ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ประธานขาดอายุความแล้วแต่ต้องบังคับคดีภายในสิบปี

 ท นาย อาสา ฟรี

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

 ผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ประธานขาดอายุความแล้วแต่ต้องบังคับคดีภายในสิบปี

 

 

บทความเรื่อง: ความรู้เกี่ยวกับการบังคับจำนองและอายุความในการฟ้องร้อง

ประเด็นที่ 1. การบังคับจำนองคืออะไร

การบังคับจำนอง คือ การใช้สิทธิตามกฎหมายที่เจ้าหนี้ผู้รับจำนองสามารถบังคับเอาทรัพย์สินที่ลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได้นำมาจำนองไว้เพื่อประกันการชำระหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง เจ้าหนี้มีสิทธินำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระหนี้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจำนองคือ:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702: ระบุว่า การจำนองคือการประกันหนี้โดยใช้ทรัพย์สินของลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกเป็นหลักประกัน โดยทรัพย์สินนั้นจะต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินที่กฎหมายกำหนดให้จำนองได้

ประเด็นที่ 2. การฟ้องบังคับจำนองมีอายุความอย่างไร

การฟ้องบังคับจำนองต้องทำภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สิทธิในการบังคับจำนองอาจถูกจำกัด

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอายุความ:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27: การฟ้องบังคับจำนองไม่ถูกจำกัดด้วยอายุความของหนี้หลัก แต่การเรียกเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปี ไม่สามารถทำได้

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: การร้องขอบังคับคดีตามคำพิพากษาต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

ประเด็นที่ 3. การเรียกเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่าห้าปีในการฟ้องร้องบังคับจำนองมีหลักเกณฑ์อย่างไร

ตามกฎหมาย ดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปีไม่สามารถเรียกร้องได้ แม้ว่าหนี้หลักจะยังไม่หมดสิทธิในการฟ้องร้องบังคับจำนอง

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27: กำหนดให้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกิน 5 ปีนับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระไม่สามารถเรียกเอาได้

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีดังนี้:

คือคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567: ผู้รับจำนองยังมีสิทธิบังคับจำนองได้ แต่ไม่สามารถเรียกเอาดอกเบี้ยที่เกิน 5 ปีได้ตามมาตรา 193/27

ประเด็นที่ 4. การบังคับคดีภายในสิบปีหมายความว่าอย่างไร

การบังคับคดีภายในสิบปี หมายถึง ระยะเวลาที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถยื่นคำร้องขอให้บังคับคดีได้ โดยนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษา

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: ระบุว่า การบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปี หากเกินระยะเวลาดังกล่าว การบังคับคดีจะไม่สามารถดำเนินการได้

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องคือ:

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2557: การบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่คำพิพากษา มิฉะนั้นสิทธิในการบังคับคดีจะสิ้นไป

ประเด็นที่ 5. การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความมีหลักเกณฑ์อย่างไร

การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความสามารถทำได้โดยอ้างอิงจากข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในศาล และต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138: การประนีประนอมยอมความที่ศาลให้ความเห็นชอบมีผลเสมือนคำพิพากษา

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง:

คือคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2560: ระบุว่า หากลูกหนี้ผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าหนี้สามารถยื่นบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี

ประเด็นที่ 6. อายุความในการบังคับคดีนับอย่างไร

อายุความในการบังคับคดีนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นที่สุด (คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ไม่มีการอุทธรณ์ หรือคำพิพากษาศาลฎีกา) และต้องดำเนินการภายใน 10 ปี

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: การร้องขอบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปี

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้องคือ

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

ประเด็นคือ: เจ้าหนี้ยื่นบังคับคดีล่าช้ากว่า 10 ปีหลังจากวันผิดนัดชำระหนี้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลวินิจฉัยว่าแม้สิทธิจำนองยังคงอยู่ แต่โจทก์หมดสิทธิบังคับคดี

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2557

ประเด็นคือ: การบังคับคดีภายใน 10 ปีเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย แม้เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิจำนอง หากพ้นระยะเวลา 10 ปี ศาลจะยกคำร้อง

3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2560

 

ประเด็นคือ: การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่วันผิดนัด หากเกินระยะเวลา สิทธิในการบังคับคดีจะสิ้นไป

 

***คดีมีปัญหาว่า โจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดหรือไม่ เห็นว่าหากเจ้าหนี้ประสงค์บังคับตามสิทธิก็ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพราะเหตุถูกลูกหนี้โต้แย้งสิทธิ และเมื่อคดีเข้าสู่ศาล กระบวนพิจารณาก็ต้องบังคับตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิแพ่ง ซึ่งการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง คือมีคำพิพากษาของศาลชั้นที่สุดในคดีนั้น คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ และจำเลยผิดนัดชำระหนี้ตั้งแต่นั้นแล้ว การร้องขอให้บังคับคดีโดยการยึดทรัพย์สินจำนองจึงต้องกระทำในระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ แต่โจทก์เพิ่งยื่นคำขอฉบับลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์สินจำนองของจำเลยล่วงพ้นระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 แล้ว จึงมีผลเพียงทำให้โจทก์หมดสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินจำนองของจำเลย แต่ทรัพยสิทธิจำนองยังคงอยู่ และโจทก์สามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองต่อไปได้ 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

ผู้รับจำนองซึ่งทรงทรัพยสิทธิจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ที่ประกันหรือสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความ เพียงแต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่าห้าปีไม่ได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/27 และ 745 แต่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายสารบัญญัติ เมื่อคดีเข้าสู่ศาล กระบวนพิจารณาก็ต้องบังคับตามที่บัญญัติไว้ใน ป.วิ.พ. ดังนั้น เมื่อ ป.วิ.พ. ภาค 4 ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง มาตรา 274 บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งหมายถึงตั้งแต่มีคำพิพากษาของศาลชั้นที่สุดในคดีนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ และจำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งแต่งวดแรกวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ดังนี้ การร้องขอให้บังคับคดีโดยการยึดทรัพย์สินจำนองจึงต้องกระทำภายในสิบปีนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว โจทก์ยื่นคำขอต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์สินจำนองของจำเลยล่วงพ้นระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 แล้ว โจทก์จึงสิ้นสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินจำนองของจำเลย อย่างไรก็ตาม ทรัพยสิทธิจำนองยังคงอยู่ และโจทก์สามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองต่อไปได้

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยและบังคับจำนอง ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมโดยจำเลยยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องเป็นเงิน 1,564,537.55 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 1,509,373.07 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นรายเดือนทุกเดือนภายในวันสิ้นเดือน เดือนละไม่น้อยกว่า 19,500 บาท เริ่มงวดแรกในวันสิ้นเดือนมิถุนายน 2543 เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้จำเลยจะต้องชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นภายในเวลา 3 ปี นับแต่วันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ คดีถึงที่สุดแล้ว แต่จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอออกหมายบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ออกหมายบังคับคดีตามคำขอของโจทก์ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 325 ทรัพย์จำนองของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์ เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งว่า ตรวจสอบแล้วคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 และโจทก์แถลงว่าจำเลยไม่เคยชำระหนี้ ดังนั้น นับแต่วันผิดนัดชำระหนี้ (วันที่ 1 กรกฎาคม 2543) จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว คดีจึงพ้นระยะเวลาบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274 เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่อาจบังคับคดีหรือยึดทรัพย์ตามคำร้องได้ ยกคำร้อง

โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การบังคับคดีจะต้องกระทำภายใน 10 ปี คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีชอบแล้ว ยกคำร้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

โจทก์ฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทโฉนดเลขที่ 325 อันเป็นทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า สิทธิจำนองเป็นทรัพยสิทธิจะระงับสิ้นไปก็ต่อเมื่อมีกรณีต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 744 (1) ถึง (6) ดังนี้ ผู้รับจำนองซึ่งทรงทรัพยสิทธิจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนองแม้หนี้ที่ประกันหรือสิทธิเรียกร้องส่วนที่เป็นประธานจะขาดอายุความ เพียงแต่จะบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระในการจำนองเกินกว่าห้าปีไม่ได้ ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27 และมาตรา 745 บัญญัติไว้ แต่บทบัญญัติดังกล่าวเป็นกฎหมายสารบัญญัติ ซึ่งกำหนดสิทธิและหน้าที่แก่คู่กรณีที่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน โดยหากเจ้าหนี้ประสงค์บังคับตามสิทธิก็ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาลเพราะเหตุถูกลูกหนี้โต้แย้งสิทธิ ตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 อันเป็นกฎหมายวิธีสบัญญัติคือกฎหมายวิธีพิจารณาความบัญญัติไว้ และเมื่อคดีเข้าสู่ศาล กระบวนพิจารณาก็ต้องบังคับตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังนั้น เมื่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ภาค 4 ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง มาตรา 274 บัญญัติให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ซึ่งหมายถึงตั้งแต่มีคำพิพากษาของศาลชั้นที่สุดในคดีนั้น สำหรับคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ และจำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งแต่งวดแรกวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ดังนี้ การร้องขอให้บังคับคดีโดยการยึดทรัพย์สินจำนองจึงต้องกระทำในระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการบังคับคดีที่ต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายวิธีพิจารณาความ แต่โจทก์เพิ่งยื่นคำขอฉบับลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับคดียึดทรัพย์สินจำนองของจำเลยล่วงพ้นระยะเวลาสิบปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 แล้ว จึงมีผลเพียงทำให้โจทก์หมดสิทธิบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินจำนองของจำเลยในคดีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทรัพยสิทธิจำนองยังคงอยู่ และโจทก์สามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองต่อไปได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของโจทก์และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนมานั้น ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

•  ระยะเวลาบังคับคดี 10 ปี

•  สิทธิจำนองหมดอายุ

•  ดอกเบี้ยจำนองเกิน 5 ปี

•  คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

•  การบังคับคดีทรัพย์สินจำนอง

•  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27

•  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274

•  เหตุระงับสิทธิจำนอง มาตรา 744

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567 (สรุป)

ผู้รับจำนองซึ่งมีสิทธิจำนองยังคงมีสิทธิบังคับจำนองได้ แม้ว่าหนี้ที่ประกันจะขาดอายุความ แต่การบังคับเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปีไม่สามารถทำได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/27 และ 745 อย่างไรก็ตาม การบังคับคดีต้องดำเนินการภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 274

ในกรณีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามยอมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2543 และจำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความตั้งแต่งวดแรกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2543 โจทก์ยื่นคำขอบังคับคดียึดทรัพย์สินจำนองเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเกินระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2543 ส่งผลให้โจทก์หมดสิทธิบังคับคดีต่อทรัพย์สินจำนองดังกล่าว

แม้โจทก์หมดสิทธิบังคับคดี แต่สิทธิจำนองยังคงอยู่ และสามารถใช้ยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์สินจำนองได้

คำพิพากษา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยให้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเป็นพับ.

**หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 193/27

บัญญัติว่า การบังคับคดีเพื่อเรียกเอาดอกเบี้ยในกรณีที่หนี้ได้ขาดอายุความแล้ว ผู้มีสิทธิบังคับจำนองไม่อาจเรียกเอาดอกเบี้ยเกินกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระดอกเบี้ย การกำหนดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการเรียกดอกเบี้ยในกรณีที่หนี้ขาดอายุความ แต่สิทธิจำนองในตัวทรัพย์ยังคงอยู่

มาตรา 744 (1)-(6)

กำหนดเหตุที่ทำให้สิทธิจำนองระงับสิ้นไป ดังนี้:

(1) ทรัพย์สินที่จำนองถูกทำลายหรือสูญหาย

(2) ลูกหนี้ชำระหนี้ที่จำนองประกันครบถ้วน

(3) เจ้าหนี้ผู้รับจำนองสละสิทธิจำนอง

(4) ข้อตกลงระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ที่ทำให้สิทธิจำนองระงับ

(5) ระยะเวลาแห่งการจำนองสิ้นสุดลงตามที่กำหนดไว้ในสัญญา

(6) เมื่อศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ที่จำนองและขายทอดตลาด

ในกรณีนี้ สิทธิจำนองยังไม่ระงับสิ้น เพราะไม่มีเหตุระงับตามมาตรา 744 แต่อย่างใด

มาตรา 745

ระบุว่า แม้สิทธิจำนองยังคงอยู่ แต่การเรียกดอกเบี้ยจะถูกจำกัดตามมาตรา 193/27 คือเรียกดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระดอกเบี้ย

2. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

มาตรา 55

กำหนดให้การบังคับตามสิทธิทางกฎหมายต้องทำโดยการยื่นฟ้องต่อศาล หากเกิดกรณีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิหรือมีการโต้แย้งจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่น กรณีลูกหนี้ปฏิเสธการชำระหนี้ ผู้มีสิทธิต้องใช้กระบวนการฟ้องร้องเพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งบังคับ

มาตรา 274

ระบุว่า การร้องขอบังคับคดีต้องทำภายในระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สิทธิในการบังคับคดีจะระงับ แม้สิทธิจำนองในตัวทรัพย์ยังคงอยู่ การกำหนดระยะเวลานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความแน่นอนในกระบวนการบังคับคดี

การประยุกต์ใช้ในกรณีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

1.สิทธิจำนองไม่ระงับ:

โจทก์ยังมีสิทธิจำนองตามที่กำหนดในมาตรา 744 แต่ไม่สามารถบังคับคดีต่อทรัพย์จำนองได้เพราะยื่นคำร้องบังคับคดีพ้นระยะเวลา 10 ปีที่กำหนดในมาตรา 274

2.ข้อจำกัดเรื่องดอกเบี้ย:

แม้สิทธิจำนองยังอยู่ แต่โจทก์ไม่สามารถเรียกดอกเบี้ยที่ค้างเกินกว่า 5 ปีได้ ตามมาตรา 193/27 และ 745

3.ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายสารบัญญัติและวิธีสบัญญัติ:

มาตรา 55 ของ ป.วิ.พ. กำหนดให้ใช้กระบวนการฟ้องร้องในศาลเพื่อบังคับสิทธิจำนอง และเมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ต้องปฏิบัติตามระยะเวลาที่กำหนดในมาตรา 274 เพื่อดำเนินการบังคับคดี

สรุป

•สิทธิจำนองยังคงอยู่: แม้โจทก์หมดสิทธิยื่นบังคับคดี แต่ยังสามารถใช้สิทธิจำนองยันต่อลูกหนี้จำนองหรือต่อบุคคลภายนอกที่รับโอนทรัพย์จำนองได้

•การบังคับคดีต้องอยู่ในระยะเวลาที่กำหนด: การร้องขอบังคับคดีที่เกิน 10 ปี จะไม่สามารถดำเนินการได้ แม้สิทธิจำนองยังไม่ระงับ

การอธิบายหลักกฎหมายดังกล่าวช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเจตนารมณ์และขอบเขตของสิทธิและหน้าที่ในกรณีจำนองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บทความ: ความรู้เกี่ยวกับการบังคับจำนองและอายุความในการฟ้องร้อง

1. การบังคับจำนองคืออะไร

การบังคับจำนอง คือ การใช้สิทธิตามกฎหมายที่เจ้าหนี้ผู้รับจำนองสามารถบังคับเอาทรัพย์สินที่ลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกได้นำมาจำนองไว้เพื่อประกันการชำระหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง เจ้าหนี้มีสิทธินำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดและนำเงินมาชำระหนี้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในสัญญา

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 702: ระบุว่า การจำนองคือการประกันหนี้โดยใช้ทรัพย์สินของลูกหนี้หรือบุคคลภายนอกเป็นหลักประกัน โดยทรัพย์สินนั้นจะต้องเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินที่กฎหมายกำหนดให้จำนองได้

2. การฟ้องบังคับจำนองมีอายุความอย่างไร

การฟ้องบังคับจำนองต้องทำภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว สิทธิในการบังคับจำนองอาจถูกจำกัด

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27: การฟ้องบังคับจำนองไม่ถูกจำกัดด้วยอายุความของหนี้หลัก แต่การเรียกเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปี ไม่สามารถทำได้

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: การร้องขอบังคับคดีตามคำพิพากษาต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

3. การเรียกเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่าห้าปีในการฟ้องร้องบังคับจำนองมีหลักเกณฑ์อย่างไร

ตามกฎหมาย ดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกินกว่า 5 ปีไม่สามารถเรียกร้องได้ แม้ว่าหนี้หลักจะยังไม่หมดสิทธิในการฟ้องร้องบังคับจำนอง

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/27: กำหนดให้ดอกเบี้ยที่ค้างชำระเกิน 5 ปีนับแต่วันที่ถึงกำหนดชำระไม่สามารถเรียกเอาได้

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง:

oคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567: ผู้รับจำนองยังมีสิทธิบังคับจำนองได้ แต่ไม่สามารถเรียกเอาดอกเบี้ยที่เกิน 5 ปีได้ตามมาตรา 193/27

4. การบังคับคดีภายในสิบปีหมายความว่าอย่างไร

การบังคับคดีภายในสิบปี หมายถึง ระยะเวลาที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถยื่นคำร้องขอให้บังคับคดีได้ โดยนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษา

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: ระบุว่า การบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปี หากเกินระยะเวลาดังกล่าว การบังคับคดีจะไม่สามารถดำเนินการได้

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง:

oคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2557: การบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่คำพิพากษา มิฉะนั้นสิทธิในการบังคับคดีจะสิ้นไป

5. การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความมีหลักเกณฑ์อย่างไร

การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความสามารถทำได้โดยอ้างอิงจากข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายทำไว้ในศาล และต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138: การประนีประนอมยอมความที่ศาลให้ความเห็นชอบมีผลเสมือนคำพิพากษา

•คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง:

oคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2560: ระบุว่า หากลูกหนี้ผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ เจ้าหนี้สามารถยื่นบังคับคดีได้ภายใน 10 ปี

6. อายุความในการบังคับคดีนับอย่างไร

อายุความในการบังคับคดีนับจากวันที่ศาลมีคำพิพากษาเป็นที่สุด (คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ไม่มีการอุทธรณ์ หรือคำพิพากษาศาลฎีกา) และต้องดำเนินการภายใน 10 ปี

ตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง:

•ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274: การร้องขอบังคับคดีต้องทำภายใน 10 ปี

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2567

oประเด็น: เจ้าหนี้ยื่นบังคับคดีล่าช้ากว่า 10 ปีหลังจากวันผิดนัดชำระหนี้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลวินิจฉัยว่าแม้สิทธิจำนองยังคงอยู่ แต่โจทก์หมดสิทธิบังคับคดี

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1552/2557

oประเด็น: การบังคับคดีภายใน 10 ปีเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย แม้เจ้าหนี้ยังคงมีสิทธิจำนอง หากพ้นระยะเวลา 10 ปี ศาลจะยกคำร้อง

3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 456/2560

 

oประเด็น: การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอมยอมความต้องทำภายใน 10 ปีนับแต่วันผิดนัด หากเกินระยะเวลา สิทธิในการบังคับคดีจะสิ้นไป


 
 
 
คดีมีปัญหาว่าโจทก์มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นทรัพย์สินซึ่งจำนองออกขายทอดตลาดหรือไม่? การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องร้องขอให้บังคับคดีภายในสิบปีนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง



การบังคับคดีตามคำพิพากษา

จำเลยมีสิทธิรับมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง, โจทก์มีสิทธิยึดชำระหนี้ได้แม้ยังเป็นชื่อผู้จัดการมรดก, การยึดทรัพย์มรดก, การบังคับคดี
การขายทอดตลาดที่ดิน, การประมูลซื้อที่ดินจากการขายทอดตลาด, ความไม่สุจริตในการประมูลซื้อที่ดิน, การขับไล่ผู้คัดค้านออกจากที่ดิน,
เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดิน, อำนาจฟ้อง, การฟ้องร้องละเมิดเจ้าพนักงานบังคับคดี, คดีการขายทอดตลาดในราคาต่ำกว่าปกติ
ลำดับการนับโทษคดีอาญา, การนับโทษจำคุกต่อเนื่อง, การแก้ไขหมายจำคุก,
คำร้องงดการบังคับคดี, การเพิกถอนการบังคับคดี, การขายทอดตลาดทรัพย์สิน
ทรัพย์สินของแผ่นดิน, เงินอุดหนุนจากรัฐและการยกเว้นการอายัด, หน่วยงานของรัฐกับการบังคับคดี
การปล่อยทรัพย์ที่ยึด, ร้องขัดทรัพย์, สินส่วนตัวและสินสมรส, การแบ่งแยกกรรมสิทธิ์
ยึดทรัพย์แล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย, ค่าธรรมเนียมการยึดหรือการบังคับคดี, อำนาจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นให้รื้อถอนอาคาร
คำขอไต่สวนทรัพย์สินของลูกหนี้, บังคับคดีลูกหนี้ตามคำพิพากษา, การยึดทรัพย์สินลูกหนี้
ขอให้เพิกถอนการบังคับคดี, ชำระหนี้ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว
การบังคับคดีแพ่ง การออกหมายบังคับคดี การยึดทรัพย์
โจทก์ขอบังคับคดีค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในจำนวนที่มากกว่าเงินเหลือจากหักค่าใช้จ่าย
ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์ออกหมายบังคับคดีได้
ขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนอง
สิทธิร้องขอให้ปล่อยที่ดินที่โจทก์นำยึด(ร้องขัดทรัพย์)
ขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าซื้อทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี
ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด | ฟ้องขับไล่
เขตอำนาจศาลเรื่องคำร้องขัดทรัพย์
สิทธิขอกันส่วนที่ดินก่อนขายทอดตลาด เจ้าของรวม ขอให้ปล่อยทรัพย์
หากผู้กู้นำทรัพย์สินมาตีใช้หนี้แก่ผู้ให้กู้ในราคาท้องตลาดหนี้ระงับ
ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ระงับการมีความสัมพันธ์ในทำนองชู้สาวกับสามี
การบังคับคดีอายัดเงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ
เงินเดือนข้าราชการไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีหรืออายัดไม่ได้จริงหรือไม่?
ขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล ขอออกใบแทนหนังสือรับรองการทำประโยชน์
อายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้มีอำนาจขอให้บังคับคดีคือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา
อายัดเงินฝากในบัญชีของจำเลย
บังคับจำนองเมื่อพ้น 10 ปีนับแต่มีคำพิพากษา