ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย, ค่าธรรมเนียมการยึดหรือการบังคับคดี, อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้รื้อถอนอาคาร

ท นาย อาสา ฟรี

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

•  ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย

•  คำพิพากษาศาลฎีกา 541/2567

•  หลักประกันทรัพย์สินในการบังคับคดี

•  การรื้อถอนอาคารตามกฎหมาย

•  ค่าธรรมเนียมการยึดหรือการบังคับคดี

•  ป.วิ.แพ่ง มาตรา 292

•  อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้รื้อถอนอาคาร

•  พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลาย พ.ศ. 2542

สรุปย่อ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2567 ย่อความได้ว่า:

ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้รับโอนสิทธิจากโจทก์และเข้าสวมสิทธิในฐานะเจ้าหนี้รายที่ 5 โดยมีทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 คือที่ดินพร้อมอาคารตึกแถว 3 ชั้นเป็นหลักประกันที่ถูกยึดไว้ สำนักงานเขตคันนายาวแจ้งให้ผู้คัดค้านรื้อถอนอาคารดังกล่าวเพราะอาจเป็นอันตราย การรื้อถอนนี้เกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายโดยชอบ ไม่ใช่เพราะความผิดหรือประมาทเลินเล่อของโจทก์หรือผู้ร้อง การรื้อถอนไม่ใช่กรณีถอนการบังคับคดีตามกฎหมายที่เจ้าหนี้ต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมการยึดโดยไม่มีการขายหรือจำหน่าย

ผู้ร้องขอให้กองทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการยึด ผู้คัดค้านแย้งและแจ้งการประชุมเจ้าหนี้โดยไม่มีผู้เข้าร่วม จึงถือว่าเจ้าหนี้ยินยอมให้รื้อถอนและให้ผู้ร้องชำระค่าธรรมเนียม ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ผู้ร้องรับผิดชอบ ผู้ร้องอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิพากษากลับให้ผู้คัดค้านเป็นผู้รับผิดชอบ

ศาลฎีกาพิจารณาว่า การรื้อถอนอาคารเป็นการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นโดยชอบ ไม่ใช่ความผิดของโจทก์หรือผู้ร้อง คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษจึงชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบทความคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2567 ประกอบด้วย:

1.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292: มาตรานี้กำหนดเงื่อนไขและกรณีการถอนการบังคับคดี โดยระบุว่าการถอนการบังคับคดีอาจทำได้ในกรณีที่มีคำสั่งของศาลให้เพิกถอนการยึดหรือเมื่อทรัพย์สินไม่สามารถนำไปขายทอดตลาดได้ในเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในกรณีนี้ การรื้อถอนอาคารไม่ได้เป็นการถอนการบังคับคดีตามที่กำหนดในมาตรา 292 เนื่องจากเกิดจากคำสั่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการใช้อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย

2.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 169/2: มาตรานี้กล่าวถึงการกำหนดค่าฤชาธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการบังคับคดี หากการบังคับคดีไม่ได้ผลหรือมีเหตุทำให้การบังคับคดีถูกเพิกถอน โดยเจ้าหนี้ผู้ขอยึดหรืออายัดอาจต้องรับผิดชอบค่าฤชาธรรมเนียมที่เกิดขึ้น กรณีนี้ศาลวินิจฉัยว่าผู้ร้องไม่ต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมดังกล่าว เพราะการรื้อถอนอาคารเกิดจากการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใช่เพราะความผิดหรือความประมาทเลินเล่อของโจทก์หรือผู้ร้อง

3.พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14: มาตรานี้ระบุถึงอำนาจหน้าที่ของศาลล้มละลายในการพิจารณาคดีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายและการบริหารจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ ซึ่งศาลสามารถมีคำสั่งที่จำเป็นในการคุ้มครองสิทธิของเจ้าหนี้และลูกหนี้ กรณีนี้เกี่ยวข้องกับการพิจารณาว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบังคับคดีหลังจากการรื้อถอนอาคาร

การอธิบายหลักกฎหมายเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจว่าเหตุผลที่ผู้ร้องไม่ต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี เกิดจากการใช้อำนาจโดยชอบของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากการประมาทเลินเล่อหรือความผิดพลาดของผู้ร้องหรือโจทก์

 

ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย, ค่าธรรมเนียมการยึดหรือการบังคับคดี, อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้รื้อถอนอาคาร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2567

ผู้ร้องรับโอนสิทธิเรียกร้องจากโจทก์และเข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้รายที่ 5 โดยมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารตึกแถว 3 ชั้น ของจำเลยที่ 2 เป็นหลักประกันซึ่งโจทก์ได้ยึดเพื่อดำเนินการบังคับคดีไว้แล้ว ต่อมาสำนักงานเขตคันนายาวแจ้งผู้คัดค้านให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวเนื่องจากมีสภาพหรือมีการใช้งานที่อาจเป็นอันตราย เมื่อการที่อาคารต้องถูกรื้อถอนไปในระหว่างการบังคับคดีและไม่อาจนำมาขายทอดตลาดได้เกิดจากการใช้อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยไม่ใช่ความผิดหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือความไม่สุจริตของโจทก์หรือผู้ร้องซึ่งรับโอนสิทธิและหน้าที่จากโจทก์ ทั้งมิใช่การถอนการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 292 (2) (3) (4) (6) และ (7) ที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ขอยึดหรืออายัดทรัพย์สินต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดี ตามมาตรา 169/2 วรรคสี่ ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14 กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะให้ผู้ร้องต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมกรณียึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย

*คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557

*ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งยกคำสั่งผู้คัดค้านและมีคำสั่งให้กองทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมยึดทรัพย์สินซึ่งมิใช่ตัวเงินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย

*ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านในฐานะผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตคันนายาวให้รื้อถอนอาคารเลขที่ 53/38, 53/39 (ปัจจุบันเลขที่ 94, 96) ซึ่งปลูกสร้างอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 120261 และ 12959 ของจำเลยที่ 2 ผู้คัดค้านเห็นว่าการรื้อถอนจะทำให้กองทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ด้อยค่าลงเข้าลักษณะการกระทำตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 145 (3) ประกอบมาตรา 41 ซึ่งผู้คัดค้านต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ก่อนดำเนินการ ทั้งยังมีเรื่องค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมถอนการยึด ผู้คัดค้านจึงเรียกประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่นโดยแจ้งว่าหากไม่มีเจ้าหนี้มาร่วมประชุมตามกำหนดนัดจะถือว่าเจ้าหนี้ยินยอมให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวได้โดยให้สำนักงานเขตคันนายาวเป็นผู้ดำเนินการหรือจัดหา ผู้รื้อถอนและไม่ติดใจรวบรวมวัสดุอุปกรณ์หรือเศษซากจากการรื้อถอนเข้ากองทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 อีกต่อไป เมื่อถึงวันนัดไม่มีเจ้าหนี้รายใดมาร่วมประชุม ผู้คัดค้านจึงถือว่าเจ้าหนี้ยินยอมให้รื้อถอนอาคารตึกแถว 3 ชั้น 3 คูหา ซึ่งเป็นทรัพย์หลักประกันของผู้ร้องดังกล่าว โดยให้ผู้ร้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมถอนการยึดทรัพย์ในคดีแพ่ง และเนื่องจากรายงานการยึดอาคารดังกล่าวระบุว่า โจทก์ในคดีแพ่งได้แถลงว่าสิ่งปลูกสร้างที่นำยึดมีสภาพทรุดโทรมมาก แสดงว่าขณะยึดโจทก์ในคดีแพ่งได้ตรวจสอบและทราบถึงสภาพของอาคารที่จะทำการยึดแล้ว เมื่อผู้ร้องรับโอนสิทธิเรียกร้องมาจากโจทก์ในคดีแพ่ง จึงต้องรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ด้วย และถือว่าผู้ร้องทราบถึงสภาพของทรัพย์ที่ยึดแล้วเช่นกัน การที่ต่อมาอาคารที่ถูกยึดไว้ถูกรื้อถอนตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จึงไม่ใช่ความผิดของจำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 169/3 ดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ผู้ร้องต้องเป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมยึดแล้วไม่มีการขายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 294 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14

*ศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ ส่วนค่าทนายความเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินคดีเองจึงไม่กำหนดให้

*ผู้ร้องอุทธรณ์

*ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษพิพากษากลับ ให้เพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านที่ให้ผู้ร้องชำระค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินที่ไม่มีการขายหรือจำหน่าย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ

*ผู้คัดค้านฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

*ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติได้ว่า จำเลยทั้งสองเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ ย.1490/2547 ของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ดินโฉนดเลขที่ 120261 และ 12959 พร้อมสิ่งปลูกสร้างตึกแถว 3 ชั้น 3 คูหา เลขที่ 94 และ 96 (เดิม 53/38 และ 53/39 ตามลำดับ) เป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์ที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนจำนองเป็นประกันหนี้ต่อธนาคาร ก. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีดังกล่าวและถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดออกขายทอดตลาด สำนักงานเขตคันนายาวเคยมีคำสั่งลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2542 ให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการแก้ไขอาคารพิพาทเนื่องจากมีสภาพหรือมีการใช้งานที่อาจเป็นอันตราย แต่จำเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามภายในเวลาที่กำหนด สำนักงานเขตคันนายาวจึงมีคำสั่งลงวันที่ 19 ธันวาคม 2543 ให้จำเลยที่ 2 รื้อถอนอาคารตึกแถว 3 ชั้น 3 คูหาดังกล่าวภายใน 30 วัน ต่อมาจำเลยที่ 2 ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 หลังจากนั้นสำนักงานเขตคันนายาวมีหนังสือลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 แจ้งแก่ผู้คัดค้านในฐานะผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ให้รื้อถอนอาคารดังกล่าว เนื่องจากโครงสร้างเสาของอาคารทรุดตัวยิ่งขึ้น คาน พื้น และผนังแตกร้าวเป็นแนว ประกอบกับด้านหน้าอาคารติดถนนสาธารณะ ด้านขวาโครงสร้างยึดติดกับอาคารข้างเคียง ด้านซ้ายมีร้านค้า หากพังถล่มลงจะเกิดความเสียหายยิ่งขึ้น ผู้คัดค้านจึงนัดประชุมเจ้าหนี้โดยแจ้งไปในประกาศนัดประชุมว่า หากไม่มีเจ้าหนี้มาร่วมประชุมจะถือว่าเจ้าหนี้ยินยอมให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวได้ โดยให้ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายที่ 5 เป็นผู้ชำระค่าธรรมเนียมถอนการยึดทรัพย์ในคดีแพ่ง และให้สำนักงานเขตคันนายาวเป็นผู้ดำเนินการหรือจัดหาผู้รื้อถอน อีกทั้งไม่ติดใจที่จะรวบรวมเงินที่ได้จากการขายหรือตีราคาวัสดุอุปกรณ์และเศษซากที่ได้จากการรื้อถอนเข้ากองทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 อีกต่อไป เมื่อถึงวันนัดปรากฏว่าไม่มีเจ้าหนี้มาร่วมประชุม ผู้คัดค้านจึงถือว่าเจ้าหนี้ยินยอมให้รื้อถอนอาคารดังกล่าว และแจ้งให้ผู้ร้องถอนการยึดอาคารดังกล่าวในคดีแพ่งพร้อมชำระค่าธรรมเนียม

*มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ผู้ร้องต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมกรณียึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายหรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์ในคดีแพ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 120261 และ 12959 พร้อมสิ่งปลูกสร้างอาคารตึกแถวดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิบังคับคดีไปตามคำพิพากษาโดยชอบ แต่เหตุที่อาคารดังกล่าวต้องถูกรื้อถอนไปเนื่องจากสำนักงานเขตคันนายาวมีหนังสือถึงผู้คัดค้านในฐานะผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 2 ให้รื้อถอนอาคาร ด้วยเหตุที่โครงสร้างเสาของอาคารทรุดตัวมากขึ้น คาน พื้น และผนังแตกร้าว ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แม้ขณะนำยึดโจทก์ในคดีแพ่งได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า สิ่งปลูกสร้างสภาพทรุดโทรมมาก แต่ก็ไม่ปรากฏว่า โจทก์ในคดีแพ่งรู้อยู่แล้วว่า อาคารดังกล่าวมีสภาพเป็นอันตรายและสำนักงานเขตมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 รื้ออาคารดังกล่าวมาก่อนอันจะถือว่าเป็นความผิดหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของโจทก์ในคดีแพ่ง เมื่อการที่อาคารดังกล่าวต้องถูกรื้อถอนไปในระหว่างการบังคับคดีและไม่อาจนำมาขายทอดตลาดได้เกิดจากการใช้อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยไม่ใช่ความผิดหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือความไม่สุจริตของโจทก์ในคดีแพ่งหรือผู้ร้องซึ่งรับโอนสิทธิและหน้าที่จากโจทก์ในคดีแพ่ง ทั้งมิใช่การถอนการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292 (2) (3) (4) (6) และ (7) ที่ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ขอยึดหรืออายัดทรัพย์สินต้องรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดี ตามมาตรา 169/2 วรรคสี่ ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14 กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะให้ผู้ร้องต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมกรณียึดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น

*พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ




การบังคับคดีตามคำพิพากษา

จำเลยมีสิทธิรับมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง, โจทก์มีสิทธิยึดชำระหนี้ได้แม้ยังเป็นชื่อผู้จัดการมรดก, การยึดทรัพย์มรดก, การบังคับคดี
การขายทอดตลาดที่ดิน, การประมูลซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด, ความไม่สุจริตในการประมูลซื้อที่ดิน, การขับไล่ผู้คัดค้านออกจากที่ดิน,
เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดิน, อำนาจฟ้อง, การฟ้องร้องละเมิดเจ้าพนักงานบังคับคดี, คดีการขายทอดตลาดในราคาต่ำกว่าปกติ
ลำดับการนับโทษคดีอาญา, การนับโทษจำคุกต่อเนื่อง, การแก้ไขหมายจำคุก,
คำร้องงดการบังคับคดี, การเพิกถอนการบังคับคดี, การขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ทรัพย์สินของแผ่นดิน, เงินอุดหนุนจากรัฐและการยกเว้นการอายัด, หน่วยงานของรัฐกับการบังคับคดี
ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ประธานขาดอายุความแล้วแต่ต้องบังคับคดีภายในสิบปี
การปล่อยทรัพย์ที่ยึด, ร้องขัดทรัพย์, สินส่วนตัวและสินสมรส, การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์
คำขอไต่สวนทรัพย์สินของลูกหนี้, บังคับคดีลูกหนี้ตามคำพิพากษา, การยึดทรัพย์สินลูกหนี้
ขอให้เพิกถอนการบังคับคดี, ชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว
การบังคับคดีแพ่ง การออกหมายบังคับคดี การยึดทรัพย์
โจทก์ขอบังคับคดีค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในจำนวนที่มากกว่าเงินเหลือจากหักค่าใช้จ่าย
ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ออกหมายบังคับคดีได้
ขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนอง
สิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินที่โจทก์นำยึด(ร้องขัดทรัพย์)
ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าซื้อทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี
ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด | ฟ้องขับไล่
เขตอำนาจศาลเรื่องคำร้องขัดทรัพย์
สิทธิขอกันส่วนที่ดินก่อนขายทอดตลาด เจ้าของรวม ขอให้ปล่อยทรัพย์
หากผู้กู้นำทรัพย์สินมาตีใช้หนี้แก่ผู้ให้กู้ในราคาท้องตลาดหนี้ระงับ
ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี
การบังคับคดีอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ
เงินเดือนข้าราชการไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรืออายัดไม่ได้จริงหรือไม่?
ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล ขอออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์
อายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้มีอำนาจขอให้บังคับคดีคือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
อายัดเงินฝากในบัญชีของจำเลย
บังคับจำนองเมื่อพ้น 10 ปีนับแต่มีคำพิพากษา