
ฟ้องหย่า สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี, (ฎีกา, 2520/2549), ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์ บทนำ คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคดีฟ้องหย่าระหว่างสามีภริยา โดยศาลวินิจฉัยว่าการที่คู่สมรสทั้งสองฝ่ายต่างแยกกันอยู่และมีคู่ครองใหม่ รวมเวลายาวนานถึง 25 ปี ถือเป็นการสมัครใจแยกกันอยู่เพราะไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขเกินสามปี ซึ่งเข้าข่ายเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4/2)
ข้อเท็จจริงของคดี • โจทก์และจำเลยจดทะเบียนสมรสกันเมื่อปี 2508 มีบุตรด้วยกัน 3 คน • ปี 2517 โจทก์แยกออกจากบ้านไปอยู่กินกับหญิงอื่นและมีบุตรด้วยกัน • ปี 2519 จำเลยก็มีความสัมพันธ์กับชายอื่นและมีบุตร 1 คน • ทั้งสองฝ่ายไม่ได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกเลย รวมเวลานับถึงวันฟ้องคดีมากกว่า 25 ปี • โจทก์ฟ้องหย่าโดยอ้างเหตุว่า ทั้งสองสมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีตามมาตรา 1516 (4/2)
ประเด็นข้อกฎหมาย • การที่ฝ่ายหนึ่งทิ้งร้างไปมีครอบครัวใหม่ และอีกฝ่ายก็มีคู่ครองใหม่เอง จะถือว่าเป็น “สมัครใจแยกกันอยู่” หรือไม่ • การใช้เหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4/2) ว่าด้วยการสมัครใจแยกกันอยู่เพราะไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี
คำวินิจฉัยของศาลฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายละทิ้งจำเลยไปก่อน แต่จำเลยก็มีความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นและไม่ประสงค์จะกลับมาอยู่ร่วมกัน ขณะเดียวกันทั้งสองต่างอยู่แยกกันเป็นเวลายาวนานถึง 25 ปี ถือเป็นการสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขเกินสามปี อันเป็นเหตุหย่าตามกฎหมาย ศาลจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน
วิเคราะห์ทางกฎหมาย 1. การตีความ “สมัครใจแยกกันอยู่” ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีคู่ครองใหม่และอยู่ห่างกันยาวนาน ไม่ได้แสดงเจตนาจะกลับไปใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 2. การใช้มาตรา 1516 (4/2) กฎหมายบัญญัติว่า หากสามีภริยาแยกกันอยู่โดยสมัครใจเกิน 3 ปี สามารถฟ้องหย่าได้ ในกรณีนี้มีการแยกกันอยู่เกิน 25 ปี ถือว่าครบองค์ประกอบตามกฎหมาย 3. หลักการคุ้มครองความมั่นคงในชีวิตสมรส กฎหมายครอบครัวไทยมุ่งเน้นการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข หากคู่สมรสไม่สามารถดำรงชีวิตเช่นนั้นได้ กฎหมายเปิดทางให้หย่าเพื่อยุติภาวะที่ไม่เป็นจริง
IRAC Analysis Issue (ประเด็น): คู่สมรสที่แยกกันอยู่เป็นเวลานาน และต่างฝ่ายต่างมีคู่ครองใหม่ จะถือว่าเป็นการ “สมัครใจแยกกันอยู่” อันเป็นเหตุหย่าตามมาตรา 1516 (4/2) หรือไม่ Rule (หลักกฎหมาย): ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4/2) กำหนดว่า หากสามีภริยาแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันโดยปกติสุขและมีการแยกเกินสามปี ถือเป็นเหตุหย่าได้ Application (การประยุกต์ใช้): แม้โจทก์จะเป็นฝ่ายละทิ้งไปก่อน แต่จำเลยก็มีความสัมพันธ์กับผู้อื่นและไม่ได้พยายามกลับมาอยู่ร่วมกัน พฤติการณ์ทั้งสองฝ่ายยืนยันว่าไม่ประสงค์จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอีก ทั้งยังมีระยะเวลาการแยกกันอยู่ถึง 25 ปี ซึ่งเกินเงื่อนไขทางกฎหมาย Conclusion (ข้อสรุป): การแยกกันอยู่ดังกล่าวถือเป็นการ “สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปี” ศาลจึงพิพากษาให้หย่าขาดจากกัน
สรุปข้อคิดทางกฎหมาย • เหตุหย่าตามมาตรา 1516 (4/2) เน้นพฤติการณ์ของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่เพียงใครเป็นฝ่ายละทิ้งก่อน • หากคู่สมรสต่างฝ่ายต่างไม่ประสงค์จะกลับมาอยู่ร่วมกัน และเวลาผ่านไปเกิน 3 ปี ศาลถือว่าเป็นเหตุหย่าที่สมบูรณ์ • แนววินิจฉัยนี้สะท้อนหลักการว่ากฎหมายให้ความสำคัญกับ “ความเป็นจริงของชีวิตสมรส” มากกว่าการกล่าวโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
English Summary The Supreme Court Decision No. 2520/2006 concerns a divorce case. The Court ruled that when spouses had been living apart for over 25 years, both having new partners, it constituted “voluntary separation” under Section 1516 (4/2) of the Civil and Commercial Code. Therefore, the husband’s divorce claim was valid. สรุปคำแปลภาษาอังกฤษ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2549 เกี่ยวข้องกับคดีฟ้องหย่า ศาลวินิจฉัยว่าเมื่อคู่สมรสได้แยกกันอยู่นานกว่า 25 ปี และต่างฝ่ายต่างมีคู่ครองใหม่ ถือได้ว่าเป็น “การสมัครใจแยกกันอยู่” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4/2) ดังนั้น คำฟ้องหย่าของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย 🔹 15 คำศัพท์กฎหมายที่น่าสนใจ 1. divorce – การหย่า 2. case – คดี 3. Court – ศาล 4. ruled – มีคำวินิจฉัย / พิพากษา 5. spouses – คู่สมรส 6. living apart – แยกกันอยู่ 7. over 25 years – เกิน 25 ปี (ระยะเวลาทางกฎหมาย) 8. partners – คู่ครอง / ผู้ที่อยู่กินฉันสามีภริยา 9. constituted – ถือเป็น / ก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย 10. voluntary – โดยสมัครใจ 11. separation – การแยกกันอยู่ 12. under Section – ตามมาตรา (ของกฎหมาย) 13. Civil and Commercial Code – ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 14. claim – คำฟ้อง / สิทธิเรียกร้อง 15. valid – ชอบด้วยกฎหมาย / ใช้บังคับได้ คำศัพท์กฎหมายพร้อมความหมายภาษาอังกฤษ 1. divorce meaning – legal end of a marriage 2. case meaning – a legal dispute in court 3. Court meaning – place where legal cases are decided 4. ruled meaning – officially decided by a judge 5. spouses meaning – husband and wife in law 6. living apart meaning – not living together as a couple 7. over 25 years meaning – more than twenty-five years in time 8. partners meaning – people in a close relationship 9. constituted meaning – formed or considered as 10. voluntary meaning – done by free choice 11. separation meaning – living apart from one another 12. under Section meaning – according to a legal provision 13. Civil and Commercial Code meaning – main Thai law on family and contracts 14. claim meaning – a demand or request in law
15. valid meaning – legally acceptable or effective ตัวอย่างการใช้ 15 คำศัพท์กฎหมายในประโยค 1. divorce – การหย่า The couple decided to file for divorce after many years of conflict. They had tried counseling, but nothing worked. • Literal: คู่สามีภริยาตัดสินใจยื่นฟ้องหย่าหลังจากมีความขัดแย้งกันมาหลายปี พวกเขาเคยลองการปรึกษาครอบครัวแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ • Natural: สามีภรรยาตัดสินใจหย่ากัน เพราะทะเลาะกันมาตลอดหลายปี เคยไปหานักปรึกษาครอบครัวแล้วก็ไม่ช่วยอะไรเลย
2. case – คดี This case was brought before the judge last month. It had been delayed for several years. • Literal: คดีนี้ถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของผู้พิพากษาเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนหน้านั้นถูกเลื่อนมาหลายปี • Natural: คดีนี้เพิ่งขึ้นศาลเมื่อเดือนก่อน ก่อนหน้านี้เลื่อนมาหลายปีแล้ว
3. Court – ศาล The Court listened carefully to both sides. Each lawyer presented strong arguments. • Literal: ศาลรับฟังทั้งสองฝ่ายอย่างตั้งใจ ทนายแต่ละฝ่ายต่างยกเหตุผลที่หนักแน่นมานำเสนอ • Natural: ศาลฟังสองฝ่ายอย่างละเอียด ทนายแต่ละคนก็สู้คดีเต็มที่
4. ruled – มีคำวินิจฉัย / พิพากษา The judge ruled that the contract was invalid. This decision surprised many people in the courtroom. • Literal: ผู้พิพากษามีคำวินิจฉัยว่าสัญญานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำวินิจฉัยนี้ทำให้หลายคนในห้องพิจารณาประหลาดใจ • Natural: ศาลตัดสินว่าสัญญานี้เป็นโมฆะ หลายคนในห้องถึงกับงงไปเลย
5. spouses – คู่สมรส The law gives equal rights to both spouses. This means each has the same power in family matters. • Literal: กฎหมายให้สิทธิเท่าเทียมแก่คู่สมรสทั้งสองฝ่าย ซึ่งหมายความว่าทั้งคู่มีอำนาจเท่ากันในเรื่องครอบครัว • Natural: กฎหมายให้สิทธิเท่ากันทั้งผัวและเมีย ตัดสินเรื่องครอบครัวต้องเสมอภาคกัน
6. living apart – แยกกันอยู่ The couple had been living apart for more than five years. They rarely even spoke to each other. • Literal: คู่สามีภริยาได้แยกกันอยู่นานกว่าห้าปีแล้ว พวกเขาแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย • Natural: ผัวเมียคู่นี้อยู่แยกกันเกินห้าปี แทบไม่คุยกันด้วยซ้ำ
7. over 25 years – เกิน 25 ปี They had lived apart for over 25 years before filing for divorce. Their children were already grown and had families of their own. • Literal: พวกเขาแยกกันอยู่นานเกิน 25 ปีก่อนจะยื่นฟ้องหย่า บุตรของพวกเขาก็โตหมดและมีครอบครัวของตัวเองแล้ว • Natural: อยู่ห่างกันเกิน 25 ปีก่อนจะหย่า ลูก ๆ โตหมดจนมีครอบครัวเองแล้ว
8. partners – คู่ครอง Both of them had new partners during the separation. They lived separate lives happily. • Literal: ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีคู่ครองใหม่ในช่วงที่แยกกันอยู่ พวกเขาต่างใช้ชีวิตแยกกันอย่างมีความสุข • Natural: ทั้งคู่มีแฟนใหม่กันหมดตอนแยกกัน ต่างคนต่างก็อยู่ของตัวเองสบายใจ
9. constituted – ถือเป็น / ก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย Their long separation constituted grounds for divorce. The court relied on the Civil and Commercial Code. • Literal: การแยกกันอยู่นานของพวกเขาถือเป็นเหตุหย่า ศาลอ้างอิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ • Natural: การอยู่ห่างกันนาน ๆ นี่เองกลายเป็นเหตุหย่า ศาลใช้กฎหมายแพ่งพาณิชย์เป็นหลัก
10. voluntary – โดยสมัครใจ The spouses had been separated voluntarily. Neither of them tried to reconcile. • Literal: คู่สมรสได้แยกกันอยู่โดยสมัครใจ ไม่มีฝ่ายใดพยายามกลับมาคืนดี • Natural: ผัวเมียยอมแยกกันอยู่เอง ไม่มีใครคิดจะกลับมาคืนดีเลย
11. separation – การแยกกันอยู่ The separation lasted more than two decades. Their families had accepted the situation. • Literal: การแยกกันอยู่กินนั้นยาวนานกว่าสองทศวรรษ ครอบครัวของพวกเขาก็ยอมรับสภาพดังกล่าว • Natural: การอยู่แยกกันกินเวลาสองสิบกว่าปี ญาติ ๆ ก็ยอมรับไปตามนั้น
12. under Section – ตามมาตรา The claim was filed under Section 1516 of the law. This section deals with grounds for divorce. • Literal: คำฟ้องถูกยื่นตามมาตรา 1516 ของกฎหมาย มาตรานี้ว่าด้วยเหตุแห่งการหย่า • Natural: ฟ้องตามกฎหมายมาตรา 1516 เป็นมาตราที่พูดถึงเหตุหย่านั่นเอง
13. Civil and Commercial Code – ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ The judge cited the Civil and Commercial Code in his decision. It is the main law governing family matters in Thailand. • Literal: ผู้พิพากษาอ้างถึงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในการวินิจฉัย ซึ่งเป็นกฎหมายหลักที่ใช้ควบคุมเรื่องครอบครัวในประเทศไทย • Natural: ศาลอ้างประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ตอนตัดสิน นี่คือกฎหมายหลักเรื่องครอบครัวของไทย
14. claim – คำฟ้อง / สิทธิเรียกร้อง The husband’s claim was accepted by the court. He had clear legal grounds. • Literal: คำฟ้องของสามีได้รับการยอมรับโดยศาล เขามีเหตุทางกฎหมายที่ชัดเจน • Natural: ศาลรับฟ้องที่สามียื่น เพราะมีเหตุทางกฎหมายชัดเจน
15. valid – ชอบด้วยกฎหมาย / ใช้บังคับได้ The court confirmed the divorce claim was valid. This gave the husband the right to end the marriage. • Literal: ศาลยืนยันว่าคำฟ้องหย่าชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งทำให้สามีมีสิทธิยุติการสมรสได้ • Natural: ศาลบอกว่าฟ้องหย่านี้ใช้ได้จริง ทำให้สามีมีสิทธิเลิกการแต่งงาน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2549 แม้ในปี 2517 โจทก์เป็นฝ่ายละทิ้งร้างจำเลยโดยออกจากบ้านที่โจทก์จำเลยเคยอยู่กินด้วยกันไปอยู่กินฉันสามีภริยากับนาง ม. ก็ตาม แต่ในปี 2519 จำเลยก็มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนาย ส. จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยากับโจทก์อีกต่อไปเช่นเดียวกัน และระหว่างที่แยกกันอยู่ไม่ปรากฏว่าโจทก์กลับไปอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยอีก ฝ่ายจำเลยซึ่งทราบดีว่าโจทก์พักอาศัยอยู่ที่ใดก็มิได้สนใจหรือหาทางที่จะอยู่ร่วมกับโจทก์ฉันสามีภริยาต่อไป พฤติการณ์ของโจทก์จำเลยที่ต่างคนต่างอยู่เป็นเวลานานถึง 25 ปีนั้น ถือได้ว่าโจทก์และจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี อันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4/2) โจทก์จึงฟ้องหย่าจำเลยได้ สามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีคนใหม่ยังไม่จดทะเบียนหย่า, สมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้เกินสามปี
สามีภริยาจดทะเบียนสมรสมีบุตรด้วยกัน 3 คน สามีทิ้งร้างไปมีภรรยาคนใหม่ อีก 2 ปีภริยาก็ไปมีสามีใหม่และมีบุตรด้วยกัน 1 คน สามีภริยาทั้งสองต่างคนต่างอยู่นับถึงวันฟ้องคดีเป็นเวลา 25 ปี สามีฟ้องศาลขอให้หย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน อ้างเหตุสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้ ภริยาต่อสู้ว่าการที่สามีทิ้งร้างไปมีภรรยาใหม่สามารถอ้างเหตุสมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีได้หรือไม่? ศาลฎีกาบอกว่าการที่ภริยาทราบว่าสามีพักอยู่ที่ไหนแต่ไม่สนใจหาทางกลับไปอยู่ร่วมกันแสดงว่าภริยาก็ไม่ประสงค์ที่จะอยู่กินฉันสามีภริยากันอีกจึงถือว่าสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2549 แม้ในปี 2517 โจทก์เป็นฝ่ายละทิ้งร้างจำเลยโดยออกจากบ้านที่โจทก์จำเลยเคยอยู่กินด้วยกันไปอยู่กินฉันสามีภริยากับนาง ม. ก็ตาม แต่ในปี 2519 จำเลยก็มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนาย ส. จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยากับโจทก์อีกต่อไปเช่นเดียวกัน และระหว่างที่แยกกันอยู่ไม่ปรากฏว่าโจทก์กลับไปอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยอีก ฝ่ายจำเลยซึ่งทราบดีว่าโจทก์พักอาศัยอยู่ที่ใดก็มิได้สนใจหรือหาทางที่จะอยู่ร่วมกับโจทก์ฉันสามีภริยาต่อไป พฤติการณ์ของโจทก์จำเลยที่ต่างคนต่างอยู่เป็นเวลานานถึง 25 ปีนั้น ถือได้ว่าโจทก์และจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี อันเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4/2) โจทก์จึงฟ้องหย่าจำเลยได้ โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน หากจำเลยไม่ไปจดทะเบียนการหย่าให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากัน คำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย จดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2508 ตามสำเนาทะเบียนการสมรสเอกสารหมาย จ.1 เดิมอยู่กินด้วยกันที่บ้านเลขที่ 58 หมู่ที่ 1 ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน ประมาณปี 2517 โจทก์แยกออกจากบ้านไปอยู่กินฉันสามีภริยากับนางมณีไม่ทราบชื่อสกุลจนมีบุตรด้วยกัน 3 คน ต่อมาปี 2519 จำเลยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายสุรพันธ์ และมีบุตรด้วยกัน 1 คน โจทก์และจำเลยต่างคนต่างอยู่นับถึงวันฟ้องเป็นเวลานาน 25 ปีแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงประการเดียวว่า กรณีมีเหตุหย่าเนื่องจากโจทก์จำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปีหรือไม่ เห็นว่า แม้ในปี 2517 โจทก์เป็นฝ่ายละทิ้งร้างจำเลยโดยออกจากบ้านที่โจทก์จำเลยเคยอยู่กินด้วยกันไปอยู่กินฉันสามีภริยากับนางมณีก็ตาม แต่ในปี 2519 จำเลยก็มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายสุรพันธ์จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะอยู่กินฉันสามีภริยากับโจทก์อีกต่อไปเช่นเดียวกัน และระหว่างที่แยกกันอยู่ ไม่ปรากฏว่าโจทก์กลับไปอยู่กินฉันสามีภริยากับจำเลยอีก ฝ่ายจำเลยซึ่งทราบดีว่าโจทก์พักอาศัยอยู่ที่ใดก็มิได้สนใจหรือหาทางที่จะอยู่ร่วมกับโจทก์ฉันสามีภริยาต่อไป พฤติการณ์ของโจทก์จำเลยที่ต่างคนต่างอยู่เป็นเวลานานถึง 25 ปีนั้นถือได้ว่า โจทก์และจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี อันเป็นเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (4/2) โจทก์จึงฟ้องหย่าจำเลยได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืน
|