ReadyPlanet.com
dot
สำนักงานทนายความ
dot
bulletทนายความฟ้องหย่า
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
dot
พระราชบัญญัติ
dot
bulletพระราชบัญญัติ
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
dot
บทความเฉพาะเรื่อง
dot
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletสัญญายอมความ
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletกรมบังคับคดี
dot
ลิงค์ต่าง ๆ
dot
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletอำนาจปกครองบุตร




รางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นสินสมรสหรือสินส่วนตัว

ทนายความโทร0859604258

ภาพจากซ้ายไปขวา ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ, ทนายความภคพล มหิทธาอภิญญา, ทนายความเอกชัย อาชาโชติธรรม, ทนายความอภิวัฒน์ สุวรรณ

-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258

-ติดต่อทางอีเมล  : leenont0859604258@yahoo.co.th

-ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์  (5) ID line  :

         (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3)  peesirilaw  หรือ (4) @peesirilaw   (5)   @leenont1

-Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย  QR CODE

QR CODE 

รางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล สินสมรสหรือสินส่วนตัว

สามีซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อต้นเดือนกันยายน และได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อปลายเดือนกันยายน ถูกรางวัลที่ 1 ในวันที่ 1 ตุลาคม มีคำถามว่า เงินที่ได้มาจากการถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นสินส่วนตัวของสามีหรือไม่ เพราะสามีอ้างว่าขณะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสใช้เงินสินส่วนตัวซื้อ สามีภริยาต้องมามีเรื่องบาดหมางมีปากเสียงกันเพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ จนสามีกับภริยาเก่าซึ่งจดทะเบียนหย่าไปก่อนที่จะได้จดทะเบียนกับภริยาใหม่ ต้องไปร้องต่อศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้การจดทะเบียนหย่าของตนเป็นโมฆะ และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อจะนำคำพิพากษาตามยอมมายันการจดทะเบียนสมรสกับภริยาใหม่ว่าเป็นการสมรสซ้อน แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะการจดทะเบียนสมรสในครั้งหลังได้ทำในขณะที่การจดทะเบียนหย่าของภริยาเดิมมีผลตามกฎหมายไปแล้ว
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่  1053/2537
 
           โจทก์บรรยายฟ้องโดยระบุว่าโจทก์จำเลยได้ร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันที่อะไร ประจำงวดใด และได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลขณะที่โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายและอ้างเหตุจำเป็นในการที่โจทก์ขอเป็นผู้จัดการเงินรางวัลที่จำเลยถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ผู้เดียวเอาไว้ ฟ้องโจทก์ได้บรรยายโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว ส่วนการที่โจทก์จำเลยจะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไหนจากใคร เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ และจำเลยเองก็เข้าใจข้อหาโจทก์ดีสามารถต่อสู้คดีโจทก์ได้ถูกต้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม แม้ภรรยาเดิมของจำเลยจะฟ้องเพิกถอนการหย่า และศาลมีคำพิพากษาตามยอมให้เพิกถอนการจดทะเบียนหย่าแล้วก็ตาม แต่เป็นการทำภายหลังจากที่โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายแล้ว การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงไม่เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 มาตรา 1496 ประกอบด้วยมาตรา 1452 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น จำเลยใช้เงินของจำเลยซื้อสลากกินแบ่งฯ ก่อนสมรสกับโจทก์สลากกินแบ่งฯ ออกรางวัลหลังจากที่โจทก์จำเลยสมรสกันแล้ว และถูกรางวัล เงินรางวัลที่จำเลยได้รับมาจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลระหว่างสมรสถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสย่อมเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. 2519 มาตรา 1474(1) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. 2519 มาตรา 1485 บัญญัติว่าสามีหรือภริยาอาจร้องขอต่อศาลให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสโดยเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเข้าร่วมจัดการในการนั้นได้ ถ้าการที่จะทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่าเป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไป เมื่อไม่ปรากฏว่าโจทก์จำเลยทำสัญญาก่อนสมรสกันไว้ เงินรางวัลที่เหลือฝากในธนาคารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินสมรส โจทก์จำเลยย่อมเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกันอยู่แล้วกรณีจึงไม่มีเหตุจำเป็นใด ๆ ที่โจทก์จะเป็นผู้จัดการเงินรางวัลดังกล่าวเพียงผู้เดียวแต่อย่างใด
 
มาตรา 1452  ชายหรือหญิงจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ไม่ได้

มาตรา 1474  สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

มาตรา 1485  สามีหรือภริยาอาจร้องขอต่อศาลให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสโดยเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเข้าร่วมจัดการในการนั้นได้ ถ้าการที่จะทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า

มาตรา 1496  คำพิพากษาของศาลเท่านั้นที่จะแสดงว่า การสมรสที่ฝ่าฝืนมาตรา 1449 มาตรา 1450 และมาตรา 1458 เป็นโมฆะ
คู่สมรส บิดามารดา หรือผู้สืบสันดานของคู่สมรสอาจร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะได้ ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าว ผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้อัยการเป็นผู้ร้องขอต่อศาลก็ได้

           โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายโจทก์จำเลยได้ร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลและถูกรางวัลที่ 1ได้รับรางวัลเป็นเงินทั้งสิ้น 12,000,000 บาท ฉะนั้นเงินดังกล่าวจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลย และเป็นสินสมรสที่โจทก์จำเลยต้องร่วมกันจัดการ จำเลยฉวยโอกาสโดยพลการยักย้ายเงินรางวัลตลอดจนจำหน่ายจ่ายโอนและยกให้โดยเสน่หาแก่ผู้มีชื่ออื่น ๆ เป็นจำนวนมากเพื่อประโยชน์ของจำเลยฝ่ายเดียวโดยปราศจากความยินยอมจากโจทก์และการยกให้ดังกล่าวมิได้เป็นไปตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือทางสมาคม ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์พยายามห้ามปรามและขอร้องให้จำเลยระงับการจัดการเงินรางวัลไว้พลางก่อน จำเลยก็ไม่ยอมและถือเป็นสาเหตุโกรธเคือง ทำให้เกิดมีข้อพิพาทบาดหมางระหว่างกันบ่อยครั้งเรื่อยมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อไป ขอให้บังคับจำเลยโดยให้โจทก์แต่ผู้เดียวเป็นผู้จัดการเงินที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวซึ่งเป็นสินสมรสและห้ามจำเลยเป็นผู้จัดการต่อไป หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

          จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและสลากกินแบ่งรัฐบาลรายพิพาท จำเลยก็เป็นผู้ซื้อมาแต่ลำพังผู้เดียวก่อนวันจดทะเบียนสมรสกับโจทก์โดยโจทก์ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องด้วยสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือเงินรางวัลจึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่มีอยู่ก่อนสมรส จำเลยย่อมมีสิทธิจัดการได้ ทั้งได้นำเงินรางวัลไปแจกจ่ายให้บิดามารดาผู้มีอุปการะคุณและทำบุญบ้าง ส่วนที่เหลือฝากไว้ในธนาคารในนามของจำเลย โดยโจทก์เองไม่เคยทักท้วงเรื่องนี้และการจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์จำเลยก็เป็นโมฆะเพราะขณะนั้นจำเลยมีภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อนแล้ว จำเลยจดทะเบียนสมรสกับโจทก์เนื่องมาจากความสัมพันธ์ทางชู้สาว และโจทก์ได้ติดตามขู่เข็ญเรียกค่าเสียหายจากจำเลยจำนวน 500,000 บาทหรือให้จดทะเบียนสมรสกับโจทก์ มิฉะนั้นจะร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา จำเลยเกรงกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียงและไม่มีเงิน จึงได้ยอมจดทะเบียนสมรสให้โจทก์โดยตกลงว่า หากจำเลยมีเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว โจทก์จะจดทะเบียนหย่าให้ ครั้นจำเลยถูกรางวัลที่หนึ่งสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงได้จ่ายค่าเสียหายให้โจทก์จำนวน 500,000 บาท แต่โจทก์ผิดข้อตกลงไม่ยอมจดทะเบียนหย่าให้จำเลย และกลับเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จำเลยไม่ยินยอม โจทก์จึงนำคดีมาฟ้องศาลโดยไม่สุจริตขอให้ยกฟ้องและมีคำพิพากษาว่าการจดทะเบียนสมรสระหว่างโจทก์จำเลยเป็นโมฆะไม่มีผลตามกฎหมาย

          โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ก่อนจดทะเบียนสมรสกับจำเลย จำเลยได้หย่าขาดกับภรรยาเก่าผู้มีชื่อไปแล้ว จึงได้ชอบพอรักใคร่กับโจทก์และยินยอมเป็นสามีของโจทก์โดยเปิดเผยปราศจากการข่มขู่ใด ๆทั้งสิ้น โจทก์ไม่เคยขอความช่วยเหลือและไม่เคยข่มขู่เรียกค่าเสียหายจากจำเลย ขอให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย

          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้องโจทก์ และยกฟ้องแย้งของจำเลย
          โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยยอมให้โจทก์จัดการทรัพย์สินสมรสเฉพาะเงินที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตามฟ้องแต่เพียงลำพังผู้เดียวจำนวน 3,000,000 บาท หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

          โจทก์และจำเลยฎีกา
          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาข้อแรกที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ จำเลยอ้างว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้ละเอียดว่าโจทก์ได้ร่วมกับจำเลยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไหน จากผู้ใด ซื้อเมื่อวันที่อะไร ก่อนหรือหลังวันจดทะเบียนสมรส โจทก์หรือจำเลยเป็นผู้เลือกหมายเลขสลาก โจทก์จำเลยจ่ายค่าซื้อสลากคนละเท่าใด จึงทำให้จำเลยไม่อาจเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ถูกต้องยากแก่การยื่นคำให้การต่อสู้คดี ทั้งคำฟ้องว่าเงินรางวัลที่จำเลยถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นสินสมรสที่โจทก์จะต้องร่วมกันจัดการ แต่คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอเป็นผู้จัดการเงินสินสมรสเพียงผู้เดียว ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องซึ่งเป็นการขัดแย้งกันเกี่ยวกับคำฟ้องและคำขอท้ายฟ้อง เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าโจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2531 โจทก์จำเลยได้ร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลประจำงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2531 หมายเลข 1105967 ทั้งชุดรวม 4 ฉบับและถูกรางวัลที่ 1 ได้รับรางวัลเป็นเงินทั้งสิ้น 12,000,000 บาทฉะนั้นเงินดังกล่าวจึงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์จำเลย และเป็นสินสมรสที่โจทก์จำเลยต้องจัดการร่วมกัน แต่ปรากฏว่าจำเลยจัดการเงินสมรสดังกล่าวไปในทางที่เสียหาย จึงให้ศาลบังคับจำเลยให้โจทก์แต่ผู้เดียวเป็นผู้จัดการเงินที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ดังนั้นฟ้องโจทก์ได้บรรยายโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว โดยระบุว่าโจทก์จำเลยได้ร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันที่อะไร ประจำงวดใด และได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลขณะที่โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย และอ้างเหตุจำเป็นในการที่โจทก์ขอเป็นผู้จัดการเงินรางวัลที่จำเลยถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่ผู้เดียวเอาไว้ ส่วนการที่โจทก์จำเลยจะซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ไหนจากใคร เป็นเพียงรายละเอียดที่สามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้ และจำเลยเองก็เข้าใจข้อหาโจทก์ดีสามารถต่อสู้คดีโจทก์ได้ถูกต้องทุกประการ ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม

          ปัญหาข้อที่สองที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า การสมรสระหว่างโจทก์จำเลยมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าที่นางสุจินดามาฟ้องเพิกถอนการหย่าเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2532 และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้เพิกถอนการจดทะเบียนหย่าซึ่งศาลจังหวัดนนทบุรีก็ให้เพิกถอนการหย่าไปแล้ว เป็นการทำภายหลังที่โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายแล้วพฤติการณ์ของนางสุจินดากับจำเลยที่กระทำดังกล่าวไม่อาจฟังได้ว่าการสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519มาตรา 1496 ประกอบด้วยมาตรา 1452 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว

          ปัญหาข้อที่สามตามฎีกาของจำเลยมีว่า เงินรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นสินสมรสหรือไม่ โจทก์รับว่าก่อนที่โจทก์จำเลยจะจดทะเบียนสมรสกันประมาณกลางเดือนกันยายน 2531 โจทก์จำเลยไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ จำเลยใช้เงินของจำเลยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 3 ชุด ๆ ละ 88 บาท ซึ่งจะออกรางวัลประจำงวดวันที่ 1 ตุลาคม 2531 ดังนั้นสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งสามชุด จึงเป็นสินส่วนตัวของจำเลยเพราะเป็นทรัพย์สินที่จำเลยมีอยู่ก่อนสมรส ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519มาตรา 1471(1) ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2531 โจทก์จำเลยจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ครั้นถึงวันที่ 1ตุลาคม 2531 สลากกินแบ่งรัฐบาลเลขที่ 1105967 ซึ่งจำเลยซื้อมาดังกล่าว ถูกรางวัลที่ 1 และจำเลยได้รับเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านบาทมาระหว่างสมรส เงินรางวัลที่จำเลยได้รับมาจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสย่อมเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. 2519 มาตรา 1474(1)

          ปัญหาสุดท้ายที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์สมควรเป็นผู้จัดการสินสมรสคนเดียวหรือไม่ เห็นว่า การที่โจทก์ขอเป็นผู้จัดการเงินรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงผู้เดียวนี้เป็นการร้องขอตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่ พ.ศ. 2519 มาตรา 1485 ที่บัญญัติว่า สามีหรือภริยาอาจร้องขอต่อศาลให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสโดยเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเข้าร่วมจัดการในการนั้นได้ ถ้าการที่จะทำเช่นนั้นจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่า อันเป็นข้อยกเว้นจากหลักทั่วไป แต่การที่โจทก์จะขอเป็นผู้จัดการเงินรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลเพียงผู้เดียวนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยมิได้จัดการเกี่ยวกับเงินที่ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลไปในทางเสียหายแต่อย่างใด จำเลยได้ใช้จ่ายให้ญาติพี่น้องและบิดามารดาของจำเลยเพราะจำเลยเป็นหนี้มาก่อนเงินที่เหลือก็ฝากธนาคารไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขารามอินทรา จำนวน 6,000,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของสินสมรส โจทก์จำเลยย่อมเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกันอยู่แล้วเพราะไม่ปรากฏว่ามีการทำสัญญาก่อนสมรสเอาไว้ ตามนัยมาตรา 1476 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ที่ได้ตรวจชำระใหม่พ.ศ. 2519 กรณีจึงไม่มีเหตุจำเป็นใด ๆ ที่โจทก์จะเป็นผู้จัดการเงินรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาลอันเป็นสินสมรสที่จำเลยฝากไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขารามอินทรา เพียงผู้เดียว

          พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์และยกฟ้องแย้งจำเลย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
 
 
( สุทธิ นิชโรจน์ - บุญศรี กอบบุญ - เสมอ อินทรศักดิ์ )

การบอกล้างสัญญาระหว่างสมรส | แบ่งสินสมรส
 

บริการของ สำนักงานกฎหมายพีศิริ ทนายความ

สำนักงานกฎหมายพีศิริทนายความ ก่อตั้งโดย ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ  รับว่าความคดีแพ่ง คดีอาญา คดีผู้บริโภคและคดีอื่นๆ ทุกคดี รับเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย รับเป็นทนายความแก้ต่างต่อสู้คดี ข้อตกลง ตลอดจนข้อสัญญาต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ยื่นคำร้องขอถอนผู้จัดการมรดก ฟ้องเรียกเงินผิดสัญญากู้ยืมเงิน ผิดสัญญาจ้างทำของ  ฟ้องหย่า ฟ้องเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในคดีครอบครัว ฟ้องเรียกบุตรคืน ฟ้องถอนอำนาจปกครองผู้เยาว์ ฟ้องหย่าและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู ฟ้องหย่าและขอแบ่งสินสมรส ฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนจากหญิงที่แสดงตนว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคู่สมรส ฟ้องหย่าและเรียกค่าเลี้ยงชีพ ฟ้องขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียว ฟ้องให้จดทะเบียนรับรองบุตร ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร ฟ้องขอให้ศาลมีว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ฟ้องขอเปลี่ยนอำนาจปกครองบุตร ฟ้องให้คู่หย่าปฏิบัติตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์สินตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า  ฟ้องเรียกค่าทดแทนผิดสัญญาหมั้นเรียกสินสอดคืน ฟ้องบอกเลิกสัญญาหมั้นเรียกของหมั้นคืน ฟ้องคู่สมรสขอแยกกันอยู่ชั่วคราว ฟ้องขอให้จดทะเบียนใส่ชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมคนละครึ่ง ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตแทนการให้ความยินยอมขายที่ดินสินสมรส ฟ้องขอเพิกถอนการให้ที่ดินสินสมรส  ฟ้องขอใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินสินสมรส  ฟ้องขอใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมในบัญชีธนาคาร  ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสซ้อน   ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร ฟ้องบิดาขอให้รับเด็กเป็นบุตรและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูรวมมาด้วย  ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรเพื่อรับบำเหน็จตกทอดจากทางราชการ  ฟ้องไม่รับเด็กเป็นบุตรเนื่องจากเป็นหมันไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้  ฟ้องคดีขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม  ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแทนการให้ความยินยอมของมารดาในการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม  ยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครอง  ขอให้ศาลแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองเด็ก  คดีขอให้ศาลสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครอง ติดต่อทนายความได้เลย ฟ้องหย่าคิดถึงทนายความลีนนท์ ติดต่อทนายความลีนนท์ ได้ที่หมายเลข 0859604258




ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

สัญญาค้ำประกันไม่อยู่ในบังคับมาตรา 1476 ไม่ต้องได้รับความยินยอมคู่สมรส
การแบ่งทรัพย์สิน กรรมสิทธิ์รวม ทรัพย์สินที่ร่วมกันทำมาหาได้
สินส่วนตัวและสินสมรส ของขวัญเนื่องในการสมรสจึงถือว่าเป็นสินสมรส
ข้อตกลงหลังทะเบียนหย่าเรื่องยกทรัพย์สินให้ฝ่ายหญิง(ภรรยา)
กฎหมายคุ้มครองผู้รับโอนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน (ม.1480)
ปลอมลายมือชื่อคู่สมรสในหนังสือให้ความยินยอมไปทำขายฝากที่ดิน
ตกลงให้สินส่วนตัวของฝ่ายหนึ่งตกเป็นสินสมรส
สิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการให้สินสมรส อายุความ
ความยินยอมในการจัดการสินสมรสไม่ต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน
การจัดการสินสมรสเรื่องกู้ยืมเงินและให้กู้ยืมเงิน-ความยินยอมจากคู่สมรส
สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก | บันทึกท้ายทะเบียนหย่า
ข้อตกลงให้ชำระดอกเบี้ยในระหว่างอายุสัญญาขายฝาก
เหตุสมควรขอให้แยกสินสมรส สามีไม่นำเงินสินสมรสมาอุปการะเลี้ยงดูภริยา
สัญญาแบ่งทรัพย์สินในการหย่า-ตกลงให้ที่ดินแก่กันไม่ต้องจดทะเบียนบังคับได้
เพิกถอนนิติกรรมขายฝาก ซึ่งรับซื้อฝากโดยสุจริตเสียค่าตอบแทน
รับซื้อฝากที่ดินสินสมรสโดยไม่สุจริต- เพิกถอนนิติกรรมขายฝากได้ทั้งแปลง
หนังสือหย่าและตกลงแบ่งทรัพย์สินเมื่อยังไม่มีการหย่าใช้บังคับไม่ได้
เพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายที่ดินมีโฉนดระหว่างบิดาโจทก์กับจำเลย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของรวมในโฉนดที่ดิน
เพิกถอนนิติกรรมโฉนดห้ามโอน 10 ปี
การขอเป็นผู้จัดการสินสมรสฝ่ายเดียว
การเปลี่ยนแปลงสัญญาก่อนสมรส
ขอเป็นผู้จัดการสินสมรสฝ่ายเดียว แยกสินสมรส
ได้สิทธิทำประโยชน์ที่ดินก่อนจดทะเบียนสมรส
เจ้าหนี้ยึดสินสมรสได้ทั้งหมดยกคำร้องขอกันส่วน
หญิงมีสามีมีอำนาจฟ้องปราศจากความยินยอมหรือไม่
สามีนำเงินสินสมรสออกให้กู้โดยไม่ได้รับความยินยอม
ไม่มีสิทธิทำพินัยกรรมยกสินสมรสเกินส่วนของตน
ที่ดินและรถยนต์ภริยากู้ยืมเงินมาซื้อและผ่อนด้วยเงินเดือน
หย่ากันให้แบ่งสินสมรส-ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่าแบ่งสินสมรสไม่ได้
สัญญาระหว่างสมรส
กรณีเป็นที่สงสัยให้สันนิษฐานว่าเป็นสินสมรส
ทรัพย์สินที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาโดยลำพังเป็นสินสมรส
บันทึกข้อตกลงท้ายทะเบียนการหย่าเป็นสัญญาแบ่งทรัพย์สิน