อำนาจฟ้อง | |
นายเอกกับนางเอี้ยงเป็นสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส เกิดบุตร 1 คน คือเด็กชายอ๊อด 5 ปี นายอบขับรถยนต์ชนเด็กชายอ๊อด นายเอกได้เป็นโจทก์ดำเนินคดีแทนเด็กชายอ๊อดฟ้องนายอบให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน นายอบให้การต่อสู้ว่า นายเอกมิใช่บิดาและผู้ปกครองเด็กชายอ๊อด เพราะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายเอี้ยงจึงไม่มีอำนาจฟ้องเมื่อนายอบให้การดังกล่าวแล้ว นายเอกกับนางเอี้ยงได้ไปจดทะเบียนสมรส นายอบคัดค้านว่า การจดทะเบียนสมรสมีผลนับแต่วันจดทะเบียนเป็นต้นไปเท่านั้น หามีผลย้อนหลังไปถึงวันยื่นฟ้องไม่ดังนี้การฟ้องคดีของนายเอกสมบูรณ์หรือไม่ | |
ผู้ตั้งกระทู้ สา :: วันที่ลงประกาศ 2008-09-02 08:19:48 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1829789) | |
มาตรา 1547 เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบ ด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลัง หรือบิดาได้จด ทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร มาตรา 1557 การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 1547 ให้มีผลนับแต่วันที่เด็กเกิด แต่ทั้งนี้จะอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตในระหว่างเวลาตั้งแต่เด็กเกิดจนถึงเวลาที่บิดามารดาได้สมรสกันหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตรไม่ได้ ตามที่ถามมานั้น เมื่อบิดามารดาของบุตรผู้ตายสมรสกันภายหลังย่อมมีผลย้อนไปถึงเวลาที่ผู้ตายเกิดเมื่อย้อนไปถึงผู้ตายเกิดย่อมเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายที่แท้จริงได้
มาตรา 5 บุคคลเหล่านี้จัดการแทนผู้เสียหายได้ การที่นายเอก บิดาไม่ใช่บิดาขณะยื่นฟ้องศาลมีอำนาจสั่งให้แก้ไขความบกพร่องในเรื่องความสามารถ(อำนาจฟ้อง) ได้ภายในเวลาที่ศาลกำหนดได้ เทียบเคียงแนวฎีกา ฎีกาที่ 2741/2532 โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกกระทำละเมิดได้ยื่นฟ้องโดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ฟ้องคดีแทน แม้ขณะยื่นฟ้องบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้องซึ่งอาจแก้ไขให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้ ดังนั้นเมื่อบิดามารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นแล้วเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมหมดไป
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-09-02 11:47:51 |
[1] |