
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2548 สิทธิภริยาชอบด้วยกฎหมายเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523
บทนำ คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสิทธิของภริยาชอบด้วยกฎหมายในการเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสามี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง แม้ภริยาจะไม่ได้อยู่กินกับสามี หรือมีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ก็ตาม ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเหตุให้ฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ และยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 ให้จำเลยชำระค่าทดแทนแก่โจทก์
สรุปข้อเท็จจริง 1.โจทก์เป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของ พลตรีทงพานธ์ ศรีอักษร 2.จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามีของโจทก์ และพักอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันกับเขา 3.โจทก์ฟ้องเรียกค่าทดแทน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี 4.จำเลยปฏิเสธว่าไม่มีความสัมพันธ์และไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน 5.ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระ 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี 6.ศาลอุทธรณ์ภาค 3 แก้เป็น 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี 7.จำเลยฎีกาอ้างว่าโจทก์กับสามีไม่ได้อยู่กินและมีคดีหย่ากันอยู่ จึงไม่มีสิทธิฟ้อง
คำวินิจฉัยของศาลฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ให้อำนาจภริยาชอบด้วยกฎหมายเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสามี โดยไม่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องอยู่กินกัน หรือไม่มีคดีหย่า หรือเกิดความเสียหายอย่างไร ดังนั้น แม้โจทก์กับสามีจะไม่ได้อยู่กินและมีคดีหย่ากัน ก็ยังมีสิทธิฟ้องได้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบแล้ว
ขยายความประเด็นทางกฎหมาย •มาตรา 1523 วรรคสอง ป.พ.พ. เป็นมาตราที่มีเจตนาคุ้มครองสถานภาพสมรสและเกียรติศักดิ์ของภริยาชอบด้วยกฎหมาย •สิทธิเรียกค่าทดแทนในกรณีนี้เป็นสิทธิพิเศษ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ความเสียหายทางเศรษฐกิจหรือทางใจโดยตรง •การมีคดีฟ้องหย่าหรือการแยกกันอยู่ ไม่ตัดสิทธิฟ้อง หากสถานภาพการสมรสยังไม่สิ้นสุดตามกฎหมาย •หลักการนี้สร้างแนวปฏิบัติให้ชัดเจนว่า การฟ้องในลักษณะนี้เป็นการปกป้องสิทธิในสถานภาพสมรส ไม่ขึ้นอยู่กับการอยู่กินหรือการอุปการะกัน
ข้อคิดทางกฎหมาย •ภริยาชอบด้วยกฎหมายยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นได้ แม้ไม่ได้อยู่กินกับสามีหรือมีคดีหย่ากันอยู่ •บทบัญญัติ มาตรา 1523 วรรคสอง มุ่งคุ้มครองสถานภาพสมรสและเกียรติยศของภริยา มากกว่าการชดเชยความเสียหายทางการเงิน •การแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวถือเป็นการละเมิดต่อสิทธิของคู่สมรสตามกฎหมาย
IRAC วิเคราะห์ฎีกา 4130/2548 Issue (ประเด็นปัญหา) ภริยาชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง หรือไม่ หากไม่ได้อยู่กินกับสามีและมีคดีหย่ากันอยู่ Rule (กฎเกณฑ์) มาตรา 1523 วรรคสอง ป.พ.พ. กำหนดว่า ภริยาชอบด้วยกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว โดยไม่มีเงื่อนไขว่าต้องอยู่กินหรือไม่มีคดีหย่า Application (การประยุกต์ใช้) แม้โจทก์กับสามีจะแยกกันอยู่และมีคดีหย่ากัน แต่สถานภาพสมรสยังคงอยู่ จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสามี ซึ่งเข้าลักษณะตามมาตรา 1523 วรรคสอง โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าทดแทน Conclusion (ข้อสรุป) ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำเลยชำระค่าทดแทน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
สรุปภาษาอังกฤษ The Supreme Court Judgment No. 4130/2548 affirms that a lawful wife has the right under Section 1523 paragraph 2 of the Civil and Commercial Code to claim compensation from another woman who openly displays an adulterous relationship with her husband, even if the wife is not cohabiting with her husband or is in the process of divorce. The Court upheld the lower court’s decision awarding the wife compensation of 50,000 THB plus interest.
สรุปย่อฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้โจทก์กับสามีจะแยกกันอยู่และมีคดีหย่ากัน แต่ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง ภริยาชอบด้วยกฎหมายยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสามีได้ ศาลจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำเลยชำระค่าทดแทนแก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4130/2548 ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของพลตรีทงพานธ์ ศรีอักษร จำเลยแสดงตนโดยเปิดเผยว่าตนมีความสัมพันธ์กับพลตรีทงพานธ์ สามีโจทก์ ในทำนองชู้สาวโดยเข้าไปพักอาศัยอยู่กินอย่างสามีภริยาและเปิดเผยในบ้านหลังเดียวกันกับสามีโจทก์ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเดือดร้อน ขอให้จำเลยชำระค่าทดแทนจำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยมีความสัมพันธ์กับสามีโจทก์ในทำนองชู้สาวและไม่เคยแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กันในทำนองชู้สาว จำเลยไม่เคยพักอาศัยในบ้านเดียวกันกับสามีโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 20,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 50,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์เพียงเท่าจำนวนทุนทรัพย์ที่ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความ 2,000 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ของจำเลยให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 หรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า ภริยาที่จะมีสิทธิเรียกค่าทดแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง จะต้องเป็นภริยาที่อยู่ร่วมกับสามีฉันสามีภริยาและอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน แต่คดีนี้โจทก์กับสามีนอกจากจะมิได้อยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาแล้ว ยังมีคดีฟ้องหย่ากันก่อนที่จะเกิดเหตุตามฟ้อง และปัจจุบันศาลได้พิพากษาให้โจทก์กับสามีหย่ากันแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์จึงไม่ชอบ เห็นว่า ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว โดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ดังที่จำเลยฎีกา ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้แม้โจทก์กับสามีจะมีพฤติการณ์ดังที่จำเลยกล่าวอ้าง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์ชอบแล้ว พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 1,500 บาท แทนโจทก์.
|