สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้, ศาลปรับหนึ่งพันไม่เป็นการร้ายแรง
-ปรึกษาทนายความ (นายลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ) โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ ID line : (1) @leenont หรือ (2) @peesirilaw (3) 0859604258 เพิ่มเพื่อนด้วยหมายเลขโทรศัพท์
-Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE
ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้ สามีหรือภริยาทำร้ายหรือทรมานร่างกายหรือจิตใจหรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรงอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ แต่การที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4402/2539 การที่ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงจึง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) จำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลย1,000บาทโจทก์มิได้นำแพทย์ผู้ตรวจบาดแผลมาเบิกความว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดการที่ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพียง1,000บาทแสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1516(3) โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยจดทะเบียนสมรสถูกต้องตาม กฎหมาย เมื่อประมาณ ปี 2535 จำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ไปอยู่ที่อื่นจำเลยไม่เคยให้ ความช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์ตามสมควร กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน อย่างร้ายแรงจำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายแก่กาย โจทก์ไม่อาจอยู่ร่วมเป็นสามีภริยากับจำเลยได้ต่อไปขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนหย่ากับโจทก์หากไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาของ จำเลย จำเลย ให้การว่าจำเลยไม่ได้จงใจละทิ้งร้างโจทก์หากแต่โจทก์เป็นผู้ขับไล่จำเลยออกจาก บ้านพัก จำเลยมิได้ใช้ไม้ตีโจทก์บุตรชายของโจทก์ จำเลยเป็นผู้ตีเนื่องจากไม่ชอบ พฤติกรรมของโจทก์ที่มีภริยาใหม่และพาภริยาใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านโจทก์ จำเลยให้การรับสารภาพว่าทำร้ายโจทก์เพื่อไม่ให้บุตรชายเสียประวัติขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้น พิพากษา ให้โจทก์จำเลยหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากันคำขออื่นนอกจาก นี้ให้ยก จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ ฎีกา ศาลฎีกา วินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาในชั้นฎีกาตาม ฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยทำร้ายร่างกาย โจทก์ เป็นการร้ายแรงเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516(3) แล้วหรือไม่ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยทำร้ายโจทก์เพราะความหึงหวงที่โจทก์มีภริยาใหม่แสดงว่าจำเลยยังรักใคร่โจทก์อยู่ส่วนการทำร้ายนั้นได้ความจาก คำพิพากษาศาลแขวงนนทบุรี ว่าจำเลยใช้ไม้ตีทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นเหตุให้ได้รับ อันตรายแก่กาย ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับจำเลย 1,000 บาท โจทก์มิได้ นำแพทย์ ผู้ตรวจ บาดแผลมาเบิกความว่าโจทก์ได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใดการที่ศาลพิพากษาลงโทษ ปรับเพียง 1,000 บาท แสดงว่าบาดแผลที่โจทก์ได้รับไม่เป็นอันตรายร้ายแรงจึง ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์เป็นการร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(3) พิพากษายืน มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้ *ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.0859604258 สำนักงานพีศิริ ทนายความ |