ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ความหมายว่า"ค่าอุปการะเลี้ยงดูจนกว่าจะสมรสใหม่และจนกว่าการสมรสสิ้นสุดลง"

คำพิพากษาศาลฎีกา 6499/2557 คดีหย่าคู่สมรสต่างชาติ ค่าเลี้ยงดู ป.พ.พ. มาตรา 1516 และ 1461 พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย 2481

    ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์

     เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

บทนำ

คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคดีหย่าของคู่สมรสต่างชาติที่จดทะเบียนสมรสในสหราชอาณาจักรและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ประเด็นสำคัญคือศาลไทยมีอำนาจวินิจฉัยหรือไม่เมื่อคู่ความมิใช่คนสัญชาติไทย โดยศาลฎีกาอ้างอิง พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย พ.ศ. 2481 มาตรา 24 ซึ่งกำหนดให้การหย่าขึ้นอยู่กับกฎหมายสัญชาติของคู่สมรส หากกฎหมายประเทศต้นสังกัดอนุญาต ศาลไทยจึงมีอำนาจวินิจฉัย พร้อมทั้งพิจารณาปัญหาค่าเลี้ยงดูที่ศาลล่างกำหนดให้ชำระจนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะสิทธิในการเลี้ยงดูสิ้นสุดเมื่อการสมรรสสิ้นสุดตาม ป.พ.พ. มาตรา 1461 และ 1501 ทำให้คำพิพากษานี้มีความสำคัญต่อแนวปฏิบัติของศาลในคดีครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับคู่สมรสต่างชาติ


ข้อเท็จจริงของคดี

โจทก์เป็นชาวไอร์แลนด์เหนือ จำเลยเป็นชาวสก๊อตแลนด์ จดทะเบียนสมรสในสหราชอาณาจักร

มีบุตรด้วยกัน 3 คน และเข้ามาทำงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537

ความสัมพันธ์สามีภริยามีปัญหาจนจำเลยส่งข้อความที่มีลักษณะเหยียดหยามโจทก์และบุพการี

โจทก์ยื่นฟ้องหย่าในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3)

จำเลยฟ้องแย้งเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูทั้งตนเองและบุตร รวมปีละหลายล้านบาท


คำวินิจฉัยของศาล

1. อำนาจศาลไทย

ศาลฎีกายืนยันว่า แม้คู่ความมิใช่คนไทย แต่ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย มาตรา 24 หากกฎหมายของประเทศต้นสังกัด (ไอร์แลนด์เหนือและสก๊อตแลนด์) อนุญาตให้หย่าได้ ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาคดีหย่า

2. เหตุหย่า

ศาลพิจารณาข้อความที่จำเลยส่งถึงโจทก์ว่าอาจเป็นเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3) ที่บัญญัติถึงการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามอย่างร้ายแรง

3. ค่าเลี้ยงดูคู่สมรส

ศาลฎีกาแก้คำพิพากษาศาลล่างที่ให้โจทก์จ่ายค่าเลี้ยงดูแก่จำเลยจนกว่าจะสมรสใหม่ เห็นว่าต้องจ่ายเพียงจนกว่าสมรสจะสิ้นสุดลงเท่านั้น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1461 วรรคสอง และมาตรา 1501

4. ความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ศาลยกเหตุว่าประเด็นค่าเลี้ยงดูเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน (ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5), 247) จึงแก้คำพิพากษาให้ถูกต้อง


การวิเคราะห์ประเด็นทางกฎหมาย

ขัดกันแห่งกฎหมายระหว่างประเทศ: คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล (Conflict of Laws) ศาลไทยต้องตรวจสอบว่ากฎหมายสัญชาติของคู่สมรสอนุญาตการหย่าหรือไม่ ก่อนใช้อำนาจ

เหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516: ศาลตีความคำว่า “หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง” ให้ครอบคลุมพฤติกรรมทางข้อความสื่อสาร ไม่จำกัดเฉพาะต่อหน้า

สิทธิและหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดู: มาตรา 1461 และ 1501 เน้นว่าหน้าที่นี้สิ้นสุดเมื่อการสมรรสสิ้นสุด การกำหนด “จนกว่าจะสมรสใหม่” ไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติ

ความสงบเรียบร้อย: ศาลฎีกาใช้หลักเรื่อง public order เพื่อแก้ไขคำพิพากษาศาลล่าง โดยถือว่าเรื่องค่าเลี้ยงดูเกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางสังคมและครอบครัว


IRAC Analysis

Issue (ปัญหา):

1. ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาคดีหย่าของคู่สมรสต่างชาติหรือไม่

2. จำเลยส่งข้อความเหยียดหยามเข้าข่ายเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3) หรือไม่

3. ค่าเลี้ยงดูที่โจทก์ต้องจ่ายให้จำเลยควรสิ้นสุดเมื่อใด

Rule (กฎหมายที่ใช้บังคับ):

พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย พ.ศ. 2481 มาตรา 24

ป.พ.พ. มาตรา 1516 (3), มาตรา 1461 วรรคสอง, มาตรา 1501

ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5), มาตรา 247

Application (การปรับใช้กฎหมาย):

เนื่องจากกฎหมายของไอร์แลนด์เหนือและสก๊อตแลนด์อนุญาตให้หย่าได้ ศาลไทยจึงมีอำนาจ

ข้อความที่จำเลยส่งเข้าข่ายการเหยียดหยามซึ่งอาจเป็นเหตุหย่าตามมาตรา 1516 (3)

ค่าเลี้ยงดูต้องสิ้นสุดเมื่อการสมรสสิ้นสุด ไม่ใช่เมื่อจำเลยสมรสใหม่ ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง

Conclusion (ข้อสรุป):

ศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้โจทก์จ่ายค่าเลี้ยงดูแก่จำเลยจนกว่าสมรสจะสิ้นสุดเท่านั้น และยืนยันว่า ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาคดีหย่าของคู่สมรสต่างชาติหากกฎหมายสัญชาติอนุญาต


สรุปข้อคิดทางกฎหมาย

1. ศาลไทยสามารถวินิจฉัยคดีหย่าของคู่สมรสต่างชาติได้ หากกฎหมายสัญชาติของทั้งสองฝ่ายอนุญาต

2. เหตุหย่าตามมาตรา 1516 (3) ครอบคลุมการกระทำที่เป็นการเหยียดหยามร้ายแรง แม้เป็นเพียงข้อความ

3. ค่าอุปการะเลี้ยงดูต้องยึดตามบทบัญญัติของ ป.พ.พ. คือสิ้นสุดเมื่อการสมรสสิ้นสุด ไม่ใช่เมื่อฝ่ายหนึ่งสมรสใหม่

4. หลัก “ความสงบเรียบร้อย” เป็นเหตุให้ศาลฎีกาเข้ามาแก้คำพิพากษาเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและประโยชน์สาธารณะ


คดีหย่าต่างชาติ ศาลฎีกายืนยันไทยมีอำนาจหากกฎหมายสัญชาติอนุญาต เหตุหย่าเป็นการดูหมิ่นร้ายแรงตามมาตรา 1516 (3) ค่าเลี้ยงดูต้องสิ้นสุดเมื่อการสมรสสิ้นสุด ไม่ใช่จนกว่าจะสมรสใหม่

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6499/2557

โจทก์จำเลยมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย พ.ศ.2481 มาตรา 24 บัญญัติว่า "ศาลสยามจะไม่พิพากษาให้หย่ากัน เว้นแต่กฎหมายสัญชาติแห่งสามีภริยาทั้งสองฝ่ายยอมให้กระทำได้ เหตุหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า" เมื่อได้ความว่า กฎหมายสัญชาติของโจทก์และจำเลยอนุญาตให้คู่สมรสหย่าขาดจากกันได้ ศาลไทยจึงมีอำนาจพิจารณาเหตุหย่าตามคำฟ้องของโจทก์ต่อไปว่าเป็นเหตุตามกฎหมายแห่งท้องถิ่นที่ยื่นฟ้อง คือ เหตุหย่าที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือไม่


ค่าอุปการะเลี้ยงดูที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่จำเลยนั้น เมื่อศาลมิได้มีคำพิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน สิทธิหน้าที่ของโจทก์จำเลยที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูกันจะหมดไปเมื่อการสมรสสิ้นสุดตาม ป.พ.พ. มาตรา 1461 วรรคสอง และมาตรา 1501 การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยจนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 247 ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

โจทก์ฟ้องและแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องขอให้พิพากษาให้โจทก์และจำเลยหย่าขาดจากกัน


จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งขอให้โจทก์จ่ายเงินเพื่อการศึกษาและการครองชีพของบุตรผู้เยาว์เป็นรายปี ปีละ 1,500,000 บาท จนกว่าจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพแก่จำเลยเป็นรายปี ปีละ 3,000,000 บาท จนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง


ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยในอัตรา 110,000 บาท ต่อเดือน นับแต่วันฟ้องแย้ง (วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553) เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่หรือจนกว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยสิ้นสุดลง และให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ให้แก่จำเลยในอัตรา 100,000 บาท ต่อเดือน นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าบุตรผู้เยาว์จะบรรลุนิติภาวะ คำขออื่นตามฟ้องแย้งของจำเลยให้ยก ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา


ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในชั้นฎีการับฟังเป็นยุติได้ว่า โจทก์เป็นคนมีสัญชาติไอร์แลนด์เหนือ จำเลยเป็นคนมีสัญชาติสก๊อตแลนด์ โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย โดยจดทะเบียนสมรสกันที่โบสถ์เซนต์แมรี่แอนด์ ออล เซนต์ส ปีคอนสฟิลด์ บัคกิ้งแฮม สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2530 โจทก์กับจำเลยมีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ นางสาววิคตอเรีย อายุ 23 ปี นางสาวสเตฟานี่ อายุ 21 ปี และนายวิลเลี่ยม อายุ 17 ปี โจทก์จำเลยเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2537 จนถึงขณะฟ้องคดีนี้ ตามกฎหมายของประเทศไอร์แลนด์เหนือและประเทศสก๊อตแลนด์ อนุญาตให้คู่สมรสหย่าขาดกันได้ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2553 ขณะที่โจทก์อยู่ในประเทศไทย ส่วนจำเลยอยู่ที่สหราชอาณาจักร โจทก์กับจำเลยได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์เคลื่อนที่โต้ตอบกัน มีข้อความว่า "You cold hearted bastard. Just like your father" แปลเป็นภาษาไทยว่า "คนไร้น้ำใจ คนสารเลว เหมือนพ่อแก ..."


ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า จำเลยส่งข้อความถึงโจทก์โดยมีเจตนาหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 (3) หรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์จำเลยมิใช่เป็นผู้มีสัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดกันของกฎหมาย พุทธศักราช 2481 มาตรา 24 บัญญัติว่า "ศาลสยามจะไม่พิพากษาให้หย่ากัน เว้นแต่กฎหมายสัญชาติแห่งสามีภริยาทั้งสองฝ่ายยอมให้กระทำได้ เหตุหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า" ดังนั้น เมื่อได้ความว่า กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์เหนือและประเทศสก๊อตแลนด์อันเป็นกฎหมายสัญชาติของโจทก์และจำเลยอนุญาตให้คู่สมรสหย่าขาดจากกันได้ ศาลไทยจึงมีอำนาจพิจารณาเหตุหย่าตามคำฟ้องของโจทก์ว่าเป็นเหตุตามกฎหมายแห่งท้องถิ่นที่ยื่นฟ้อง คือ เหตุหย่าที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือไม่ หากเข้าหลักเกณฑ์ศาลไทยมีอำนาจพิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่ากันได้


สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่จำเลยนั้น เมื่อศาลมิได้มีคำพิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน สิทธิหน้าที่ของโจทก์จำเลยที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูกันจะหมดไปเมื่อการสมรสสิ้นสุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 วรรคสอง และมาตรา 1501 การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยจนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่ด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5) ประกอบมาตรา 247 ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยจนกว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยสิ้นสุดลง ค่าฤชาธรรมเนียมส่วนฟ้องแย้งในศาลชั้นต้นและค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

 


ค่าอุปการะเลี้ยงดูจนกว่าจะสมรสใหม่
 
สำหรับค่าอุปการะเลี้ยงดูที่โจทก์ต้องจ่ายให้แก่จำเลยนั้น เมื่อศาลมิได้มีคำพิพากษาให้โจทก์กับจำเลยหย่าขาดจากกัน สิทธิหน้าที่ของโจทก์จำเลยที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูกันจะหมดไปเมื่อการสมรสสิ้นสุดลง การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยจนกว่าจำเลยจะสมรสใหม่ด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้องพิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้แก่จำเลยจนกว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยสิ้นสุดลง ตามมาตรา 1501 การสมรสย่อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย การหย่า หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอน



การสิ้นสุดแห่งการสมรส

สรุปเหตุ หย่า “ละทิ้งร้าง > สมัครใจแยกกันอยู่”มาตรา 1516, ป.พ.พ. มาตรา 1516(4/2),
หย่า ป.พ.พ. มาตรา 1516 (4) vs (4/2)แยกกันอยู่, ละทิ้งร้าง, สมัครใจแยกกันอยู่, (ฎีกา 2345/2552)
ฟ้องหย่าเพราะภรรยาแจ้งความสามีไม่ได้ ศาลชี้สิทธิเลี้ยงดูยังมีอยู่(ฎีกา 2109/2567)
หย่าเพราะทรมานร่างกาย-จิตใจ (บังคับร่วมประเวณี)เหตุฟ้องหย่า (ฎีกา 8611/2557)
ฟ้องโมฆะ & หย่า / อายุความ / ค่าเลี้ยงชีพ แยกกันอยู่เกิน 3 ปี, (ฎีกา 10770/2558)
คดีหย่า & ค่าทดแทน, สิทธิฟ้องหย่า, (มาตรา 1518, 1523)(ฎีกา 2473/2556)
หย่า แบ่งสินสมรส, อำนาจปกครองบุตร, & คุ้มครองดอกผล (ฎีกา 10361/2557)
คดีหย่า & อำนาจปกครองบุตร, ค่าอุปการะเลี้ยงดู, (ฎีกา 5535/2558)
โมฆะสมรส & สิทธิอำนาจปกครองบุตร, สิทธิเลี้ยงดูบุตร (ฎีกา 10442/2558)
คดีหย่า & ฟ้องซ้อนตาม ป.วิ.พ. ม.173, ฟ้องซ้ำ, (ฎีกา 8186/2551)
สิทธิครอบครองที่ดิน & เพิกถอนโฉนดออกโดยมิชอบ (ฎีกา 3169/2564)
ฟ้องหญิงอื่นเรียกค่าทดแทน (มาตรา 1523) (ฎีกา 4818/2551)
คดีหย่า & สิทธิฟ้องหย่า, อายุความคดีหย่า (การยินยอมและให้อภัย) (ฎีกา 3190/2549)
ค่าเลี้ยงดูบุตร & เพิกถอนโอนบ้าน, สัญญาหย่า, พินัยกรรม, (ฎีกา 6926/2560)
ฟ้องหย่า สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี, (ฎีกา, 2520/2549),
การหย่าโมฆะ & สิทธิในมรดกที่ดินพิพาท
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นเรื่องชู้สาว (ฎีกา 4261/2560)
กฎหมายฟ้องชู้ฉบับใหม่ 2568: สิทธิของคู่สมรสทุกเพศในการเรียกค่าทดแทนและฟ้องหย่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5259 - 5260/2561 : การรับฟังพยานบันทึกเสียง, สิทธิฟ้องหย่า, ค่าทดแทนชู้ และอำนาจปกครองบุตร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2562 เรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง
สมัครใจแยกกันอยู่, จงใจละทิ้งร้าง, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
สิทธิภริยาเรียกค่าทดแทนจากสามีและหญิงอื่น เหตุชู้สาวต่อเนื่องไม่ขาดอายุความ
การหย่าโดยสมยอมเพื่อฉ้อโกงเจ้าหนี้ – วิเคราะห์กฎหมายครอบครัวและสิทธิของเจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2548 สิทธิภริยาชอบด้วยกฎหมายเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523
สิทธิฟ้องหย่าและอำนาจปกครองบุตร: ศาลฎีกาวินิจฉัยกรณีสามีขับไล่ภริยา – คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4104/2564
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2567: การเปลี่ยนแปลงผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรและการปรับค่าเลี้ยงดูตามสถานการณ์ใหม่
แบ่งสินสมรส, สินสมรสที่เป็นเงินตรา, แบ่งสินสมรสหลังหย่า สิทธิและหน้าที่, สินส่วนตัวกับสินสมรส
คดีฟ้องหย่าและการแบ่งทรัพย์สิน, สิทธิการเรียกค่าเลี้ยงดูของโจทก์, การชำระค่าทดแทนในคดีแพ่ง, การบังคับคดีและสิทธิทายาทในมรดก
ข้อตกลงแบ่งค่าเช่าที่ดินในสัญญาหย่า
ฟ้องหย่าคู่สมรสวิกลจริต, คนไร้ความสามารถกับการหย่า, แบ่งทรัพย์สินหลังหย่าในกรณีคนวิกลจริต
การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
การหย่าโดยความยินยอมต้องทำอย่างไร?, หนังสือหย่า
สามีภริยาจะต้องมีการร่วมประเวณีกันบ้างแต่ต้องเกิดจากความยินยอม
ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องด้วยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์
ไม่เกิดสิทธิฟ้องหย่าเพราะโจทก์มีพฤติกรรมนอกใจจำเลยยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปี เหตุฟ้องหย่า
การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง
อายุความฟ้องหย่า, บันทึกข้อตกลงหย่า, หลักกฎหมายมาตรา 1515,
สิทธิฟ้องค่าอุปการะเลี้ยงดูอันจะอยู่ในอายุความ 5 ปี , หน้าที่บิดามารดาในการเลี้ยงดูบุตร
การฟ้องหย่าด้วยเหตุหมิ่นประมาท, สิทธิการฟ้องหย่าหมดอายุความ
นำตำรวจจับกุมภริยา หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามโจทก์อย่างร้ายแรง
จงใจละทิ้งร้างภริยาไปเกินหนึ่งปีฟ้องหย่าได้, สามีภริยาต้องอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา
การจงใจทิ้งร้างไปเกินกว่า 1 ปีต้องในลักษณะที่ไม่หวนกลับไปหาคู่สมรสอีก
ไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควร
สิทธิฟ้องหย่าระงับไปเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีเว้นแต่เหตุฟ้องเกิดขึ้นต่อเนื่อง
เรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ สิทธิเรียกร้องกำหนดอายุความ 5 ปี
เหตุฟ้องหย่าให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ยื่นฟ้องหย่า
สามีฟ้องหย่า,จงใจละทิ้งร้าง,เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยา
ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ, อุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่นเป็นภริยา
สมัครใจแยกกันอยู่เกิน 3 ปี ต้องเพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้โดยปกติสุขด้วย
แยกกันอยู่เพราะสามีรับราชการที่อื่น, ไม่ถือว่าเป็นการแยกกันอยู่โดยความสมัครใจ
ทะเลาะกันและทำร้ายร่างกายยังไม่เป็นเหตุฟ้องหย่า
แยกกันอยู่เพราะสามียกย่องหญิงอื่น, เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
ฟ้องหย่าจงใจละทิ้งร้างเรียกสินสอดทองหมั้นคืน
สามีหรือภริยาประพฤติชั่วอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
รู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่าจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้
พี่น้องของผู้ตายขอเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสซ้อนไม่ได้
อำนาจฟ้องขอเพิกถอนการสมรสเพราะสำคัญผิดตัว
ศาลมีอำนาจกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรได้
ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก-ได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปี ฟ้องหย่าได้
สิทธิฟ้องหย่าระงับเมื่ออีกฝ่ายให้อภัยแล้ว
สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะติดต่อกับบุตรของตนได้ตามสมควรแล้วแต่พฤติการณ์
ไม่อาจร่วมประเวณีได้ ต้องการฟ้องหย่า
แยกกันอยู่หรือจงใจละทิ้งร้าง? -อยู่บ้านเดียวกันแต่ก็มีลักษณะแบบต่างคนต่างอยู่
กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง
ไม่ถือว่าจำเลยประพฤติชั่วทำให้โจทก์อับอายถูกเกลียดชังจนเป็นเหตุฟ้องหย่าได้
สิทธิที่จะเรียกค่าทดแทนชู้สาวนั้นต้องแสดงตนโดยเปิดเผย
เหตุแห่งการฟ้องหย่าทำให้อีกฝ่ายหนึ่งยากจนลงขอให้อีกฝ่ายหนึ่งจ่ายค่าเลี้ยงชีพได้
ฟ้องซ้ำ ค่าอุปการะเลี้ยงดู หนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนด
การแบ่งสินสมรสและกรรมสิทธิ์รวม
หมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามสามีหรือบุพการี
สัญญาระหว่างสมรสให้ทรัพย์สินของสามีตกเป็นของภริยาห้ามบอกล้าง
ขอเพิกถอนทะเบียนสมรสซ้อน สมรสซ้อนโดยไม่สุจริต
ทะเบียนสมรส ลงชื่อฝ่ายชายคนเดียว, เพิกถอนการรับบุตรบุญธรรม
ฟ้องหย่าอ้างเหตุสมัครใจแยกกันอยู่
ทำร้ายร่างกายถ้าเป็นการร้ายแรงฟ้องหย่าได้, ศาลปรับหนึ่งพันไม่เป็นการร้ายแรง
ฟ้องหย่าอ้างว่าจำเลยดูหมิ่นโจทก์และบุพการีของโจทก์อย่างร้ายแรง
การกระทำของจำเลยถือไม่ได้ว่าเป็นการประพฤติชั่วอันเป็นเหตุฟ้องหย่า
โจทก์ได้ให้อภัยจำเลยเรื่องทำร้ายร่างกายแล้วถือได้ว่าสิทธิฟ้องหย่าในข้อนี้ย่อมหมดไป
ทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากันอย่างร้ายแรง
เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยากัน, การทำร้ายคู่สมรส
เหตุฟ้องหย่า เหตุที่ไม่อาจอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ มีอะไรบ้าง
ความสมบูรณ์ของการสมรส, ฟ้องให้การสมรสเป็นโมฆะ
การละเมิดเกิดขึ้นต่อเนื่องอายุความจึงยังไม่เริ่มนับคดีไม่ขาดอายุความ
การฟ้องหย่าและหย่าโดยคำพิพากษาของศาล
ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากสามี ไม่ฟ้องหย่า
ฟ้องหย่าอ้างสิทธิที่จะเลือกคู่ครองตามรัฐธรรมนูญ
รู้ว่าสามีไปมีหญิงอื่นเกินหนึ่งปีก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้,อายุความ
ฟ้องหย่าได้ที่ศาลใด
การหย่าโดยคำพิพากษาจะมีผลต่อเมื่อเวลาที่คำพิพากษาถึงที่สุด
หนังสือร้องเรียนผู้บังคับบัญชาเรื่องความสัมพันธ์กับหญิงอื่น