สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

ตกลงให้สินส่วนตัวของฝ่ายหนึ่งตกเป็นสินสมรส -ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) @leenont หรือ (2) @leenont1 หรือ (3) @peesirilaw หรือ (4) peesirilaw (5) leenont -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE
สัญญาก่อนสมรส- ตกลงให้สินส่วนตัวของฝ่ายหนึ่งตกเป็นสินสมรส สัญญาก่อนสมรสสามีภริยาตกลงให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรสตกเป็นสินสมรสมิได้จดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสหรือมิได้ทำสัญญาก่อนสมรสเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ย่อมตกเป็นโมฆะ มาตรา 1465 ถ้าสามีภริยามิได้ทำสัญญากันไว้ในเรื่องทรัพย์สินเป็นพิเศษก่อนสมรส ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในเรื่องทรัพย์สินนั้น ให้บังคับตามบทบัญญัติในหมวดนี้ ถ้าข้อความใดในสัญญาก่อนสมรสขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน หรือระบุให้ใช้กฎหมายประเทศอื่นบังคับเรื่องทรัพย์สินนั้น ข้อความนั้น ๆ เป็นโมฆะ มาตรา 1466 สัญญาก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ามิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็นสัญญาก่อนสมรสนั้นไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือ มิได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียน สมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ คู่สมรสอาจทำสัญญาในเรื่องทรัพย์สินเป็นพิเศษก่อนสมรสได้ ข้อความใดในสัญญาก่อนสมรสที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือระบุให้ใช้กฎหมายประเทศอื่นบังคับเรื่องทรัพย์สิน ข้อความนั้นตกเป็นโมฆะ แบบของสัญญาก่อนสมรส ทำได้ประการใดประการหนึ่งดังต่อไปนี้ 1.จดแจ้งข้อตกลงของสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส 2. ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อย 2 คน แล้วแนบหนังสือดังกล่าวไว้ท้ายทะเบียนสมรสโดยต้องจดแจ้งในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่า ได้มีสัญญานั้นแนบไว้ สัญญาก่อนสมรสที่มิได้ทำตามแบบข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น ตกเป็นโมฆะ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3346/2532 สัญญาก่อนสมรสที่ผู้ร้องและจำเลยทำขึ้นมีข้อความว่า ให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนสมรสตกเป็นสินสมรสนั้น เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องและจำเลยมิได้จดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือมิได้ทำสัญญาก่อนสมรสเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้ สัญญาก่อนสมรสดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466เมื่อทรัพย์สินดังกล่าวถูกโจทก์ยึดขายทอดตลาดชำระหนี้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วนของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยทั้งหกชำระเงิแก่โจทก์ แต่จำเลยทั้งหกไม่ชำระ โจทก์จึงนำยึดที่ดินโฉนดเลขที่2450 อันเป็นกรรมสิทธิ์รวมของจำเลยทั้งหกซึ่งได้จำนองเป็นประกันหนีจำเลยที่ 1 มาเพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 2 มีกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินที่โจทก์นำยึดในส่วนของจำเลยที่ 2 ด้วย ผู้ร้องมิได้รู้เห็นยินยอมด้วยในการกู้เงินตามฟ้องและมิได้เป็นลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่ 2 ขอให้กันส่วนของผู้ร้องหนึ่งในสิบสองส่วน โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 ขอให้ยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ ผู้ร้องฎีกา พิพากษายืน. ( ถวิล ทองสว่างรัตน์ - พัลลภ พิสิษฐ์สังฆการ - อากาศ บำรุงชีพ ) คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6711/2537 การที่โจทก์จำเลยทำความตกลงในเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา โดยจำเลยให้สัญญาว่าบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยให้เป็นสินสมรส จึงเป็นกรณีที่คู่สมรสจดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466 เมื่อไม่ปรากฏว่ามีข้อความขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมมีผลใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465 วรรคสอง โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายในวันจดทะเบียนสมรสโจทก์กับจำเลยได้ทำบันทึกท้ายทะเบียนสมรสโดยจำเลยตกลงจะยกที่ดินโฉนดเลขที่ 119212 พร้อมบ้านสองชั้นหนึ่งหลังซึ่งเป็นของจำเลยให้เป็นสินสมรส โจทก์จึงมีสิทธิใส่ชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยในที่ดินพร้อมบ้านได้ ขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยคนละครึ่งหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา จำเลยให้การว่า ที่ดินและบ้านจำเลยซื้อมาก่อนสมรสจึงตกเป็นสินส่วนตัว บันทึกดังกล่าวระบุให้เป็นสินสมรส จึงขัดกับกฎหมายและไม่มีผลใช้บังคับ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยคนละครึ่งในโฉนดที่ดินเลขที่ 119212 พร้อมบ้าน 2 ชั้น เลขที่ 18/72 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยเมื่อจำเลยต้องการให้เป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยถือได้ว่าโจทก์และจำเลยได้ทำความตกลงในเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ฉะนั้น เมื่อจำเลยได้ให้ข้อสัญญาว่าบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยให้เป็นสินสมรส จึงเป็นกรณีที่คู่สมรสได้จดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1466 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สัญญาดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีข้อความขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมมีผลใช้บังคับได้ตามมาตรา 1465 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พิพากษายืน ( ประสิทธิ์ แสนศิริ - สมภพ โชติกวณิชย์ - ทวิช กำเนิดเพ็ชร์ ) |