ReadyPlanet.com


สัญญาก่อนสมรส ตกลงให้ทรัพย์สินส่วนตัวตกเป็นสินสมรส


สามีภริยา ตกลงทำสัญญาก่อนสมรส ว่า ให้ทรัพย์สินส่วนตัวของสามี ตกเป็นสินสมรส หากสามีไม่ปฏิบัติตามจะฟ้องร้องบังคับคดีกันได้รหรือไม่


ผู้ตั้งกระทู้ วราภรณ์ :: วันที่ลงประกาศ 2009-06-20 20:29:52


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1953090)

มาตรา 1465 ถ้าสามีภริยามิได้ทำสัญญากันไว้ในเรื่องทรัพย์สินเป็น พิเศษก่อนสมรส ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยาในเรื่องทรัพย์สินนั้น ให้บังคับ ตามบทบัญญัติในหมวดนี้


ถ้าข้อความใดในสัญญาก่อนสมรสขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน หรือระบุให้ใช้กฎหมายประเทศอื่นบังคับเรื่องทรัพย์สิน นั้น ข้อความนั้น ๆ เป็นโมฆะ


มาตรา 1466 สัญญาก่อนสมรสเป็นโมฆะ ถ้ามิได้จดแจ้งข้อตกลงกันเป็น สัญญาก่อนสมรสนั้นไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส หรือ มิได้ทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อคู่สมรสและพยานอย่างน้อยสองคนแนบไว้ ท้ายทะเบียนสมรส และได้จดไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียน สมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้

หากเป็นกรณีที่คู่สมรสจดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466 เมื่อไม่ปรากฏว่ามีข้อความขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมมีผลใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465 วรรคสอง

หากสามีไม่ปฏิบัติตามจึงฟ้องบังคับกันได้ตามสัญญา

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-06-20 21:09:05


ความคิดเห็นที่ 2 (1953091)

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายในวันจดทะเบียนสมรสโจทก์กับจำเลยได้ทำบันทึกท้ายทะเบียนสมรสโดยจำเลยตกลงจะยกที่ดินโฉนดเลขที่ 119212 พร้อมบ้านสองชั้นหนึ่งหลังซึ่งเป็นของจำเลยให้เป็นสินสมรส โจทก์จึงมีสิทธิใส่ชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยในที่ดินพร้อมบ้านได้ ขอให้บังคับจำเลยจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยคนละครึ่งหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

จำเลยให้การว่า ที่ดินและบ้านจำเลยซื้อมาก่อนสมรสจึงตกเป็นสินส่วนตัว บันทึกดังกล่าวระบุให้เป็นสินสมรส จึงขัดกับกฎหมายและไม่มีผลใช้บังคับ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนใส่ชื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมกับจำเลยคนละครึ่งในโฉนดที่ดินเลขที่ 119212 พร้อมบ้าน 2 ชั้น เลขที่ 18/72 หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยเมื่อจำเลยต้องการให้เป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับจำเลยถือได้ว่าโจทก์และจำเลยได้ทำความตกลงในเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ฉะนั้น เมื่อจำเลยได้ให้ข้อสัญญาว่าบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยให้เป็นสินสมรส จึงเป็นกรณีที่คู่สมรสได้จดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรส ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1466 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ สัญญาดังกล่าวไม่ปรากฏว่ามีข้อความขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมมีผลใช้บังคับได้ตามมาตรา 1465 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

พิพากษายืน

( ประสิทธิ์ แสนศิริ - สมภพ โชติกวณิชย์ - ทวิช กำเนิดเพ็ชร์ )

 

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6711/2537

 

การที่โจทก์จำเลยทำความตกลงในเรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา โดยจำเลยให้สัญญาว่าบ้านพร้อมที่ดินซึ่งเป็นสินส่วนตัวของจำเลยให้เป็นสินสมรส จึงเป็นกรณีที่คู่สมรสจดแจ้งข้อความอันเป็นสัญญาก่อนสมรสไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1466 เมื่อไม่ปรากฏว่ามีข้อความขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ย่อมมีผลใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465 วรรคสอง

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-06-20 21:10:29



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล