

การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง
ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์ การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง • การสมรสสิ้นสุดเพราะความตาย • การแบ่งสินสมรสหลังคู่สมรสเสียชีวิต • คู่สมรสถูกประหารชีวิต การสมรสสิ้นสุดหรือไม่ • สิทธิการจดทะเบียนสมรสใหม่หลังคู่สมรสหายสาบสูญ • ข้อกฎหมายเรื่องสินสมรสและมรดกของคู่สมรส • การหายสาบสูญของคู่สมรสตามกฎหมายไทย • การสมรสสิ้นสุดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การสิ้นสุดของการสมรสเนื่องจากการถึงแก่ความตายของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งดังต่อไปนี้ ข้อ 1. การสิ้นสุดของการสมรสเนื่องจากการถึงแก่ความตาย หลักกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1501 บัญญัติไว้ทำนองว่า การสมรสจะสิ้นสุดลงเมื่อคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย ซึ่งหลักการนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่า เมื่อคู่สมรสคนหนึ่งเสียชีวิต ก็เป็นการสิ้นสุดบทบาทและความสัมพันธ์ในฐานะคู่สมรสโดยธรรมชาติ เนื่องจากภาระหน้าที่และสิทธิในการร่วมใช้ชีวิตไม่สามารถดำเนินต่อไปได้หลังจากการเสียชีวิต มีคำถามว่ากรณีคู่สมรสถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตถือว่าการสมรสสิ้นสุดหรือไม่ ในประเด็นที่ 2 นี้คือ กรณีคู่สมรสถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต เมื่อคู่สมรสฝ่ายหนึ่งถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต การสมรสจะยังไม่ถือว่าสิ้นสุดจนกว่าการประหารชีวิตจะเกิดขึ้นจริง เนื่องจากยังมีโอกาสที่อาจมีการอภัยโทษหรือการลดโทษเกิดขึ้น ในกรณีนี้ การสมรสจึงยังคงอยู่ต่อไป ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1501 ที่ระบุชัดว่าการสมรสสิ้นสุดลงเฉพาะเมื่อฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย ดังนั้นการพิพากษาประหารชีวิตยังไม่ถือเป็นการสิ้นสุดการสมรสจนกว่าจะมีการประหารชีวิตจริง ประเด็นที่ 3. คือ การหายสาบสูญของคู่สมรสมีผลอย่างไร ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งหายสาบสูญไป ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 61 ซึ่งกำหนดให้สามารถร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลนั้นเป็นผู้สาบสูญเมื่อบุคคลนั้นไม่ปรากฏตัวและไม่ติดต่อใครเป็นระยะเวลาหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด โดยหากศาลมีคำสั่งให้เป็นผู้สาบสูญแล้ว จะถือว่าการสมรสสิ้นสุดลง นอกจากนี้ เมื่อการสมรสสิ้นสุดลง อีกฝ่ายหนึ่งสามารถจดทะเบียนสมรสใหม่ได้ตาม มาตรา 1501 ประเด็นที่ 4. เรื่องการแบ่งสินสมรสหลังการเสียชีวิตของคู่สมรสมีข้อกฎหมายอย่างไร เรื่องนี้ เมื่อคู่สมรสฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย สินสมรสจะต้องถูกแบ่งออกตามหลักกฎหมาย โดย มาตรา 1533 ระบุว่า เมื่อการสมรสสิ้นสุดลงเพราะการถึงแก่ความตายของคู่สมรสฝ่ายหนึ่ง ทรัพย์สินที่เป็นสินสมรสจะต้องแบ่งออกคนละครึ่งก่อนที่สินสมรสครึ่งหนึ่งจะถูกนำไปจัดการตามสิทธิในการรับมรดกของคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่และทายาทอื่น ๆ การฟ้องหย่า ถ้าโจทก์ถึงแก่ความตายย่อมมีผลทำให้การสมรสสิ้นสุดลงเพราะความตายของโจทก์ซึ่งเป็นคู่สมรส การที่บุตรของโจทก์ยื่นคำร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ ก็ไม่มีประโยชน์ในการชี้ขาดตัดสินคดีหย่า และประเด็นแบ่งสินสมรสอีกต่อไป อีกทั้ง ลักษณะคดีเป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ ทายาทไม่อาจรับมรดกความได้
ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในชั้นยื่นคำให้การ โจทก์ถึงแก่ความตายผู้ร้องอ้างว่าเป็นบุตรของโจทก์และจำเลยโดยเป็นทายาทของโจทก์ร้องเข้ามาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า โจทก์ถึงแก่ความตาย ลักษณะคดีเป็นสิทธิเฉพาะตัวของโจทก์ ทายาทไม่อาจรับมรดกความได้ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ไม่มีค่าขึ้นศาลให้คืนเนื่องจากศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ฟ้องหย่าและขอแบ่งทรัพย์สินถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาการถึงแก่กรรมของคู่สมรสย่อมทำให้การสมรสสิ้นสุดลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1501 และต้องแบ่งทรัพย์สินระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่มีชีวิตอยู่นับแต่เวลาที่การสมรสสิ้นไปด้วยเหตุความตายตามมาตรา 1625 ฉะนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยปัญหาตามฟ้องโจทก์ต่อไป ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกคำร้องและจำหน่ายคดีนั้น ชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น อนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมเกี่ยวกับคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ และศาลอุทธรณ์ มิได้แก้ไข ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในศาลชั้นต้นและชั้นฎีกาให้เป็นพับ.
|