ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




สามีหรือภริยาประพฤติชั่วอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

สามีหรือภริยาประพฤติชั่วอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้- หมิ่นประมาทโจทก์หรือบุพการีของโจทก์เป็นการร้ายแรง

 

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

 

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

 

สามีหรือภริยาประพฤติชั่วอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้- หมิ่นประมาทโจทก์หรือบุพการีของโจทก์เป็นการร้ายแรง     

ภริยากู้ยืมเงินคนอื่นเพื่อใช้จ่ายในคดีที่สามีถูกจับฐานพกอาวุธปืนและเพื่อใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของบุตรหนี้สินทั้งหมดจึงเกิดจากการนำมาใช้จ่ายในครอบครัวระหว่างสามี ภริยาและบุตร การกระทำของภริยาไม่ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอันจะเป็นเหตุให้สามีฟ้องหย่าได้ 

การที่จำเลยหึงหวงและโกรธที่โจทก์หนีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นจึงด่าโจทก์และบุพการีว่ามึงมันเลวเหมือนโคตรมึงนั้นไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์หรือบุพการีของโจทก์เป็นการร้ายแรง

 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5161/2538 

 จำเลยกู้ยืมเงินคนอื่นเพื่อใช้จ่ายในคดีที่โจทก์ถูกจับฐานพกอาวุธปืนและเพื่อใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของบุตรหนี้สินทั้งหมดจึงเกิดจากการนำมาใช้จ่ายในครอบครัวระหว่างโจทก์จำเลยและบุตรมิใช่เกิดขึ้นเพราะจำเลยนำไปเล่นสลากกินรวบดังที่โจทก์อ้างการกระทำของจำเลยไม่ถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอันจะเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(2) การที่จำเลยหึงหวงและโกรธที่โจทก์หนีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นจึงด่าโจทก์และบุพการีว่ามึงมันเลวเหมือนโคตรมึงนั้นไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์หรือบุพการีของโจทก์เป็นการร้ายแรงเพราะเป็นเพียงถ้อยคำที่จำเลยกล่าวด้วยความน้อยใจการกระทำของจำเลยต่อโจทก์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะโจทก์เป็นผู้ก่อขึ้นถือว่าเป็นเรื่องกระทบกระทั่งกันระหว่างสามีภริยาทั่วไปไม่ร้ายแรงถึงกับเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(3) หลังจากทำทัณฑ์บนแล้วโจทก์ยังมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นจำเลยจึงดุด่าและทำร้ายโจทก์อีกการกระทำของจำเลยมีสาเหตุจากการกระทำของโจทก์จึงยังไม่ถือว่าเป็นการประพฤติผิดทัณฑ์บนที่ให้ไว้อันจะเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(8)

 

เหตุฟ้องหย่า ประพฤติชั่ว หมิ่นประมาท คู่สมรส บุพการี

 

 

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่าโจทก์ จดทะเบียนสมรสกับจำเลยมีบุตร 1 คน เมื่อต้นปี 2534 จำเลยเริ่มประพฤติตนไม่สมควรโดยกู้เงินบุคคลอื่นหลายราย รวมเป็นเงิน 160,000 บาทแล้วไม่ชำระเจ้าหนี้ดังกล่าวทวงถามจากโจทก์ โจทก์ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงต้องใช้หนี้ทั้งหมดแทนจำเลย นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2535จำเลยได้ฉีกทำลายเสื้อผ้าของโจทก์ใช้ข้าวของขว้างปาทำร้ายโจทก์กับหมิ่นประมาทโจทก์ และบุพการีของโจทก์ โจทก์ทนอยู่กินกับจำเลยไม่ได้ต้องไปอาศัยอยู่กับเพื่อน จำเลยก็ใส่ความว่า โจทก์ไปติดพันหญิงอื่น ครั้นโจทก์กลับบ้านจำเลยก็อาละวาด ด่าทอและใช้มีดขู่บังคับมิให้โจทก์ออกจากบ้าน โจทก์จึงไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2535 จำเลยได้ทำทัณฑ์บนต่อโจทก์ว่าจะไม่ประพฤติเช่นนั้นอีก แต่จำเลยก็ประพฤติผิดทัณฑ์บน ขอให้พิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์ หากไม่ไปก็ขอให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน

จำเลยให้การว่าเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2522 โจทก์ถูกจับกุมเรื่องมีอาวุธปืนและอ้างว่า ต้องเสียค่าใช้จ่าย 50,000 บาท ให้จำเลยหาเงินให้ด้วย จำเลยต้องไปกู้เงินจากบุคคลอื่น เสียดอกเบี้ยในอัตราสูงเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว แต่โจทก์กลับเที่ยวเตร่ดื่มสุรา จำเลยต้องรับภาระอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาบุตรแต่เพียงผู้เดียว จึงต้องกู้เงินเพิ่มรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 160,000 บาท  ครั้นประมาณเดือน มกราคม 2535 โจทก์ไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับ นางสาวอารีย์ เมื่อจำเลยทราบและห้ามปราม โจทก์ก็แสดงกิริยาเกรี้ยวกราดและไม่ยอมกลับบ้าน จำเลยไม่เคยทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจโจทก์ , ไม่เคยหมิ่นประมาทโจทก์และบุพการีของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกา วินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์จดทะเบียนสมรสกับ จำเลย เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2514   ตามใบสำคัญการสมรส เอกสารหมาย จ. 1 มี บุตรด้วยกัน 1 คน คือนางสาว ญ. ซึ่ง ขณะฟ้องมี อายุ 21 ปี โจทก์ รับราชการเป็นลูกจ้างประจำโครงการก่อสร้างทางชลประทาน ที่ 2 อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี จำเลยรับราชการครู ที่จังหวัดชัยนาท ต่อมาโจทก์และจำเลยมีเรื่องทะเลาะกันและทำร้ายร่างกายกัน

ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีว่า การกระทำของจำเลยถือเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้แล้วหรือไม่ โจทก์ฎีกาในข้อแรกว่าจำเลยประพฤติชั่ว โดยจำเลยกู้ยืมเงินคนอื่นหลาย คน เป็นจำนวนมาก รวมแล้วประมาณ 160,000 บาท โดยกู้มาเล่นสลากกินรวบแล้วไม่ชำระให้ จนผู้ให้กู้มาทวงจากโจทก์และโจทก์ต้องชำระแทนไปทำให้โจทก์ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงถูกดูถูก เกลียดชัง และได้รับความเดือดร้อน เห็นว่าเหตุที่ จำเลยไปกู้เงินคนอื่นมา เช่น ตามหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน เอกสารหมาย จ. 2 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2533 หมาย จ. 5   เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2534  และ หมาย จ. 7   เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2531 รวม 160,000 บาท นั้นล้วนแต่เป็นการกู้ยืม หลังจากวันที่ 10 ตุลาคม 2522 ซึ่งโจทก์มีหนังสือถึงจำเลยตามเอกสาร หมาย ล. 1 ที่ โจทก์ถูกจับฐานพกอาวุธปืนและ ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับ 2,000 บาท โดยในเอกสาร หมาย ล. 1   โจทก์ให้ จำเลยช่วยเรื่องการประกันตัวนั้น  จึงน่าเชื่อว่า จำเลยได้ไปกู้ยืมเงินคนอื่นมาเพื่อใช้จ่ายในคดีนี้ ซึ่งจำเลยได้เบิกความประกอบเอกสารหมาย ล. 1 ว่า จำเลยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้น จำนวน 58,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ได้ยืมคนอื่น 30,000 บาท ทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยมาและต่อมาโจทก์ได้ให้จำเลยลงชื่อในหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน เอกสารหมาย จ. 2, จ. 5 และ จ. 7 ไว้  นอกจากนั้นเมื่อ นางสาว ญ. เริ่มเรียนหนังสือสูงขึ้นก็มีค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนสูงขึ้น จำเลยคงได้กู้ยืมเงินคนอื่นมาใช้จ่ายสำหรับการศึกษา ของนางสาว ญ. ด้วย ดังที่จำเลยได้ระบายความในใจให้ นายคนึง นาคเถื่อน ฟังในจดหมายเอกสารหมาย จ. 4  ลงวันที่ 30 เมษายน 2534 ว่าได้กู้เงินมาเพื่อให้บุตรเรียนหนังสือ และมีแต่จำเลยเป็นฝ่ายให้สามี  จำเลยไม่เคยได้รับอะไรจากสามี และในจดหมายเอกสาร หมาย จ. 8  ก็ระบุกู้ยืมเงินมาเพื่อการศึกษาของบุตรเป็นต้น หนี้สินทั้งหมดจึงเกิดจากการนำมาใช้จ่ายในครอบครัวระหว่างโจทก์ จำเลย และบุตร มิใช่เกิดขึ้นเพราะจำเลยนำไปเล่นสลากกินรวบดังที่โจทก์กล่าวอ้าง การกระทำของจำเลยยังไม่ถือว่าเป็นการประพฤติชั่ว(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2531)

โจทก์ฎีกาในข้อที่ 2 ว่า จำเลยดุด่าเหยียดหยามหมิ่นประมาทโจทก์ และบุพการีของโจทก์ และจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์อย่างร้ายแรงโดยจำเลยฉีกเสื้อผ้าโจทก์  ด่าว่าโจทก์ และหมิ่นประมาทโจทก์และผู้บุพการีของโจทก์ต่อหน้าบุคคลอื่น ๆ และใช้กรรไกรทำร้ายโจทก์จนโจทก์ต้องหนีไปอยู่กับเพื่อนแล้วไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจไว้ตาม เอกสาร หมาย จ. 15  ถึง จ. 17   เห็นว่าที่จำเลยกระทำต่อโจทก์เช่นนั้นก็เพราะจำเลยหึงหวงและโกรธที่โจทก์หนีไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่น ดังปรากฏอยู่ใน เอกสาร หมาย ล. 2 และ ล. 3 นั้นซึ่งนางสาว ญ.ได้เบิกความว่าจำเลยโกรธโจทก์ เพราะโจทก์ไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหญิงอื่นและที่โจทก์อ้างว่าจำเลยด่าโจทก์และ บุพการีว่ามึงมันเลวเหมือนโคตรมึง โจทก์ก็ยอมรับว่า จำเลยด่าโจทก์เพราะหาว่าโจทก์ไปติดพันนางสาวอารีย์ หากถ้อยคำดังกล่าวเป็นความจริงก็ไม่เป็นการหมิ่นประมาท โจทก์ หรือบุพการีของโจทก์เป็นการร้ายแรง เพราะเป็นเพียงถ้อยคำที่จำเลยกล่าวด้วยความน้อยใจการกระทำของจำเลยต่อโจทก์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะฝ่ายโจทก์เป็นผู้ก่อขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องกระทบกระทั่งกันระหว่างสามีภริยาทั่วไป ไม่ร้ายแรงถึงกับเป็นเหตุฟ้องหย่าได้

โจทก์ฎีกาในข้อสุดท้ายว่าจำเลยประพฤติผิดทัณฑ์บน เรื่องความประพฤติที่ทำให้ไว้ ตามบันทึกการแจ้งความเอกสารหมาย จ. 16 และ จ. 17   โดยหลังจากทำเอกสารหมาย จ. 16 และ จ. 17 แล้ว จำเลยยังทำการด่าทอ และทำร้ายโจทก์อยู่อีก เห็นว่าหลังจากที่มีการทำบันทึกการแจ้งความ ลงวันที่ 25 มีนาคม 2535 และ วันที่ 7 เมษายน 2535  ตามเอกสารหมาย จ. 16 และ จ. 17 ตามลำดับแล้วปรากฏว่า มีบันทึกข้อความในเอกสารหมาย ล. 3  ลงวันที่ 15 เมษายน 2535 ว่าฝ่ายหญิงที่อ้างว่ามีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับโจทก์ จะเลิกประพฤติปฏิบัติไม่มีความสัมพันธ์กับโจทก์อีกโดยเอกสารนี้ โจทก์มิได้คัดค้านว่าไม่จริงอย่างไร จึงแสดงว่าหลังจากทำบันทึก เอกสารหมาย จ. 16 และ จ. 17 แล้ว โจทก์ก็ยังไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับผู้หญิงคนนั้นอยู่อีก จำเลยจึงได้ดุด่า และทำร้ายโจทก์อีก  การกระทำของจำเลยจึงมีสาเหตุมาจากการกระทำของโจทก์อีก เช่นกันการกระทำของจำเลยจึงยังไม่ถือว่าเป็นการประพฤติผิดทัณฑ์บนที่ให้ไว้ ตามบันทึกเอกสาร หมาย จ. 16 และ จ. 17  การกระทำทั้งหมดของจำเลยตามที่โจทก์กล่าวอ้างใน ฎีกา จึงยังไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(2) (3) และ (8) ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น "

พิพากษายืน

เหตุฟ้องหย่า, Grounds of action for divorce, สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว, one spouse is guilty of misconduct




การสิ้นสุดแห่งการสมรส

สรุปเหตุ หย่า “ละทิ้งร้าง > สมัครใจแยกกันอยู่”มาตรา 1516, ป.พ.พ. มาตรา 1516(4/2), article
หย่า ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4) vs (4/2)แยกกันอยู่, ละทิ้งร้าง, สมัครใจแยกกันอยู่, (ฎีกา 2345/2552) article
ฟ้องหย่าเพราะภรรยาแจ้งความสามีไม่ได้ ศาลชี้สิทธิเลี้ยงดูยังมีอยู่(ฎีกา 2109/2567)
หย่าเพราะทรมานร่างกาย-จิตใจ (บังคับร่วมประเวณี)เหตุฟ้องหย่า (ฎีกา 8611/2557)
ฟ้องโมฆะ & หย่า / อายุความ / ค่าเลี้ยงชีพ แยกกันอยู่เกิน 3 ปี, (ฎีกา 10770/2558)
คดีหย่า & ค่าทดแทน, สิทธิฟ้องหย่า, (มาตรา 1518, 1523)(ฎีกา 2473/2556)
หย่า แบ่งสินสมรส, อำนาจปกครองบุตร, & คุ้มครองดอกผล (ฎีกา 10361/2557)
คดีหย่า & อำนาจปกครองบุตร, ค่าอุปการะเลี้ยงดู, (ฎีกา 5535/2558)
โมฆะสมรส & สิทธิอำนาจปกครองบุตร, สิทธิเลี้ยงดูบุตร (ฎีกา 10442/2558)
ความหมายว่า"ค่าอุปการะเลี้ยงดูจนกว่าจะสมรสใหม่และจนกว่าการสมรสสิ้นสุดลง"
คดีหย่า & ฟ้องซ้อนตาม ป.วิ.พ. ม.173, ฟ้องซ้ำ, (ฎีกา 8186/2551)
สิทธิครอบครองที่ดิน & เพิกถอนโฉนดออกโดยมิชอบ (ฎีกา 3169/2564)
ฟ้องหญิงอื่นเรียกค่าทดแทน (มาตรา 1523) (ฎีกา 4818/2551)
คดีหย่า & สิทธิฟ้องหย่า, อายุความคดีหย่า (การยินยอมและให้อภัย) (ฎีกา 3190/2549)
ค่าเลี้ยงดูบุตร & เพิกถอนโอนบ้าน, สัญญาหย่า, พินัยกรรม, (ฎีกา 6926/2560)
ฟ้องหย่า สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี, (ฎีกา, 2520/2549),
การหย่าโมฆะ & สิทธิในมรดกที่ดินพิพาท
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นเรื่องชู้สาว (ฎีกา 4261/2560)
กฎหมายฟ้องชู้ฉบับใหม่ 2568: สิทธิของคู่สมรสทุกเพศในการเรียกค่าทดแทนและฟ้องหย่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5259 - 5260/2561 : การรับฟังพยานบันทึกเสียง, สิทธิฟ้องหย่า, ค่าทดแทนชู้ และอำนาจปกครองบุตร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562 เรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง
สมัครใจแยกกันอยู่, จงใจละทิ้งร้าง, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากสามีและหญิงอื่น เหตุชู้สาวต่อเนื่องไม่ขาดอายุความ
การหย่าโดยสมยอมเพื่อฉ้อโกงเจ้าหนี้ – วิเคราะห์กฎหมายครอบครัวและสิทธิของเจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2548 สิทธิภริยาชอบด้วยกฎหมายเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523
สิทธิฟ้องหย่าและอำนาจปกครองบุตร: ศาลฎีกาวินิจฉัยกรณีสามีขับไล่ภริยา – คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4104/2564
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2567: การเปลี่ยนแปลงผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรและการปรับค่าเลี้ยงดูตามสถานการณ์ใหม่
แบ่งสินสมรส, สินสมรสที่เป็นเงินตรา, แบ่งสินสมรสหลังหย่า สิทธิและหน้าที่, สินส่วนตัวกับสินสมรส
คดีฟ้องหย่าและการแบ่งทรัพย์สิน, สิทธิการเรียกค่าเลี้ยงดูของโจทก์, การชำระค่าทดแทนในคดีแพ่ง, การบังคับคดีและสิทธิทายาทในมรดก
ข้อตกลงแบ่งค่าเช่าที่ดินในสัญญาหย่า
ฟ้องหย่าคู่สมรสวิกลจริต, คนไร้ความสามารถกับการหย่า, แบ่งทรัพย์สินหลังหย่าในกรณีคนวิกลจริต
การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
การหย่าโดยความยินยอมต้องทำอย่างไร?, หนังสือหย่า
สามีภริยาจะต้องมีการร่วมประเวณีกันบ้างแต่ต้องเกิดจากความยินยอม
ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์
ไม่เกิดสิทธิฟ้องหย่าเพราะโจทก์มีพฤติกรรมนอกใจจำเลยยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปี เหตุฟ้องหย่า
การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง
อายุความฟ้องหย่า, บันทึกข้อตกลงหย่า, หลักกฎหมายมาตรา 1515,
สิทธิฟ้องค่าอุปการะเลี้ยงดูอันจะอยู่ในอายุความ 5 ปี , หน้าที่บิดามารดาในการเลี้ยงดูบุตร
การฟ้องหย่าด้วยเหตุหมิ่นประมาท, สิทธิการฟ้องหย่าหมดอายุความ
นำตำรวจจับกุมภริยา หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง
จงใจละทิ้งร้างภริยาไปเกินหนึ่งปีฟ้องหย่าได้, สามีภริยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
การจงใจทิ้งร้างไปเกินกว่า 1 ปีต้องในลักษณะที่ไม่หวนกลับไปหาคู่สมรสอีก
ไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร
สิทธิฟ้องหย่าระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีเว้นแต่เหตุฟ้องเกิดขึ้นต่อเนื่อง
เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ สิทธิเรียกร้องกำหนดอายุความ 5 ปี
เหตุฟ้องหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า
สามีฟ้องหย่า,จงใจละทิ้งร้าง,เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ, อุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นเป็นภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี ต้องเพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุขด้วย
แยกกันอยู่เพราะสามีรับราชการที่อื่น, ไม่ถือว่าเป็นการแยกกันอยู่โดยความสมัครใจ
ทะเลาะกันและทำร้ายร่างกายยังไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า
แยกกันอยู่เพราะสามียกย่องหญิงอื่น, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
ฟ้องหย่าจงใจละทิ้งร้างเรียกสินสอดทองหมั้นคืน
รู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่าจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้
พี่น้องของผู้ตายขอเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสซ้อนไม่ได้
อำนาจฟ้องขอเพิกถอนการสมรสเพราะสำคัญผิดตัว
ศาลมีอำนาจกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้
ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก-ได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปี ฟ้องหย่าได้
สิทธิฟ้องหย่าระงับเมื่ออีกฝ่ายให้อภัยแล้ว
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะติดต่อกับบุตรของตนได้ตามสมควรแล้วแต่พฤติการณ์
ไม่อาจร่วมประเวณีได้ ต้องการฟ้องหย่า
แยกกันอยู่หรือจงใจละทิ้งร้าง? -อยู่บ้านเดียวกันแต่ก็มีลักษณะแบบต่างคนต่างอยู่
กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง
ไม่ถือว่าจำเลยประพฤติชั่วทำให้โจทก์อับอายถูกเกลียดชังจนเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะเรียกค่าทดแทนชู้สาวนั้นต้องแสดงตนโดยเปิดเผย
เหตุแห่งการฟ้องหย่าทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลงขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพได้
ฟ้องซ้ำ ค่าอุปการะเลี้ยงดู หนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนด
การแบ่งสินสมรสและกรรมสิทธิ์รวม
หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามสามีหรือบุพการี
สัญญาระหว่างสมรสให้ทรัพย์สินของสามีตกเป็นของภริยาห้ามบอกล้าง
ขอเพิกถอนทะเบียนสมรสซ้อน สมรสซ้อนโดยไม่สุจริต
ทะเบียนสมรส ลงชื่อฝ่ายชายคนเดียว, เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรม
ฟ้องหย่าอ้างเหตุสมัครใจแยกกันอยู่
ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้, ศาลปรับหนึ่งพันไม่เป็นการร้ายแรง
ฟ้องหย่าอ้างว่าจำเลยดูหมิ่นโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง
การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นการประพฤติชั่วอันเป็นเหตุฟ้องหย่า
โจทก์ได้ให้อภัยจำเลยเรื่องทำร้ายร่างกายแล้วถือได้ว่าสิทธิฟ้องหย่าในข้อนี้ย่อมหมดไป
ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน, การทำร้ายคู่สมรส
เหตุฟ้องหย่า เหตุที่ไม่อาจอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ มีอะไรบ้าง
ความสมบูรณ์ของการสมรส, ฟ้องให้การสมรสเป็นโมฆะ
การละเมิดเกิดขึ้นต่อเนื่องอายุความจึงยังไม่เริ่มนับคดีไม่ขาดอายุความ
การฟ้องหย่าและหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามี ไม่ฟ้องหย่า
ฟ้องหย่าอ้างสิทธิที่จะเลือกคู่ครองตามรัฐธรรมนูญ
รู้ว่าสามีไปมีหญิงอื่นเกินหนึ่งปีก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้,อายุความ
ฟ้องหย่าได้ที่ศาลใด article
การหย่าโดยคำพิพากษาจะมีผลต่อเมื่อเวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุด article
หนังสือร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเรื่องความสัมพันธ์กับหญิงอื่น article