

สิทธิฟ้องหย่าระงับเมื่ออีกฝ่ายให้อภัยแล้ว
ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์
สิทธิฟ้องหย่าระงับเมื่ออีกฝ่ายให้อภัยแล้ว โจทก์แสดงออกโดยกลับมาอยู่บ้านเดิมกับครอบครัวซึ่งมีบุตรและภริยาเช่นเดิมเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยต่อไปภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการแสดงว่าโจทก์ได้ให้อภัยต่อการกระทำของจำเลยที่ส่งข้อความหมิ่นประมาทบิดาของโจทก์ สิทธิฟ้องหย่าของโจทก์ในเรื่องนี้จึงหมดไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10157/2559 โจทก์บรรยายฟ้องว่า เดือนพฤษภาคม 2557 จำเลยทำหนังสือร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาของโจทก์ว่าโจทก์มีพฤติกรรมในทางชู้สาวกับหญิงอื่น ต่อมาเดือนสิงหาคม 2557 จำเลยถอนเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วโจทก์ยอมกลับมาอยู่กับจำเลยที่บ้าน จึงเห็นได้ว่า ตามคำฟ้องของโจทก์มีการบรรยายระบุถึงพฤติการณ์ที่แสดงถึงการให้อภัยจำเลยโดยยอมกลับมาอยู่กับจำเลยภายหลังเกิดเหตุการณ์ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การโต้แย้งเกี่ยวกับข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันแล้ว ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 84 (3) อีกทั้งจำเลยได้ยื่นถอนเรื่องร้องเรียนความประพฤติด้านชู้สาวของโจทก์ต่อผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1 ว่า จำเลยตกลงใจถอนเรื่องร้องเรียนโดยมีเงื่อนไข 3 ประการ คือให้โจทก์กลับเข้าบ้านและปฏิบัติตนเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีดูแลบุตรภริยาตามเดิม ให้โจทก์ปฏิบัติตนในทางที่ดี ไม่ให้เป็นที่ดูถูก ดูหมิ่นเหยียดหยาม ซุบซิบนินทาของบุคคลทั่วไปในสังคมและให้โจทก์ให้เกียรติยกย่องบุคคลในครอบครัวอันได้แก่ บุตร ภริยา ตามกาลเทศะที่เหมาะสม โดยโจทก์ก็ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าโจทก์จะกลับเข้าพักในบ้านเดิมกับครอบครัวซึ่งมีบุตรและภริยาเช่นเดิม แม้ข้อตกลงจะไม่ได้ระบุว่าโจทก์ให้อภัยการกระทำของจำเลย แต่พฤติการณ์ที่โจทก์แสดงออกโดยกลับมาอยู่บ้านเดิมกับครอบครัวซึ่งมีบุตรและภริยาเช่นเดิมเพื่ออยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยต่อไปภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการแสดงว่าโจทก์ได้ให้อภัยต่อการกระทำของจำเลยที่ส่งข้อความหมิ่นประมาทบิดาของโจทก์ สิทธิฟ้องหย่าของโจทก์ในเรื่องนี้จึงหมดไป สิทธิฟ้องหย่าย่อมหมดไปเมื่อฝ่ายที่มีสิทธิได้ให้อภัยในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2540 โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภริยาโดยอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาก่อนจดทะเบียนสมรส จำเลยละทิ้งโจทก์ไปได้หญิงอื่นเป็นภริยาและมีบุตรด้วยกันเป็นเวลาประมาณ 8 ถึง 9 ปีเป็นการจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปเกินกว่า 1 ปี จำเลยทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างชัดแจ้ง มีเหตุฟ้องหย่าขอให้พิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน ให้จำเลยแบ่งที่ดินให้โจทก์กึ่งหนึ่ง หากไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หรือมิฉะนั้นให้โจทก์มีสิทธิรับเงินกึ่งหนึ่งจากการบังคับคดีที่ดิน จำเลยให้การว่า โจทก์เคยฟ้องหย่าจำเลยและถอนฟ้องโดยให้อภัยแก่จำเลยมาแล้ว ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน ให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งสิทธิครอบครองที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เลขที่ 2947 ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี ให้โจทก์กึ่งหนึ่ง หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากตกลงแบ่งกันไม่ได้ให้นำที่ดินขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วน จำเลย อุทธรณ์ จำเลย ฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า"ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกมีว่า โจทก์มีเหตุฟ้องหย่าจำเลยหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับกันว่า โจทก์จำเลยอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาตั้งแต่ปี 2493 จดทะเบียนสมรสกันเมื่อปี 2519ต่อมาปี 2528 จำเลยไปได้นางมีเป็นภริยา มีบุตรด้วยกัน 1 คนโจทก์ได้ฟ้องหย่าจำเลยเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 781/2528คดีหมายเลขแดงที่ 1028/2528 ของศาลจังหวัดอุบลราชธานีศาลในคดีดังกล่าวได้ทำการไกล่เกลี่ย โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจำเลยจะต้องกลับมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกับโจทก์ห้ามเกี่ยวข้องกับหญิงอื่นต่อไป รวมทั้งห้ามนำหญิงอื่นเข้ามาอยู่อาศัยในบ้านของโจทก์ โจทก์จึงได้ถอนฟ้องไป ปรากฏว่าหลังจากที่โจทก์ถอนฟ้องในคดีก่อนแล้ว จำเลยยังคงอยู่ร่วมกับนางมีฉันสามีภริยาต่อมาจนกระทั่งปัจจุบัน เห็นว่า การที่โจทก์ยอมถอนฟ้องในคดีก่อนที่โจทก์ฟ้องหย่าจำเลยนั้น ก็เพราะจำเลยตกลงเงื่อนไขกับโจทก์ไว้เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขยังอยู่กินฉันสามีภริยากับนางมีต่อมาจนกระทั่งปัจจุบัน จึงมิใช่กรณีที่โจทก์ยอมให้อภัยจำเลยตลอดไปตามที่จำเลยกล่าวอ้าง การกระทำของจำเลยถือได้ว่าเป็นการกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรงอันเป็นเหตุฟ้องหย่าตามมาตรา 1516(6) จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยละทิ้งร้างโจทก์ไปไม่เกิน 1 ปีแล้วหรือไม่อันเป็นเหตุฟ้องหย่าอีกข้อหนึ่งนั้นต่อไปอีก โจทก์ย่อมฟ้องหย่าจำเลยได้"
มาตรา 1518 สิทธิฟ้องหย่าย่อมหมดไปในเมื่อฝ่ายที่มีสิทธิฟ้องหย่าได้ กระทำการอันแสดงให้เห็นว่าได้ให้อภัยในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็น เหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่านั้นแล้ว
|