหย่าโมฆะ & สิทธิในมรดกที่ดินพิพาท
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นเรื่องชู้สาว (ฎีกา 4261/2560)
กฎหมายฟ้องชู้ฉบับใหม่ 2568: สิทธิของคู่สมรสทุกเพศในการเรียกค่าทดแทนและฟ้องหย่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5259 - 5260/2561 : การรับฟังพยานบันทึกเสียง, สิทธิฟ้องหย่า, ค่าทดแทนชู้ และอำนาจปกครองบุตร
สมัครใจแยกกันอยู่, จงใจละทิ้งร้าง, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากสามีและหญิงอื่น เหตุชู้สาวต่อเนื่องไม่ขาดอายุความ
การหย่าโดยสมยอมเพื่อฉ้อโกงเจ้าหนี้ – วิเคราะห์กฎหมายครอบครัวและสิทธิของเจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2548 สิทธิภริยาชอบด้วยกฎหมายเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523
สิทธิฟ้องหย่าและอำนาจปกครองบุตร: ศาลฎีกาวินิจฉัยกรณีสามีขับไล่ภริยา – คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4104/2564
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2567: การเปลี่ยนแปลงผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรและการปรับค่าเลี้ยงดูตามสถานการณ์ใหม่
แบ่งสินสมรส, สินสมรสที่เป็นเงินตรา, แบ่งสินสมรสหลังหย่า สิทธิและหน้าที่, สินส่วนตัวกับสินสมรส
คดีฟ้องหย่าและการแบ่งทรัพย์สิน, สิทธิการเรียกค่าเลี้ยงดูของโจทก์, การชำระค่าทดแทนในคดีแพ่ง, การบังคับคดีและสิทธิทายาทในมรดก
ข้อตกลงแบ่งค่าเช่าที่ดินในสัญญาหย่า
ฟ้องหย่าคู่สมรสวิกลจริต, คนไร้ความสามารถกับการหย่า, แบ่งทรัพย์สินหลังหย่าในกรณีคนวิกลจริต
การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
การหย่าโดยความยินยอมต้องทำอย่างไร?, หนังสือหย่า
สามีภริยาจะต้องมีการร่วมประเวณีกันบ้างแต่ต้องเกิดจากความยินยอม
ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์
ไม่เกิดสิทธิฟ้องหย่าเพราะโจทก์มีพฤติกรรมนอกใจจำเลยยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปี เหตุฟ้องหย่า
การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง
อายุความฟ้องหย่า, บันทึกข้อตกลงหย่า, หลักกฎหมายมาตรา 1515,
สิทธิฟ้องค่าอุปการะเลี้ยงดูอันจะอยู่ในอายุความ 5 ปี , หน้าที่บิดามารดาในการเลี้ยงดูบุตร
การฟ้องหย่าด้วยเหตุหมิ่นประมาท, สิทธิการฟ้องหย่าหมดอายุความ
นำตำรวจจับกุมภริยา หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง
จงใจละทิ้งร้างภริยาไปเกินหนึ่งปีฟ้องหย่าได้, สามีภริยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
การจงใจทิ้งร้างไปเกินกว่า 1 ปีต้องในลักษณะที่ไม่หวนกลับไปหาคู่สมรสอีก
ไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร
สิทธิฟ้องหย่าระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีเว้นแต่เหตุฟ้องเกิดขึ้นต่อเนื่อง
เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ สิทธิเรียกร้องกำหนดอายุความ 5 ปี
เหตุฟ้องหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า
สามีฟ้องหย่า,จงใจละทิ้งร้าง,เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ, อุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นเป็นภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี ต้องเพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุขด้วย
แยกกันอยู่เพราะสามีรับราชการที่อื่น, ไม่ถือว่าเป็นการแยกกันอยู่โดยความสมัครใจ
ทะเลาะกันและทำร้ายร่างกายยังไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า
แยกกันอยู่เพราะสามียกย่องหญิงอื่น, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
ฟ้องหย่าจงใจละทิ้งร้างเรียกสินสอดทองหมั้นคืน
สามีหรือภริยาประพฤติชั่วอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
รู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่าจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้
พี่น้องของผู้ตายขอเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสซ้อนไม่ได้
อำนาจฟ้องขอเพิกถอนการสมรสเพราะสำคัญผิดตัว
ศาลมีอำนาจกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้
ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก-ได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปี ฟ้องหย่าได้
สิทธิฟ้องหย่าระงับเมื่ออีกฝ่ายให้อภัยแล้ว
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะติดต่อกับบุตรของตนได้ตามสมควรแล้วแต่พฤติการณ์
ไม่อาจร่วมประเวณีได้ ต้องการฟ้องหย่า
แยกกันอยู่หรือจงใจละทิ้งร้าง? -อยู่บ้านเดียวกันแต่ก็มีลักษณะแบบต่างคนต่างอยู่
กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง
ไม่ถือว่าจำเลยประพฤติชั่วทำให้โจทก์อับอายถูกเกลียดชังจนเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะเรียกค่าทดแทนชู้สาวนั้นต้องแสดงตนโดยเปิดเผย
เหตุแห่งการฟ้องหย่าทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลงขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพได้
ฟ้องซ้ำ ค่าอุปการะเลี้ยงดู หนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนด
การแบ่งสินสมรสและกรรมสิทธิ์รวม
หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามสามีหรือบุพการี
สัญญาระหว่างสมรสให้ทรัพย์สินของสามีตกเป็นของภริยาห้ามบอกล้าง
ขอเพิกถอนทะเบียนสมรสซ้อน สมรสซ้อนโดยไม่สุจริต
ทะเบียนสมรส ลงชื่อฝ่ายชายคนเดียว, เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรม
ฟ้องหย่าอ้างเหตุสมัครใจแยกกันอยู่
ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้, ศาลปรับหนึ่งพันไม่เป็นการร้ายแรง
ฟ้องหย่าอ้างว่าจำเลยดูหมิ่นโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง
การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นการประพฤติชั่วอันเป็นเหตุฟ้องหย่า
โจทก์ได้ให้อภัยจำเลยเรื่องทำร้ายร่างกายแล้วถือได้ว่าสิทธิฟ้องหย่าในข้อนี้ย่อมหมดไป
ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน, การทำร้ายคู่สมรส
เหตุฟ้องหย่า เหตุที่ไม่อาจอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ มีอะไรบ้าง
ความสมบูรณ์ของการสมรส, ฟ้องให้การสมรสเป็นโมฆะ
การละเมิดเกิดขึ้นต่อเนื่องอายุความจึงยังไม่เริ่มนับคดีไม่ขาดอายุความ
การฟ้องหย่าและหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามี ไม่ฟ้องหย่า
ฟ้องหย่าอ้างสิทธิที่จะเลือกคู่ครองตามรัฐธรรมนูญ
รู้ว่าสามีไปมีหญิงอื่นเกินหนึ่งปีก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้,อายุความ
จงใจละทิ้งร้างไปเกินหนึ่งปี
ฟ้องหย่าได้ที่ศาลใด
การหย่าโดยคำพิพากษาจะมีผลต่อเมื่อเวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุด
หนังสือร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเรื่องความสัมพันธ์กับหญิงอื่น
ฟ้องหย่าอ้างแยกกันอยู่เกินสามปีต้องเพราะไม่อาจอยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุข
เหตุฟ้องหย่าอ้างว่าใช้วาจาไม่สุภาพและทะเลาะโดยไม่มีเหตุผล
หลักเกณฑ์การใช้สิทธิเรียกร้องค่าเลี้ยงชีพหลังการหย่า
สิทธิฟ้องหย่าของโจทก์หมดไปโจทก์ให้ความยินยอมและรู้เห็นเป็นใจ
คำสั่งขอคุ้มครองชั่วคราวเกี่ยวด้วยดอกผลของสินสมรส
แม้โจทก์ไม่ได้นำสืบเรื่องอำนาจปกครองบุตรผู้เยาว์แต่ศาลมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดได้
จดทะเบียนสมรสโดยต่างไม่ได้ยินยอมเป็นสามีภริยากันอย่างแท้จริง
ความหมายว่า"ค่าอุปการะเลี้ยงดูจนกว่าจะสมรสใหม่และจนกว่าการสมรสสิ้นสุดลง"
ฟ้องหย่าคดีอยู่ระหว่างฎีกาฟ้องคดีใหม่เป็นฟ้องซ้อน
สำนักงานการปฏิรูปฯ (ส.ป.ก.)ขอออกโฉนดโดยมิชอบ
พักโรงแรมห้องเดียวกับสามี ฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงชู้โดยไม่ต้องฟ้องหย่า
โจทก์ไม่ทราบแน่ชัดเรื่องชู้สาวจึงไม่เป็นการยินยอมและให้อภัยของโจทก์
บันทึกท้ายทะเบียนการหย่าว่าให้ที่ดินตกเป็นของบุตรเมื่อตายไม่ใช่พินัยกรรม
สมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้