ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย article

ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย    เรียนภาษาอังกฤษแนวต่อยอดคำศัพย์                                                                                   

-ทิ้งฟ้อง

//  abandon       = สละละทิ้ง, ทิ้ง (ฟ้อง)

=to intentionally and permanently give up, surrender, leave,

=to stop doing something, especially before it is finished; to stop having something

** They abandoned the match because of rain.

= พวกเขาเลิกการแข่งขันเพราะฝนตก

** We had to abandon any further attempt at negotiation.

= พวกเราต้องล้มเลิกความพยายามในการเจจาต่อรองที่จะดำเนินต่อไป

** The plaintiff abandoned his plaint by neglecting to proceed with the case.

**โจทก์ทิ้งฟ้องโดยละเลยไม่ดำเนินคดีต่อไป

intentionally        =        โดยตั้งใจ, อย่างตั้งใจ, อย่างจงใจ, โดยเจตนา,       

                             =Syn.       deliberately,      intendedly,       voluntarily,

** She would never intentionally hurt anyone.

 เธอคงจะไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายใคร

//  plaintiff           = โจทก์ในคดีแพ่ง

                              =    the party who initiates a lawsuit by filing a complaint with ...

                                    คู่ความฝ่ายที่เริ่มคดีโดยยื่นคำฟ้องต่อ.....

** plaintiff (also complainant) = a person who brings a legal action against somebody in a lawcourt.

**The jury found for the plaintiff. = คณะลูกขุนรับฟังข้อเท็จจริงจากโจทก์

// plaint       = คำฟ้องแพ่ง

**supplementary plaint = คำฟ้องเพิ่มเติม

** The plaint shall set forth clearly the nature of the plaintiff's claims and of the relief applied for, as well as the allegations on which such claims are based. = คำฟ้องต้อแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น

// neglect      = ประมาทเลินเล่อ, ละเลย, เพิกเฉย

** The surety neglects to set up defence of the debtor against the creditor. = ผู้ค้ำประกันละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้สู้เจ้าหนี้

** The plaintiff neglects to proceed with the case within the fixed time. = โจทก์เพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่กำหนด

// proceed      = ดำเนิน (คดี, กระบวนพิจารณา) จัดการ, ดำเนินการ

** We will proceed with the case. = เราจะดำเนินคดีต่อไป

** We may proceed an action against you. = เราจะดำเนินคดีกับท่าน

** The Court proceeds according to Section 74. = ศาลดำเนินการตามมาตรา 74

// case           = กรณี, คดี

** in any case = กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม

** as the case may be = แล้วแต่กรณี

** in no case = ไม่ว่ากรณี ใด ๆ

** petty-case = คดีมโนสาเร่

** non-cantentious case = คดีไม่มีข้อพิพาท

** proceedings of the case = กระบวนพิจารณาแห่งคดี

// complainant       = ผู้ร้องทุกข์

** According to English Law a complainant alleging rape, attempted rape, incitement to rape, or being an accessory to rape is allowed by statute to remain anonymous, evidence relating to her previous experience cannot be given unless the Court rules otherwise. =  

ตามกฎหมายอังกฤษผู้ร้องทุกข์ในคดีข่มขืน, พยายามข่มขืน, ยุยงให้มีการข่มขืน หรือสมรู้ในการข่มขืน ได้รับอนุญาตจากกฎหมายให้ปกปิดชื่อ และไม่ให้เปิดเผยพยานหลักฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมของเธอในอดีตด้วยเว้นแต่ศาลจะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

 // legal            = ตามกฎหมาย, ตามความชอบธรรม

** legal representative = ผู้แทนโดยชอบธรรม

// legal aid       = การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย เช่น ทนายความว่าความให้ลูกความที่เป็นคนยากจนโดยไม่คิดค่าว่าความ

// legal estate     = หมายถึงสิทธิในที่ดินตามกฎหมายอังกฤษซึ่งคอมมอนลอว์รับรอง ต่างกับ equitable estate ซึ่งเป็นสิทธในที่ดินทางเอควิตี้

// legal right      = หมายถึงสิทธิที่ประชาชนมีอยู่ตามกฎหมาย

// law court (lawcourt) = ศาล

** His law office is situated near law courts = สำนักกฎหมายของเขาตั้งอยู่ใกล้ศาล

// jury    = คณะลูกขุน

** jury box = ที่นั่งสำหรับคณะลูกขุนขณะพิจารณาคดี

// find    = รับฟัง (ข้อเท็จจริง)

** The Appeal Court is bound by the facts as found by the Court of Fist Instance. = ศาลอุทธรณ์ต้องถือตามข้อเท็จจริงที่รับฟังมาโดยศาลชั้นต้น

// set forth   = ระบุ, เขียนให้ชัดเจน

**Every plaint sould set forth a summary of facts or points of law relied upon. = คำฟ้องทุกฉบับควรระบุให้ชัดเจนซึ่งข้อเท็จจริงโดยย่อและข้อกฎหมายที่อ้างอิง

// nature = สภาพ, ลักษณะ

** The accused did not know the nature and illegality of his act while he was committing such offence. = จำเลยไม่รู้ถึงสภาพและความผิดกฎหมายแห่งการกระทำของตนในขณะที่เขาทำความผิดนั้น

** The Appeal Court, on the grounds relating to the nature of the offence, has the power to give judgment to the other accused who did not appeal. = ในส่วนที่เกี่ยวกับลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์

// claim       = สิทธิเรียกร้อง, ข้อเรียกร้อง, การเรียกร้อง, คำฟ้อง

** His claim is barred by prescription. = สิทธิเรียกร้องของเขาขาดอายุความ

** Such claim must be entered not later than one year after the date of contravention. = การฟ้องร้องต้องกระทำไม่ช้ากว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ฝ่าฝืน

** claim for divorece = คำฟ้องหย่า

** claim for rent = คำฟ้องเรียกค่าเช่า

// relief     = การหลุดพ้นจาก (ภาระ, ความทุกข์ยาก ) การปลดเปลื้องทุกข์, คำขอปลดเปลื้องทุกข์

** The owner of the servient property obtains a total relief from the servitude by payment of compensation. = เจ้าของภารยทรัพย์หลุดพ้นจากภาระจำยอมด้วยการชดใช้เงินค่าทดแทน

** The judgment creditor who has suffered damage may apply by motion to the Court for relief. = เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ได้รับความเสียหายอาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ปลดเปลื้องทุกข์

** The cases where relief applied for can be computed in terms of money. =

คดีที่มีคำขอปลดเปลื้องทุกข์อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้

// apply = ใช้บังคับ, ยื่นคำร้อง

**In this case, the foregoing Section shall apply. = ในกรณีนี้ให้นำมาตราก่อนมาใช้บังคับ

** The defendant applies by motion to the Court for the case to be transferred to the Civil Court. = จำเลยยื่นคำร้องโดยทำเป็นคำขอต่อศาลขอให้โอนคดีไปยังศาลแพ่ง

// allegation = การกล่าวหา, ข้อกล่าวหา, การกล่าวอ้าง

** The plaintiff adduced an evidence in support of his allegation. =

โจทก์นำพยานหลักฐานอันหนึ่งเข้าสืบเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวอ้างของเขา

// surety = ผู้ค้ำประกัน

** surety for another surety = ผู้รับเรือน (ผู้ค้ำประกันของผู้ค้ำประกัน)

** If several persons make themselves sureties for the same obligation, they are liable as joint debtors. = ถ้าบุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกัน ผู้ค้ำประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน

// set up against = ยกขึ้นต่อสู้

** The surety may set up against the creditor defences of the debtor. =

             ผู้ค้ำประกันอาจยกข้อต่อสู้ของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้เจ้าหนี้

// defence = ข้อต่อสู้, ข้อแก้ตัว, การป้องกัน

** The defendant puts up a defecnce constituting a contention as to ownership. =

                        จำเลยยกข้อต่อสู้เป็นข้อพิพาทเกี่ยวด้วยกรรมสิทธิ์

** self defence = การป้องกันตน

** In order that a homicide may be justifiable on the ground of self-defence, the accused must have believed on reasonable ground that his life was in danger, and the force used by him must have been reasonably necessary for his protection. =

การที่ความผิดฐานฆ่าคนตายจะมีข้อแก้ตัวได้ว่าป้องกันตนเอง จำเลยจะต้องมีเหตุผลเชื่อว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย และเขาได้ใช้กำลังเท่าที่จำเป็น อย่างมีเหตุผล  เพื่อป้องกันตนเอง

** คำว่า defence ในคำแปลภาษาอังกฤษประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและความอาญาของไทย หมายความถึง "ข้อต่อสู้" เช่นในคดีอาญาเมื่อโจทก์และจำเลยมาอยู่ต่อหน้าศาลและศาลเชื่อว่าเป็นจำเลยจริง   ศาลจะอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง and then asks whether or not he has committed the offcence and what will be his defence คือถามเชาว่าได้ทำผิดจริงหรือไม่ จะมีข้อต่อสู้อย่างไรบ้าง จำเลยให้การอย่างไรให้จดไว้ ส่วนในคดีแพ่ง ข้อต่อสู้ของจำเลยก็ต้องกล่าวไว้ในคำให้การที่ยื่นต่อศาล (a defendant must set fort his defence in the answer submitted to the Court) แต่ในกฎหมายอังกฤษ คำว่า defence หมายถึง คำให้การของจำเลยในคดีแพ่งด้วย

// debtor = ลูกหนี้

** joint debtor = ลูกหนี้ร่วม

** judgment debtor = ลูกหนี้ตามคำพิพากษา

// creditor = ผู้ให้สินเชื่อ, เจ้าหนี้

** ordinary creditor = เจ้าหนี้สามัญ

** secured creditor = เจ้าหนี้มีประกัน

** judgment creditor = เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา

// fix = กำหนด

** The Court fixes the day for settlement of issues. = ศาลกำหนดนัดวันชี้สองสถาน

** Fixed term of the lease is three years. = ระยะเวลาที่กำหนดของสัญญาเช่า คือ สามปี

// allege = กล่าวหา, กล่าวอ้าง

** He is alleged of having committed an offence. = เขาต้องหาว่าได้กระทำความผิด

** Any party alleges any fact, the burden of proof lies on such party. = คู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างข้อเท็จจริงอันใด หน้าที่นำสืบตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายนั้น

// alleged offender = ผู้ต้องหา (ว่าได้กระทำความผิด)

** When a person appearing before the inquiry official happens to be the alleged offender, the inquiry official shall inform him of the offence charged and he shall be made aware that whatever he shall say may be used as evidence against him in the trial. = เมื่อปรากฎว่า ผู้ใดที่มาอยู่ต่อหน้าพนักงานสอบสวนเป็นผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาให้ทราบและบอกให้เขาทราบก่อนว่าถ้อยคำที่เขากล่าวนี้อาจใช้เป็นพยานหลักฐานปรักปรำเขาได้ในการพิจารณาคดี

// rape      = ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา

** A man who has sexual intercourse with a woman against her will is guilty of rape. = ชายผู้ซึ่งร่วมประเวณีกับหญิงโดยหญิงมิได้ยินยอม มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา

// attempt      = (noun) การพยายาม

** An attempt to commit an offence is liable to two thirds of punishment provided for such offence. = การพยายามกระทำความผิดมีโทษสองในสามที่กำหนดสำหรับความผิดนั้น

// attempt      = (verb) พยายาม

** He attempts to commit an offence. = เขาพยายามกระทำความผิด

// incite       = (verb) ยุยง, ชักชวน (ให้กระทำผิด)

** He incited a servant to steal his master's property. = เขายุยงให้ คนใช้ ลักทรัพย์ของนายจ้าง

// incitement      = (noun) การยุยง, การชักชวน (ให้กระทำผิด)

** Incitement may be by means of persuasion, threats, by words or by implication. = การยุยงอาจเป็นโดยการชักชวน การข่มขู่ ด้วยวาจาหรือด้วยการกระทำเช่นนั้นโดยปริยาย

// Accessory       = ในกฎหมายอังกฤษหมายถึงผู้สมรู้ในการกระทำความผิดโทษ อาจสมรู้ก่อนการกระทำผิด (before the fact) หรือหลังการกระทำผิด (atfer the fact) ด้วยการจัดหาเครื่องมือ, ให้คำปรึกษา, สั่งการ หรือช่วยอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้อยู่ด้วยในขณะกระทำความผิด

// accessory      = เครื่องอุปกรณ์, ค่าอุปกรณ์

** Accessories are attached to the principal thing. = เครื่องอุปกรณ์ติดอยู่กับตัวทรัพย์อันเป็นประธาน

** The debtor must pay the whole debt and accessories that are interest and compensation. = ลูกหนี้ต้องชำระหนี้ทั้งหมดกับค่าอุปกรณ์ คือดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน

** accessory part = ส่วนที่เป็นอุปกรณ์

// allow       = ยอมรับว่า (ข้อเรียกร้อง) ฟังได้

** The Court gave juddgment for the plaintiff, the defendant apperaled, his appeal was allowed. = ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยอุทธรณ์ จำเลยชนะคดี ในชั้นอุทธรณ์

// statute      = กฎหมายที่ตราขึ้นใช้บังคับ

** Statutes consist of Acts of Parliament and subordinate legislation. = กฎหมายประกอบด้วย พระราชบัญญัติที่ผ่านรัฐสภา และกฎหมายระดับรองลงมา (เช่นพระราชกฤษฎีกา, กฎกระทรวง)

// remain      = คงอยู่ที่เดิมหรือคงสภาพเดิม

** to remain silent. = ยังคงคงเงียบอยู่

// anonymous      = (ใช้กับคน) ไม่รู้จักชื่อหรือปกปิดชื่อ

** An anonymous caller told the police that a robbery was going to take place. = บุคคลผู้ไม่ประสงค์จะออกนามโทรแจ้งตำรวจว่าจะมีการปล้นเกิดขึ้น

// evidence      = (noun) พยานหลักฐาน

** The enquiry official shall collect every kind of evidence in order to know the facts and circumstances relating to the alleged offence. = ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา

** documentary evidence = พยานเอกสาร

** oral evidence = พยานบุคคล

** material evidence = พยานวัตถุ

** to take evidence = สืบพยาน

** Evidence may be classified into direct and circumstantial evidence. Evidence is said to be "direct" when it consists of testimony concerning perception of fact in issue, and "circumstantial" when it consists of evidential facts. =

พยานหลักฐานอาจจำแนกออกได้ว่าเป็นพยานหลักฐานโดยตรงหรือพยานแวดล้อม พยานหลักฐานเรียกว่าเป็นพยาน "โดยตรง" เมื่อประกอบด้วยหลักฐานอันเกี่ยวกับการได้เห็นได้ยินข้อเท็จจริงในประเด็น, เป็นพยาน "แวดล้อม" เมื่อประกอบด้วยข้อเท็จจริงอันเป็นพยานหลักฐานประกอบ

** The rule of primary and secondary evidence is now mainly important in relation to documents which must generally be proved by original which is primary evidence, copy which is secondary evidence was always excluded when primary evidence was available. =

หลักอันเกี่ยวกับพยานหลักฐานชั้นหนึ่งและชั้นสองในปัจจุบันส่วนใหญ่มีความสำคัญเกี่ยวกับเอกสารซึ่งโดยทั่วไปจะต้องพิสูจน์โดยต้นฉบับอันเป็นพยานหลักฐานชั้นหนึ่ง ส่วนสำเนาเอกสารซึ่งเป็นหลักฐานชั้นสองจะถูกตัดออกเสมอในเมื่อมีพยานหลักฐานชั้นหนึ่งมาแสดง

// evidence      = (verb) มีพยานหลักฐาน

** The obligation is evidenced by writing. = หนี้มีหลักฐานเป็นหนังสือ

** The transaction is required to be evidenced by writing. = กิจการนี้ถูกบังคับว่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ

// evidence in rebuttal      = หมายถึงกรณีที่ศาลอนุญาตให้คู่ความฝ่ายที่สืบพยานของฝ่ายตนเสร็จไปแล้วนำพยานมาสืบเพิ่มเติมอีก พยานที่นำมาสืบเพิ่มเติมนี้นอกจากจะสนับสนุนข้ออ้างของฝ่ายที่นำสืบแล้ว ยังหักล้าง (rebut) พยานหลักฐานของฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย

// relate       = เกี่ยวข้องกับ

** offences relating to justice = ความผิดเกี่ยวกับการยุตธรรม

** the law relating thereto = กฎหมายว่าด้วยการนั้น

** the regulation relating thereto = ข้อบังคับเกี่ยวกับการนั้น

// previous      = ที่มาหรือที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น

** Do you have previous experience of this type of work? = คุณเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับงานประเภทนี้หรือไม่?

// previous conviction      = การต้องโทษในอดีต

** A previous conviction may be proved when required to discredit a witness. = เมื่อต้องการจะทำให้พยานขาดความน่าเชื่อถืออาจพิสูจน์ว่าพยานเคยต้องโทษมาในอดีต

// rule        = (verb) วินิจฉัยชี้ขาด, ออกกฎระเบียบ

** The judge ruled that he was the putative father of the child. = ผู้พิพากษาได้วินิจฉัยว่าเขาเป็นบิดาของเด็ก (ที่เกิดนอกสมรส)

** The court makes an order of ruling concerning the conduct of the case. = ศาลได้ออกคำสั่งหรือคำชี้ขาดเกี่ยวกับการดำเนินคดี

// rule       = (noun) ข้อบังคับ, กฎ, ระเบียบ

** rules as to etiquette at the Bar = ระเบียบเกี่ยวกับมารยาทของเนติบัณฑิต

** rule of Supreme Court (R.S.C.) = คือคำสั่งของศาลสูงสุด (ของอังกฤษ) กำหนดระเบียบวิธีพิจารณาคดีในศาล

// otherwise       = ให้แตกต่างไปเป็นอย่างอื่น

** Unless the Court rules otherwise. = เว้นแต่ศาลจะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

// representative       = ผู้แทน

** representative ad litem = ผู้แทนเฉพาะคดี

** legal representative = ผู้แทนโดยชอบธรรม

** All acts done by a minor without the consent of his or her legal representative are voidable. = การใดอันผู้เยาว์ได้กระทำลงโดยปราศจากความเห็นชอบของผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมเป็นโมฆียะ

// estate      = คำนี้มีความหมายหลายอย่าง

1. หมายถึงกองมรดก

** This house is only a part of the asset of his estate. = บ้านหลังนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสินทรัพย์แห่งกองมรดกของเขา

** A creditor of the estate may enforce his claim against the heir. = เจ้าหนี้กองมรดกอาจบังคับสิทธิเรียกร้องของเขาเอาจากทายาท

2. หมายถึงทรัพย์สินทั้งหมดที่บุคคลหนึ่งมีอยู่ ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์เรียกว่า personal estate ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์เรียกว่า real estate

3. ตามกฎหมายอังกฤษหมายถึงส่วนได้เสียในที่ดิน เช่น estate in fee simple หมายถึงส่วนได้เสียในที่ดินที่มีอยู่อย่างเด็ดขาด (absolute) เจ้าของอาจขายหรือตกเป็นมรดกแก่ทายาทได้ ถ้าเป็น estate in fee tail เจ้าของส่วนได้เสียในที่ดินมีอยู่เฉพาะตัวเจ้าของส่วนได้เสียกับทายาทอันเกิดจากตัวเขาเท่านั้น หลังจากนั้นจะกลับไปเป็นของเจ้าของเดิม ถ้าเป็น estate for life เจ้าของส่วนได้เสียในที่ดินมีส่วนได้เสียชั่วชีวิตของเขาเท่านั้น

// estate      = (law) all the money and property that a person owns, especially that which is left at her of his death.

** Her estate was divided between her four children.

// right        = สิทธิ

** Every person, in the exercise of his rights, must act in good faith. = ในการใช้สิทธิของตน ทุกคนร้องกระทำโดยสุจริต

** real right = ทรัพยสิทธิ

** personal right = บุคคลสิทธิ

** right of recourse = สิทธิไล่เบี้ย

** right of claim = สิทธิเรียกร้อง

** right of privacy = สิทธิในึความเป็นอยู่ส่วนตัว

** right of entry = สิทธิที่จะเข้าไป (ในที่ดิน, อาคารบ้านเรือนคนอื่น)

** right of retention = สิทธิยึดหน่วง

** right represented by a written instrument = สิทธิอันมีตราสาร

** right of inheritance = สิทธิรับมรดก

** preferential right = บุริมสิทธิ

** statutory right = สิทธิโดยธรรม (ในมรดก)

// right       = a just, proper or legal claim; a thing that one is entitled to do or have by law.

** What right have you/What gives you the right to do that?

** You have no right to stop me from going in there.

** exercise one's legal rights.

** have no rights as a US citizen.

** animal rights campaigners.

** the right to remain silent.

** Everyone has a right to a fair trial.

** Do the police have the right of arrest in this situation?

** He's quite within his rights to demand an enquiry.

** I know my rights.

// rights      = a legal authority or claim to something.

** buy/ownthemovie/translation/foreign rights

** all rights reserved.

// right       = (adjective) ที่ถูกต้อง, ที่ชอบ

** Keep on the right side of the law. = จงหย่าทำผิดกฎหมาย

// situated        = ที่ตั้งอยู่ ณ ที่หนึ่งหรือที่ตำแหน่งหนึ่ง

** The hotel is conveniently situated close to the beach.

// The Appeal Court = ศาลอุทธรณ์

// the Court of Fisrst Instance = ศาลชั้นต้น

// appeal      = (noun) อุทธรณ์

** An appeal shall lie to the Appeal Court against any judgment of the Court of First Instance. = อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยื่นต่อศาลอุทธรณ์

** a petition of appeal = ฟ้องอุทธรณ์

// appeal      = (verb) ยื่นอุทธรณ์

** The Civil Court gave judgment for the plaintiff, the defendant appealed. = ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยยื่นอุทธรณ์

// appeal (law) = an act of asking for a legal case to be judged again.

** lodge an appeal.

** have the rgiht of appeal.

** an appeal court

// summary    = ซึ่งสรุปรวบรัด

 ** summary trial = การพิจารณาคดีโดยรวบรัด

 ** summary jurisdiction = อำนาจการพิจารณาคดีดดยรวบรัด

 ** summary of facts = ข้อเท็จจริงโดยย่อ

// point       = ข้อ, แง่

 ** point of fact = ข้อเท็จจริง

 ** point of law = ข้อกฎหมาย

 ** point of dispute = ประเด็นข้อพิพาท

// rely        = เชื่อถือ, พึ่งพาอาศัย

 ** Both parties may rely upon the same evidence. = คู่ความทั้งสองฝ่ายมีสิทธิอ้างอิง (อาศัย) พยานหลักฐานอันเดียวกัน

// The accused        = จำเลยใน(คดีอาญา)

 ** The accused is brought before the Court. = จำเลยถูกนำตัวมาอยู่ต่อหน้าศาล

// illegality       = ความไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 ** This contract is unforceable because fo its illegality. = สัญญานี้บังคับใช้ไม่ได้ เพราะเป็นสัญญาไม่ชอบด้วยกฎหมาย

// commit       = กระทำ

 ** He has just committed an offence. = เขาเพิ่งได้กระทำความผิด

// offence      = ความผิด

 ** Where an offence has been commited, the wrongdoer is liable to punishment. = เมื่อมีการกระทำผิด ผู้กระทำผิดย่อมต้องรับโทษ

 ** compoundable offence = ความผิดอันยอมความได้

 ** non-compoundable offence = ความผิดที่ยอมความกันไม่ได้

 ** several distinct and different offences = ความผิดหลายกรรมต่างกัน

 ** flagrant offence = ความผิดซึ่งหน้า

 ** offence committed by negligence = ความผิดกระทำโดยประมาท

 ** property obtained throught an offence = ทรัพย์ได้มาโดยการกระทำผิด

 ** property which its possession constitutes an offence. = ทรัพย์ซึ่งมีไว้เป็นความผิด

 ** petty offence = ความผิดลหุโทษ

 ** serious offence = ความผิดอุกฉกรรจ์

// ground      = มูล, มูลเหตุ

 ** on the ground that... = โดยอาศัยมูลที่ว่า....

 ** without legal ground = ปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้

 ** on legitimate round = อาศัยมูลอันชอบด้วยกฎหมาย

 ** on the ground of prescription = อาศัยมูลแห่งอายุความ

 ** sufficient ground = มีมูลพอ

 ** reasonable ground = มูลเหตุอันสมควร

 ** ground of challenge = มูลเหตุแห่งการคัดค้าน(ผู้พิพากษา)

 ** ground of avoidance = มูลแห่งการบอกล้าง, มูลอันจะบอกล้างได้

 ** He has reasonable grounds to believe that his act was within his authority. = เขามีมูลเหตุอันสมควรที่จะเชื่อว่าการกระทำของเขาอยู่ภายในขอบอำนาจ

 ** When prescription has not been set up as a defence, the Court cannot dismiss the claim on the ground of prescription. = เมื่อ (จำเลย) ไม่ได้ยกเอาอายุความเป็นข้อต่อสู้ ศาลจะอ้างเอาอายุความมาเป็นมูลยกฟัองไม่ได้

 ** A creditor is in default if, without legal ground, he does not accept the performance tendered to him. = ถ้าลูกหนี้ขอปฏิบัติการชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ และเจ้าหนี้ไม่รับชำระหนี้โดยปราศจากมูลเหตุอันจะอ้างตามกฎหมายได้ ท่านว่าเจ้าหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัด

 ** The creditor can demand interest during default higher than 7.5 percent per annum on any legitimate ground. = เจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดในอัตราสูงกว่าร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยอาศัยมูลอันชอบด้วยกฎหมาย

 ** The third person has reasonable grounds to believe that the agent has acted within his authority. = บุคคลภายนอกมีมูลเหตุอันสมควรที่จะเชื่อว่าตัวแทนได้กระทำการภายในขอบอำนาจของเขา

** Any judge may be challenged on any of the following grounds. = ผู้พิพากษาอาจถูกคัดค้านได้ในเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้

// judgment      = คำพิพากษา

** Judgment of death = คำพิพากษาประหารชีวิต

** judgment debtor = ลูกหนี้ตามคำพิพากษา

** Judgment was given for the plaintiff by a majority. = ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยเสียงข้างมาก

** Judgment was entered for the defendant. = ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะคดี

** The Court gave judgment for the defendant. = ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะคดี

** The Court gave judgment in favour of Mr. A. = ศาลพิพากษาให้ มิสเตอร์ เอ ชนะคดี

** Mr. A obtained judgment against Mr. B. = มิสเตอร์ เอ ชนะคดีมิสเตอร์ บี

// bar      (noun)      = ตามกฎหมายอังกฤษมีความหมายหลายอย่าง

** หมายถึงที่ที่จำเลยมายืนรับฟังการพิจารณาคดี = prisoner at bar

** หมายถึงที่ที่ทนายความมายืนว่าความให้แก่ลูกความในศาล ฉะนั้น จึงเรียกทนายความว่า barrister

** หมายถึงสถาบันวิชาชีพของทนายความที่เรียกว่าเนติบัณฑิตยสภา

** หมายถึงการพิจารณาคดีของลูกขุน = trial at bar

** หมายถึงร้านขายสุราซึ่งได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

** The principles governing practice rules relating the conduct and etiquiette at the Bar were laid down by the General Council of the Bar. =

หลักเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับความประพฤติและมารยาทในการว่าความได้ถูกตราขึ้นโดยคณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา

// bar       (verb) = ห้าม, ตัดสิทธิ

** A claim is barred by prescription. = การฟ้องตามสิทธิเรียกร้องกระทำไม่ได้โดยอายุความ

** He is barred from bringing an action by presription. = เขาถูกตัดสิทธิไม่ให้ฟ้องคดี เพราะขาดอายุความ

// prescription      = อายุความ (ทางแพ่ง หรือทางอาญา)

** The right under the contract has been lost by prescription. = สิทธิตามสัญญานั้นสูญสิ้นไปแล้วเพราะอายุความ

** The prosecution is precluded by prescription. = การฟ้องคดีอาญาถูกจำกัด (ห้าม) โดยอายุความ

** The case is barred by prescription. = คดีขาดอายุความ

** acquisitive prescription = อายุความได้สิทธิ

// enter       = ยื่นเอกสาร, ฟ้องคดี, ทำสัญญา, ลงบัญชี, (คำพิพากษา) ให้ชนะคดี

** Had he known of the fact, he would not have entered into the contract. = ถ้าเขาได้ทราบข้อเท็จจริง เขาคงไม่เข้าทำสัญญา

** No action can be entered later than ten years after such act. = ห้ามไม่ให้ฟัองคดีเมื่อพ้นสิบปีหลังจากเกิดการกระทำเช่นนั้น

** The bank has entered this item in the current account. = ธนาคารได้ลงรายการนี้ในบัญชีกระแสรายวัน

** The Public Prosecutor shall not enter a charge in Court without inquiry having been held. = ห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาลโดยมิได้มีการสอบสวนเกี่ยวกับข้อหานั้นก่อน

** The judgment is entered for the defendant. = ศาลพิพากษาให้จำเลยชนะคดี

// contravention       = การฝ่าฝืน

** He has acted in contravention of the law. = เขาได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย

// divorce       = การหย่า

** action for divorce = คดีฟ้องหย่า

** divorce by mutual consent = การหย่าโดยความยินยอมทั้งสองฝ่าย

** divorce by judgment = การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล

** Divorce may be effected only by mutual consent or by judgment of the court. = การหย่าจะทำได้แต่โดยความยินยอมทั้งสองฝ่ายหรือโดยคำพิพากษาของศาล

** If one spouse has deserted the other for more than one year the other may enter an action for divorce. =

ถ้าสามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินกว่าหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่งฟัองหย่าได้

//division       = การแบ่ง

** division per stirpes = การแบ่งมรดกตามสายเครือญาติ (ซึ่งมีการรับมรดกแทนที่กันได้)

** division per capita. = การแบ่งมรดกโดยอาศัยสิทธิของตนเอง (ไม่รับแทนที่ผู้อื่น)

** Division of estate between the statutory heirs shall be as follows. = การแบ่งมรดก ระหว่างทายาทโดยธรรมให้เป็นดังต่อไปนี้

** As between the descendants entitled by way of representation to the division per stirpes, if there are descendants of different degrees, only the children of the deceased who are the nearest in degree are entitled to receive the inheritance. =

ระหว่างผู้สืบสันดานที่รับมรดกแทนที่กันในส่วนหนึ่งของสายหนึ่ง ๆ ถ้าผู้สืบสันดานต่างชั้นกันบุตรของผู้ตายที่อยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก

// servient property (or servient tenement)         =ภารยทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยภาระจำยอม

// servitude       = ภาระจำยอม

** The owner of the immovable property subjected to a servitude is bound to suffer certain acts affecting his property for the benefit of another immovable property. =

เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ตกอยู่ในภาระจำยอมต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตนเพื่อประโยขน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น

// obtain      = ได้รับ

** to obtain advice = ได้รับคำแนะนำ

** to obtain information = ได้รับข้อมูลข่าวสาร

// compensation         = ค่าสินไหมทดแทน

** compensation for the injury = ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหาย

** Compensation is monetary payment to compensate for loss and damage. = ค่าสินไหมทดแทน คือการจ่ายเงินเพื่อชดเชยความสูญเสียหรือความเสียหาย

// suffer        = ได้รับ (ผลร้าย)

** He is discharged from the obligation to the extent of the injury suffered by him. = เขาหลุดพ้นจากหนี้เท่าที่เขาได้รับความเสียหาย

** He is bound to suffer certain acts affecting his property. = เขาผูกพันต้องรับกรรมบางอย่างที่กระทบทรัพย์สินของเขา

// motion         = ดุลพินิจ, ความดำริริเริ่ม, คำร้องที่ยื่ต่อศาล, ญัตติที่ยื่นต่อที่ประชุม

** The Court may, of its own motion, issue an order, = ศาลอาจใช้ดุลพินิจของศาลแล้วออกคำสั่ง

** of its own motion = ด้วยดุลพินิจของศาลเอง

** He files a motion for summon. = เขายื่นคำร้องเพื่อขอให้ออกหมายเรียก

** He applies to the Court by motion. = เขายื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาล

** A member of the House fo Representtives has submitted a motion abridging the expenditures. = สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอแปรญัตติตัดทอนรายจ่าย

** A motion for amendment must be presented by any member. = ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากสมาชิกผู้ใดผู้หนึ่ง

// compute           = คำนวณ = to calculate something, especially with a computer

** Scientists can accurately compute the course of the rocket. นักวิทยาศาสตร์สามารถคำนวณแนววิถีการเดินทางของขีปนาวุธได้อย่างแม่นยำ

** He computed his losses at 500,000 baht. = เขาคำนวณความเสียหายของเขาที่ห้าแสนบาท

// foregoing         = ที่กล่าวข้างต้น

** The Court shall proceed with the case as provided in the foregoing paragraph. = ให้ศาลดำเนินคดีไปดังที่บัญญัติไว้ในวรรคก่อน

// section          = มาตรา

** The provision of Section 681 shall apply mutatis mutandis. = ให้นำเอามาตรา 681 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

** Sub-Section = อนุมาตรา

** Section 193 bis and ter of the Criminal Procedure Code. = มาตรา 193 ทวิ และ ตรี แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

// damage        = ความเสียหาย

** An employer is liable for damage done by his employee in the course of his employment. =

นายจ้างต้องรับผิดเพื่อความเสียหายที่ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้าง

** The rule as to the remoteness of damage will be discussed. The distinction between the remote and proximate damage is very hard to draw. =

กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับความเสียหายที่ห่างไกลจะได้รับการพิจารณา ความแตกต่างระหว่างความเสียหายที่ห่างไกลกับความเสียหายที่ใกล้ชิดนั้นยากที่จะขีดเส้นให้เห็นได้

// damages        = ค่าเสียหาย (ขอให้สังเกตว่าอยู่ในรูปของ "พหูพจน์" เสมอ)

** The claim for damages is barred by prescription after ten years from the day when the wrongful act was commiitted. =

สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายขาดอายุความเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันที่ทำละเมิด

** Where the parties agree beforehand what sum shall be payable by way of damages in the event of breach, it is called liquidated damages. =

ในกรณีที่คู่สัญญาตกลงกันไว้ล่วงหน้าว่า ในกรณีผิดสัญญาจะจ่ายค่าเสียหายกันเท่าใด เรียกว่าค่าเสียหายที่ตกลงกันไว้

** nominal damages = ค่าเสียหายในนาม (พอเป็นพิธี)

** The main purpose of awarding damages in tort, as in the case of breach of contract, is to compensate the plaintiff for the loss he has suffered. =

วัตถุประสงค์ใหญ่ของการจ่ายค่าเสียหายทางละเมิดก็เหมือกรณีผิดสัญญาคือเพื่อชดใช้ความสูญเสียที่โจทก์ได้รับ

** Nominal damages are awarded when the plaintiff can prove that his right has been infringed, but is unable to prove any actual damages. = ค่าเสียหายแต่เพียงในนามจะจ่ายให้ต่อเมื่อโจทก์พิสูจน์ได้เพียงว่าเขาถูกละเมิดสิทธิ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ความเสียหายอันแท้จริง

// defendant          = จำเลย (ในคดีแพ่ง)

** ตามกฎหมายอังกฤษคำนี้หมายถึงจำเลยคดีอาญาที่ถูกฟ้อง ในความผิดโทษเบา (misdemeanour) ด้วย

** joint defendant = จำเลยร่วม

// transfer         = (verb) โอน

** A claim may be transfered. = สิทธิเรียกร้องอาจโอนกันได้

** She had transferred her house to her daughter before she died. = เธอได้โอนบ้านของเธอให้ลูกสาวก่อนเธอตาย

// transfer        = (noun) การโอน

** the transfer of the ownership of the property = การโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สิน

** No transfer of immovable property is complete unless is made in writing and is registered by the competent official. =

การโอนอสังหาริมทรัพย์ย่อมไม่สมบูรณ์ เว้นแต่จะทำเป็นลายลักษณ์อักษรและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่

** The company may decline to register a transfer of shares on which a call is due. = บริษัทอาจไม่ยอมจดทะเบียนการโอนหุ้นก็ได้ หากเงินที่เรียกค่าหุ้นยังค้างชำระอยู่

** Transfer มีความหมายเป็นการโอนเหมือน assignment แต่ assignment มักจะใช้ในการโอนสิทธิเรียกร้อง (claim) โอนสิทธิต่าง ๆ เช่น โอนสิทธิตามสัญญาเช่า (assignment of lease) ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน เช่น การโอนที่ดิน, โอนบ้าน, โอนหุ้น มักใช้คำว่า transfer แต่ไม่ใช่กฎตายตัว

// adduce       = นำมา

** The accused has the right to adduce any evidence to prove his innocence. = จำเลยมีสิทธินำพยานหลักฐานใด ๆ มาสืบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา

// obligation =          หนี้

** By virtue of the obligation, the creditor is entitiled to claim performance from the debtor. =

ด้วยอำนาจแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้

** He promises to be responsible for any obligation incurred. =

เขาสัญญาว่าจะรับผิดชอบในหนี้ใด ๆ ที่เกิดขึ้น

** subject ofobligation =                วัตถุแห่งหนี้

// constitute =                          จัดตั้ง, ประกอบกันเป็น (สิ่งใดสิ่งหนึ่ง)

** The King appoints the Prime Minister and 48 Ministers to constitute a Council of Ministers. = พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี 48 คนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี

** Five members constitute a quorum. =

        สมาชิก 5 คน ประกอบเป็นองค์ประชุม

** He put up a defence constituting contention as to ownership. = 

     เขาได้ให้การต่อสู้คดีโดยยกข้อโต้แย้งเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์

** The point at issue in this case is whether the fact proved constitutes the offence charged. = ประเด็นที่สำคัญในคดีนี้คือว่า ข้อเท็จจริงที่พิสูจน์มาแล้วนั้น

 ประกอบกันเป็นความผิดที่กล่าวหาหรือไม่

// contention =                            ข้อโต้แย้ง, ข้อพิพาท, การต่อสู้ (คดี)

** He filed the document as evidence in support of his contentions. =     

              เขายื่นเอกสารเป็นพยานสนับสนุนข้อโต้แย้งของเขา

** He had good faith in the contention of his case. =

              เขามีความสุจริตใจในการต่อสู้คดีของเขา

** contention as to ownership = ข้อพิพาทว่าด้วยกรรมสิทธิ์

// homicide           = ตามกฎหมายอังกฤษ หมายถึงการฆ่าคน การฆ่าคนอาจกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น ตำรวจยิงต่อสู้กับผู้ร้ายและผู้ร้ายตาย หรือมีข้อแก้ตัวตามกฎหมาย หรืออาจเป็นการฆ่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถ้าเป็นการฆ่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ murder, manslaughter และ infanticide

// homicide           = ฆาตกรรม, การลงมือฆ่า, การฆ่าคน = the killing of one person by another, (=murder)

** be accused of homicide = ต้องหาว่าฆ่าคนตาย

** homicile cases = คดีฆ่าคนตาย

// justifiable           = (อ่านว่า "จัชติฟายเออะบ'ล) ซึ่งแก้ตัวได้, ซึ่งอ้างเป็นข้อแก้ตัวได้, ชอบด้วยเหตุผล, สามารถกล่าวอ้างเหตุผลมาสนับสนุนหรือโต้แย้งได้

= that can be justified

** His actions were ellegal but justifiable on moral grounds.

= การกระทำของเขาแม้ว่าจะไม่ชอบด้วยด้วยกฎหมาย แต่มีเหตุผลพอรับได้ในเรื่องศีลธรรม

** His action was entirely justifiable. 

= การกระทำของเขามีเหตุผลพอที่จะรับได้ทุกประการ

** justifiable act = การกระทำที่อ้างเป็นข้อแก้ตัวได้

** Self-defence is considered justifiable in an act of homicide.

= การป้องกันตนเองถือเป็นข้อแก้ตัวได้ในการกระทำผิดฐานฆ่าคนตาย

// force          = แรง, กำลังหรือพลัง

** The force of the explosion knock them to the ground. =

แรงหรือพลังของการระเบิดกระแทกพวกเขาไปกองกับพื้น

// force           = อำนาจบังคับ, ผลบังคับ

** This Act will come into force on the 1st January next year. =

พระราชบัญญัติฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า

** The warrant of arrest shall remain in force until the alleged offender has been arrested. = หมายจับยังคงใช้ บังคับได้อยู่จนกว่าผู้ต้องหาจะถูกจับกุม

** the legislative, executive or judicial force. = ผลบังคับในทางนิติบัญญัติ, บริหาร, หรือตุลาการ

// joint           = ร่วมกัน (share, held or done by two or more people together)

** joint debtor = ลูกหนี้ร่วม

** joint creditor = เจ้าหนี้ร่วม

** joint plaintiff = โจทก์ร่วม

** joint defendant = จำเลยร่วม

** joint tortfeasors = ผู้กระทำละเมิดร่วม

** If a surety is bound as a joint-debtor, he has no right to require the creditor to demand performance by the debtor first. =

ถ้าผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม เขาไม่มีสิทธิที่จะเกี่ยงให้เจ้าหนี้เรียกร้องลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน

// settlement       =         การชี้ขาด, การกำหนด (ประเด็น), การเปรียบเทียบคดี, การชำระหนี้, การชี้สองสถาน

= an official agreement that ends an argument or a dispute. = ข้อตกลงอย่างเป็นทางการว่าข้อขัดแย้งหรือข้อพิพาทระงับ

** an out-of-court settlement = ข้อตกลงนอกศาล

** After the settlement of issues, the Court shall issue a summons fixing the day of taking evidence. =

หลังจากการชี้สองสถาน (กำหนดประเด็นนำสืบ) ศาลจะออกหมายกำหนดวันสืบพยาน

** Please allow me to postpone settlement of your account. = กรุณาอนุญาตให้ผมเลื่อนการชะระหนี้ในบัญชีออกไปอีก

** settlement of disputes = การชี้ขาดข้อพิพาท, การตกลงกันระงับข้อพิพาท

** The offender has complied with the settlement. = ผู้กระทำผิดได้ปฏิบัติตามการเปรียบเทียบคดี

** The Court fixes the day for settlement of issues. = ศาลกำหนดนัดวันชี้สองสถาน

// term         =      ระยะเวลา, ช่วงเวลา, เงื่อนไข

= a period of time for which something lasts, a fix or limited time

** a long term of imprisonment. = การจำคุกเป็นเวลานาน

** at the end of the term of the lease = สิ้นสุดระยะเวลาแห่งสัญญาเช่า

** The lessee shall vacate the leased premises at the end of lthe term of the lease. = ให้ผู้เช่าออกจากสถานที่เช่าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาแห่งสัญญาเช่า

** The deposit will be refunded at the end of the term of the lease. = มัดจำจะได้รับคืนเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาแห่งสัญญาเช่า

// lease      =       สัญญาเช่า, การให้เช่า

= a contract by which the owner of land or of a building allows another person to use it for a specified time, usually in return for rent.

** take out a lease on a commercial property. = นำทรัพย์สิน(อาคารพาณิชย์)ออกให้เช่า

** A lease of immovable property must be made in writing, otherwise it is unenforceable. =

สัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องทำเป็นหนังสือ มิฉะนั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้

** A lease is a contract by which one party a lessor, gives to another, a lessee, the use and possession of land buildings, property, etc., for a specific time and fixed payment. =

การเช่าคือสัญญาที่บุคคลหนึ่งคือผู้ให้เช่า ยอมให้อีกบุคคลหนึ่งคือผู้เช่าได้ใช้และครอบครองที่ดิน อาคาร ทรัพย์สิน ฯลฯ มีระยะเวลาและมีค่าเช่าที่กำหนดไว้

// lease       =       (verb) ให้เช่า

= to permit or obtain the use of something in exchange for rent. = ยอมให้ใช้หรือครอบครองสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อแลกกับค่าเช่า

** lease a car. = เช่ารถยนต์

** He leases his house to John. = เขาให้จอห์นเช่าบ้านของเขา

// secure               =(verb) เข้าค้ำประกัน, รับประกัน

= to make something safe; to protect something

** Can the town be secured against attack? = สามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าเมืองนี้จะไม่ถูกโจมตี

** A future obligation can be secured in the event that it would take effect. =

หนี้ในอนาคตก็อาจค้ำประกันได้ เพื่อเหตุการณ์ที่หนี้นั้นจะเป็นผลได้จริง

** secured creditor = เจ้าหนี้มีประกันเช่น เจ้าหนี้จำนอง เจ้าหนี้จำนำ เจ้าหนี้ที่มีการค้ำประกัน

// burden              = ภาระหน้าที่

= a duty, an obligation, a responsibility, etc that is not wanted or causes troble.

** the burden of heavy taxation on the taxpayer. =

ภาระหน้าที่ของผู้เสียภาษีในอัตราสูง

** burden of proof = หน้าที่นำสืบ

** The burden of proof of facts lies on the party alleging such fact. =

หน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงตกอยู่แก่คู่ความที่อ้างอิงข้อเท็จจริงนั้น

** At criminal trial, the burden of proof is borne by the prosecution on every issue. =

ในการพิจารณาคดีอาญาหน้าที่นำสืบตกอยู่กับฝ่ายโจทก์ทุกประเด็น

** Any party alleges any fact, the burden of proof lies on such party. =

คู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างข้อเท็จจริงอันใด หน้าที่นำสืบตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายนั้น

// appear         = มาศาล, มาอยู่ต่อหน้าศาล

= for a party or an attorney to show up in court. = คู่ความหรือทนายความของคู่ความมาศาล

= to attend a lawcourt in order to give evidence or anser a charge.

** appear as a witness = มาศาลในฐานะพยาน

** appear before magistrates. = มาอยู่ต่อหน้าผู้พิพากษา

** The debtor is summoned to appear in the action. =

ลูกหนี้ได้รับหมายเรียกให้มาในคดี

** The plaintiff may enter a petty case by appearing in person to state his claim. =

โจทก์อาจฟ้องคดีมโนสาเร่ได้โดยมาศาลและแถลงข้อหาด้วยตนเอง

// inquiry            = การไต่สวน (คดีแพ่ง), การสอยสวน (คดีอาญา)

= asking; inquiring :

** a court of inquiry = ศาลระบบไต่สวน

** The poice are following several lines of inquiry. = เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนในหลายประเด็น

** The Court makes an inquiry on the application for a temporary injunction. =

ศาลไต่สวนคำร้องขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว

** inquiry official = พนักงานสอบสวน

** additional inquiry = การสอบสวนเพิ่มเติม

// trial                  = การพิจารณาคดี

= a formal examination of evidence in court by a judge and often a jury, to decide if sb accused of a crime is guilty or not:

** a murder trial = การพิจารณาคดีฆาตกรรม

** She will stand trial / go on trial for fraud. = เธอจะดำเนินการพิจารณาคดีฉ้อโกงต่อไป

** After the settlement of issues, the Court shall proceed with the trial of the case. =

หลังจากการชี้สองสถาน (การกำหนดประเด็นและหน้าที่นำสืบ) ให้ศาลดำเนินการพิจารณาาคดีต่อไป

** fair trial = การพิจารณาคดีโดยเที่ยงธรรม

// intercourse             = การมีเพศสัมพันธ์ , การร่วมประเวณี

** The prosecution stated that intercourse had occurred on several occasions. = การดำเนินคดีระบุว่าการร่วมประเวณีได้เกิดมีขึ้นหลายครั้ง

** anal intercourse = การร่วมประเวณีทางทวารหนัก

// sexual              = ทางเพศ

** He had sexual intercourse against her will. = เขาข่มขืนกระทำชำเราเธอ

** to gratify the sexual desire of another person. = ทำการเพื่อให้สำเร็จความใคร่ของผู้อื่น

// will               = พินัยกรรม, เจตนา, ความตั้งใจ

= what somebody wants to happen in a particular situation

= a legal document that says what is to happen to somebody’s money and property after they die.

** I don’t want to go against your will. = ฉันไม่ต้องการที่จะทำอะไรที่ขัดความประสงค์ของเธอ

** My father left me the house in his will. = บิดาของผมได้ยกบ้านหลังนี้ให้ผมโดยพินัยกรรม

** A minor after attaining fifteen years of age can make a will. = ผู้เยาว์ที่อายุถึงสิบห้าปีแล้ว ทำพินัยกรรมได้

** We cannot make performance against the will of the debtor. = เราไม่สามารถชำระหนี้โดยฝืนเจตนาของลูกหนี้

** A will is a declaration made by a testator in the form required by law, of what he disires to be done after his death.

พินัยกรรมเป็นการประกาศเจตนาของเจ้ามรดกที่ทำตามแบบที่กฎหมายกำหนดไว้ แสดงว่าเขาปรารถนาจะให้กระทำอย่างไรหลังจากมรณกรรมของเขา

ค้ำประกัน

Suretyship

· Surety (noun) ผู้ค้ำประกัน หลักประกัน

· 1. money given to support a promise that somebody will pay their debts, perform a duty,etc; a guarantee: offer $100 as a surety.

money given = เงินที่ได้ให้ไว้ to support a promise that = เพื่อยืนยันข้อตกลงที่ว่า somebody will pay their debts = เขาจะชำระหนี้ให้

· 2. a person who makes herself or himself responsible for the payment of debts, ets by somebody else: act as surety for somebody.

· Surety for another surety ผู้รับเรือน (ผู้ค้ำประกันของผู้ค้ำประกัน)

· If several persons make themselves sureties for the same obligation, they are liable as joint debtors.

*บุคคลหลายคนยอมตนเข้าเป็นผู้ค้ำประกันในหนี้รายเดียวกัน ผู้ค้ำประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน

Suretyship การค้ำประกัน

** A contract of suretyship is not enforceable by action unless there be an evidence in writing signed by the surety.

- สัญญาค้ำประกันถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อ ผู้ค้ำประกัน ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

- ตามกฎหมายอังกฤษ contract of suretyship กับ contract of guarantee มีความหมายอย่างเดียวกัน

คำว่า suretyship มีความหมายว่าเป็นการค้ำประกัน เหมือนกับคำว่า guarantee (หรือ guaranty) ในตำรากฎหมายอังกฤษใช้คำว่า Contract of guarantee หรือ Contract of suretyship ใช้ได้ทั้งสองอย่าง คือมีความหมายเหมือนกัน

สำหรับคำแปลภาษาอังกฤษของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไทยใช้คำว่า Contract of suretyship ในความหมายของสัญญาค้ำประกัน

Security หลักประกัน

** A thing of value, eg one’s house, that can be used to make sure that one will pay back borrowed money or keep a promise: lend money on security (ie in return for something given as security)

** An earnest serves as a security that the contract shall be performed.

- มัดจำใช้เป็นหลักประกันว่าสัญญาจะได้รับการปฏิบัติ

** The Court may order the applicant to deposit money as security.

- ศาลอาจจะสั่งให้ผู้ร้องขอ วางเงินเป็นประกัน

Section 680 Suretyship is a contract whereby a third person, called the surety, binds himself to a creditor to satisfy an obligation in the event that the debtor fails to perform it.

A contract of suretyship is not enforceable by action unless lthre be some written evidence signed by the surety.

อันว่าค้ำประกันนั้นคือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ค้ำประกันผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น

อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ทานว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

 

 




ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย

เหตุที่จะเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทตามสัญญาอนุญาโตตุลาการ
แบบสัญญาต่างๆ article
คำชี้ขาดอันถึงที่สุดของอนุญาโตตุลาการ