ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




เงินเดือนข้าราชการไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรืออายัดไม่ได้จริงหรือไม่?

   -ปรึกษากฎหมาย นายลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

     โทร.085-9604258

   -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์   

   (1) @leenont 

   (2) @peesirilaw  

   (3) 0859604258 เพิ่มด้วยหมายเลขโทรศัพท์

  -Line Official Account : เพิ่มเพื่อน QR CODE

เงินเดือนข้าราชการไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรืออายัดไม่ได้จริงหรือไม่?

ข้าราชการฟังทางนี้ครับ  การเป็นข้าราชการนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการส่วนกลาง  ส่วนภูมิภาค  และส่วนท้องถิ่น  รวมทั้งข้าราชการองค์กรอิสระที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญก็ตาม  ถือว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติ  มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด  ทั้งยังมีความคุ้มกันทางกฎหมายถ้าทำงานโดยสุจริต  และปฏิบัติโดยชอบ  และเมื่อถูกฟ้องร้องดำเนินคดี  เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่  พนักงานอัยการในฐานะทนายแผ่นดิน  จะดำเนินการเป็นทนายแก้ต่างหรือว่าต่างให้

 นอกจากนี้  ถ้าข้าราชการท่านใด  ไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นแล้วไม่ใช้หนี้  เจ้าหนี้ก็มีสิทธิไปฟ้องศาล  เมื่อชนะคดีแล้ว  เพื่อให้มีปฏิบัติการชดใช้หนี้ตามคำพิพากษา  ก็จะต้องนำเจ้าพนักงานบังคับคดี  ไปทำการยึดทรัพย์ข้าราชการท่านนี้มาขายทอดตลาดนำเงิน มาชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้

  ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ คือ ข้าราชการไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะยึดได้  มีเพียงเงินเดือน  ที่ได้รับทุกเดือนจากทางราชการเท่านั้น  เจ้าหนี้จะนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดหรืออายัดเงินเดือนจากหน่วยราชการที่จ่ายเงินเดือน  ให้มาจ่ายแก่เจ้าหนี้ได้หรือไม่

        ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา  286  บัญญัติว่า  เงินเดือน  ค่าจ้าง  บำนาญ  บำเหน็จ  เบี้ยหวัดหรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของข้าราชการ  เจ้าหน้าที่  หรือลูกจ้างในหน่วยราชการ  และเงินสงเคราะห์  บำนาญ หรือบำเหน็จ ที่หน่วยราชการได้จ่ายให้แก่คู่สมรสหรือญาติที่ยังมีชิวิตของบุคคลเหล่านั้น   ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี   หมายความว่า  เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะยึดหรืออายัดเงินเดือนของข้าราชการคนนั้นได้เลยตามกฎหมาย  ดังนั้น ถ้าข้าราชการเป็นหนี้แล้วไม่ใช้หนี้  เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิยึดหรืออายัดเงินเดือนได้ตามกฎหมายดังกล่าว

          ในปัจจุบันจึงพบว่าปัญหาของข้าราชการที่พบมากที่สุดคือการเป็นหนี้  เมื่อมีกฎหมายคุ้มครองดังกล่าว  ข้าราชการส่วนใหญ่จึงพูดเสมอว่า  “ไม่มี  ไม่หนี  ไม่จ่าย  อยากได้  ฟ้องเอา” 
          แต่มีข้าราชการบางรายกลับไปสร้างปัญหาครอบครัวโดย  ไม่อุปการะเลี้ยงดู  ภรรยาและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายทำให้ไม่มีเงินในการดำรงชีวิตและเล่าเรียนศึกษา    ภรรยาด้วยตนเองและพนักงานอัยการสามารถฟ้องคดีแทนบุตร  เพื่อฟ้องบิดาซึ่งเป็นข้าราชการต่อศาลเยาวชนและครอบครัวได้  และเมื่อศาลพิพากษาให้บิดา จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูแล้ว  บิดาซึ่งเป็นข้าราชการจะยกประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา 286  มาอ้างเพื่อไม่ยินยอมให้ศาลยึดหรืออายัดเงินเดือนได้หรือไม่

          ตาม พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534  มาตรา  114  บัญญัติว่า  ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเพื่อชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือค่าเลี้ยงชีพ  สิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา มาตรา  286 (1) (2) (3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  ให้อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีเป็นจำนวนตามที่ศาลเห็นสมควร  ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงฐานะในทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษา  จำนวนบุพการีและผู้สืบสันดาน  ซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา

  นั้นแสดงว่า  ถ้าเป็นหนี้ตามคำพิพากษาของศาลเกี่ยวกับค่าอุปการะเลี้ยงดูและค่าเลี้ยงชีพ แล้วศาลมีอำนาจยึดและอายัดเงินเดือนของข้าราชการท่านนี้  นำมาให้แก่ภรรยาและบุตรได้ตามกฎหมาย 

     ดังนั้น  ข้าราชการทั้งหลายจึงพึงสำนึกไว้เสมอว่า  เป็นหนี้อย่างอื่นเจ้าหนี้ยึดไม่ได้  แต่ถ้าเป็นหนี้ค่าอุปการะเลี้ยงดูและเลี้ยงชีพ  ตามกฎหมายครอบครัวแล้ว  เงินเดือนของท่านอาจถูกยึดหรืออายัดตามคำสั่งศาลได้  เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
 
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 ได้บัญญัติให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจพิจารณาพิพากษา หรือมีคำสั่งในคดีครอบครัว ได้แก่ คดีแพ่งที่ฟ้องหรือร้องขอต่อศาล หรือกระทำการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัว แล้วแต่กรณี ซึ่งจะต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในการบังคับคดีต้องดำเนินการโดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ซึ่งศาลที่ออกหมายบังคับคดีต้องตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อดำเนินการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล โดยหมายบังคับคดีอาจตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ยึด หรืออายัดทรัพย์ หรือให้ส่งมอบการครอบครอง หรือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขึ้นอยู่กับคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเป็นเรื่อง ๆ ไป ในการบังคับคดีตามคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัวจะเป็นคำสั่งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระค่าอุปการะเลี้ยงดู (ระหว่างสามีภริยาหรือระหว่างบิดามารดากับบุตร) ซึ่งผู้มีหน้าที่ต้องให้ (ลูกหนี้ตามคำพิพากษา) จะต้องเป็นผู้ที่ถูกบังคับคดีตามหมายบังคับคดี ซึ่งค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้นจะเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างสามีภริยาหรือระหว่างบิดามารดากับบุตร โดยสามารถเรียกจากกันได้ในเมื่อฝ่ายที่ควรได้รับอุปการะเลี้ยงดูไม่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดู หรือได้รับการอุปการะเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่อัตภาพ ค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้ศาล
อาจให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้ โดยคำนึงถึงความสามารถของผู้มีหน้าที่ต้องให้ ฐานะของผู้รับและพฤติการณ์แห่งกรณี และเมื่อผู้มีส่วนได้เสียแสดงว่าพฤติการณ์ รายได้หรือฐานะของคู่กรณีได้เปลี่ยนแปลงไป ศาลจะสั่งแก้ไขในเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูโดยให้เพิกถอน ลด เพิ่ม หรือกลับให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูอีกก็ได้ ในกรณีที่ศาลไม่พิพากษาให้ค่าอุปการะเลี้ยงดู เพราะเหตุแต่เพียงอีกฝ่ายหนึ่งไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูได้ในขณะนั้น หากพฤติการณ์ รายได้ หรือฐานะของอีกฝ่ายหนึ่งนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป และพฤติการณ์ รายได้หรือฐานะของผู้เรียกร้องอยู่ในสภาพที่ควรได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดู ผู้เรียกร้องอาจร้องขอให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่งในคดีนั้นใหม่ได้ ซึ่งค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้นให้ชำระเป็นเงินโดยวิธีชำระเป็นครั้งคราวตามกำหนด เว้นแต่คู่กรณีจะตกลงกันให้ชำระเป็นอย่างอื่นหรือโดยวิธีอื่น ถ้าไม่มีการตกลงกันและมีเหตุพิเศษเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอ และศาลเห็นสมควรจะกำหนดให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นอย่างอื่น หรือโดยวิธีอื่น โดยจะให้ชำระเป็นเงินด้วยหรือไม่ก็ได้ และในกรณีขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจะกำหนดให้บุตรได้รับการอุปการะเลี้ยงดูโดยประการใด ๆ นอกจากที่คู่กรณีตกลงกัน หรือนอกจากที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอก็ได้ เช่น ให้ไปอยู่ในสถานศึกษาหรือวิชาชีพ โดยให้ผู้ที่มีหน้าที่ต้องชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูออกค่าใช้จ่ายในการนี้ ซึ่งเมื่อศาลเยาวชนและครอบครัวออกหมายบังคับคดีแจ้งมายังเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะมาดำเนินการขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีให้ โดยวิธีการบังคับคดีที่ปฏิบัติกันจะเป็นการขออายัดสิทธิเรียกร้องอันเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เช่น การอายัดเงินเดือน ค่าจ้าง และเงินอื่น ๆ การอายัดเงินฝากในธนาคาร เป็นต้น การอายัดสิทธิเรียกร้องขอให้ชำระเงินจำนวนหนึ่ง หรือที่เรียกว่า “การอายัดเงิน” จะเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีสั่งห้ามบุคคลภายนอกที่ต้องส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา แต่ให้ส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินแก่เจ้าพนักงานบังคับคดี ณ เวลา หรือภายในเวลาตามที่กำหนดไว้ในคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 (3) มาตรา 310 ทวิ มาตรา 311 ซึ่งการอายัดสิทธิเรียกร้องดังกล่าว ตามปกติเจ้าพนักงานบังคับคดีจะไม่สามารถอายัดเงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัดหรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของข้าราชการหรือลูกจ้างในหน่วยราชการได้ เนื่องจากเงินดังกล่าวไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา286 (2) แต่เนื่องจากคดีของศาลเยาวชนและครอบครัวได้มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 หมวด 10 การพิจารณาพิพากษาคดีครอบครัว มาตรา 114 ความว่า “ในการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเพื่อชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพนั้น สิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ตามมาตรา 286 (1) (2 ) และ (3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีเป็นจำนวนตามที่ศาลเห็นสมควร ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงฐานะในทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษา จำนวนบุพการี และผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย

การอายัดเงิน ซึ่งเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือค่าเลี้ยงชีพในคดีของศาลเยาวชนและครอบครัว

เจ้าพนักงานบังคับคดีจะกำหนดจำนวนเงินที่อายัดตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด ซึ่งลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่สามารถร้องขอให้ลดจำนวนเงินที่อายัดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ เนื่องจากอำนาจในการกำหนดค่าอุปการะเลี้ยงดูนั้นเป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณาจากฐานะทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษา และผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย ดังนั้นหากลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีของศาลเยาวชนและครอบครัวประสงค์จะขอลดจำนวนเงินที่ถูกอายัดจะต้องยื่นคำร้องต่อศาล พร้อมแสดงเหตุผลและความจำเป็น ซึ่งศาลเท่านั้นจะเป็นผู้พิจารณา เมื่อเทียบกับในคดีทั่ว ๆ ไป เจ้าพนักงานบังคับคดีออกหนังสืออายัด หรือออกคำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ตามมาตรา 286 (1) และ (3) เช่น เงินเดือน หรือค่าจ้างเบี้ยเลี้ยงชีพ เงินรายได้ต่าง ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจกำหนดจำนวนเงินที่อายัดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 วรรค 2 วรรค 3 หากลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือผู้แทนยื่นคำร้องขอลดการอายัดเงิน เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานประกอบการพิจารณาภายใต้หลักกฎหมายของมาตรา 286 วรรค 2 หากเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีเหตุอันควรก็จะมีคำสั่งลดการอายัดให้ หากจำเลยขอลดอายัดเป็นจำนวนมาก (เกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนที่แจ้งอายัด) และไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานบังคับคดีจะสอบถามเจ้าหนี้ (โจทก์) ก่อนว่าจะคัดค้านหรือไม่ โดยให้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายในกำหนด หากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา หรือผู้แทนแถลงไม่คัดค้าน เจ้าพนักงานบังคับคดีจะพิจารณาลดอายัดตามความประสงค์ของจำเลย หากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือผู้แทนไม่มาแถลงภายในเวลาที่กำหนด เจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะพิจารณาว่าสมควรจะลดอายัดให้หรือไม่เพียงใด แล้วพิจารณามีคำสั่งลดอายัดให้ต่อไป หากเจ้าพนักงานบังคับคดีพิจารณาเห็นว่าไม่มีเหตุสมควรลดอายัดจะมีคำสั่งยกคำร้อง และหากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดในการอายัดหรือ ลดการอายัด บุคคลดังกล่าวอาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลกำหนดจำนวนเงินใหม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 วรรค 3 – 4

ดังนั้น ในส่วนของการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเยาวชนและครอบครัวเจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ซึ่งได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว และประกอบด้วยหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยค่าอุปการะเลี้ยงดู ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ในส่วนของการบังคับคดีกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ
 




การบังคับคดีตามคำพิพากษา

ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด | ฟ้องขับไล่ article
เขตอำนาจศาลเรื่องคำร้องขัดทรัพย์
สิทธิขอกันส่วนที่ดินก่อนขายทอดตลาด เจ้าของรวม ขอให้ปล่อยทรัพย์
หากผู้กู้นำทรัพย์สินมาตีใช้หนี้แก่ผู้ให้กู้ในราคาท้องตลาดหนี้ระงับ
ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี
การบังคับคดีอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ
การบังคับคดีแพ่ง การออกหมายบังคับคดี การยึดทรัพย์
ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล ขอออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์
อายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้มีอำนาจขอให้บังคับคดีคือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
อายัดเงินฝากในบัญชีของจำเลย
บังคับจำนองเมื่อพ้น 10 ปีนับแต่มีคำพิพากษา
ขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนอง
สิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินที่โจทก์นำยึด(ร้องขัดทรัพย์)
ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าซื้อทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี