ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




คดีโฉนดมรดก & ป.อ. มาตรา 188, ความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น, (ฎีกา 842/2568)

คำพิพากษาศาลฎีกา 842/2568, คดีโฉนดมรดก ป.อ. มาตรา 188, วิเคราะห์คดีมรดกและโฉนดที่ดิน, ความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น, คดีอาญากับสิทธิในมรดก, สิทธิร่วมในการครอบครองโฉนดที่ดิน, ผู้จัดการมรดกใช้สิทธิทางแพ่ง, ศาลฎีกาวินิจฉัยคดีมรดก, แนวทางปฏิบัติทางรูปคดีมรดก, วิเคราะห์กฎหมายอาญาและแพ่ง

    ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์

    เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

บทนำ

คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 โดยมีประเด็นว่าการที่จำเลยถือครองโฉนดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกและยังอยู่ระหว่างการจัดการมรดก จะถือว่าเป็นเอกสารของผู้อื่นหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อผู้รับพินัยกรรมทุกคนรวมทั้งโจทก์และจำเลยยังคงมีสิทธิร่วมในที่ดินและโฉนดดังกล่าวอยู่ การที่จำเลยไม่ส่งมอบโฉนดให้ผู้จัดการมรดกจึงไม่เป็นความผิดอาญา ต้องไปใช้สิทธิทางแพ่งแทน


สรุปข้อเท็จจริง

นางเฉลียวทำพินัยกรรมให้จำหน่ายที่ดินแล้วนำเงินมาแบ่งให้ทายาท 6 คน พร้อมแต่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก

เมื่อผู้ตายถึงแก่กรรม ทรัพย์มรดกประกอบด้วยที่ดินหลายแปลง รวมถึงโฉนดเลขที่ 19395 ซึ่งจำเลยครอบครองไว้

โจทก์ทวงถามโฉนดเพื่อจัดการมรดก แต่จำเลยไม่ส่งมอบ

โจทก์ฟ้องจำเลยฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตาม ป.อ. ม.188


คำวินิจฉัยศาล

ศาลชั้นต้น: จำเลยผิด ป.อ. ม.188 จำคุก 6 เดือน ปรับ 15,000 บาท ลดโทษตาม ม.78 เหลือจำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี

ศาลอุทธรณ์: กลับคำพิพากษา ยกฟ้อง

ศาลฎีกา: วินิจฉัยว่าโฉนดดังกล่าวยังเป็นทรัพย์มรดกที่ผู้รับพินัยกรรมรวมทั้งโจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่ถือเป็นเอกสารของผู้อื่น การที่จำเลยไม่ส่งมอบโฉนดเป็นเรื่องทางแพ่ง ไม่เป็นความผิดอาญา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์


วิเคราะห์ประเด็นทางกฎหมาย

1. ความหมายของ “เอกสารของผู้อื่น” ตาม ป.อ. มาตรา 188

ต้องเป็นเอกสารที่ผู้กระทำไม่มีสิทธิครอบครอง

หากเป็นเจ้าของร่วม จะไม่ถือเป็นเอกสารของผู้อื่น

2. สิทธิของผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกมีสิทธิเรียกร้องให้ทายาทส่งมอบทรัพย์เพื่อจัดการ แต่หากไม่ส่งมอบ ต้องใช้สิทธิทางแพ่ง ไม่ใช่โทษทางอาญา

3. หลักการตีความคดีอาญา

กฎหมายอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัด

หากมีข้อสงสัย ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย


IRAC Analysis

Issue (ประเด็น):

การที่จำเลยไม่ส่งมอบโฉนดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดก ถือว่าเป็นความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตาม ป.อ. มาตรา 188 หรือไม่

Rule (กฎหมาย):

ป.อ. มาตรา 188 กำหนดโทษแก่ผู้ที่ “เอาไปเสีย ทำลาย หรือซ่อนเร้นเอกสารของผู้อื่น” โดยต้องเป็นเอกสารที่ตนไม่มีสิทธิครอบครอง

ป.พ.พ. มาตรา 1599 และ 1603 กำหนดว่ามรดกตกแก่ทายาทและผู้รับพินัยกรรมโดยตรง

Application (การวิเคราะห์):

ที่ดินและโฉนดที่ดินยังเป็นกรรมสิทธิ์รวมของทายาททุกคนรวมทั้งจำเลย ดังนั้นโฉนดไม่ใช่ “เอกสารของผู้อื่น” การที่จำเลยครอบครองไว้แม้ขัดขวางการจัดการมรดกก็ไม่เป็นความผิดอาญา แต่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในทางแพ่ง

Conclusion (ข้อสรุป):

จำเลยไม่ผิดตาม ป.อ. มาตรา 188 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้องเป็นไปโดยชอบ ศาลฎีกาพิพากษายืน


สรุปข้อคิดทางกฎหมาย

การถือครองเอกสารที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วม ไม่ถือว่าเป็น “เอกสารของผู้อื่น”

ความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดการมรดก ควรแก้ไขในทางแพ่ง ไม่ใช่ใช้กฎหมายอาญา

หลักการตีความคดีอาญาต้องเข้มงวด เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา


คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 โดยมีประเด็นว่าการที่จำเลยถือครองโฉนดที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกและยังอยู่ระหว่างการจัดการมรดก จะถือว่าเป็นเอกสารของผู้อื่นหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อผู้รับพินัยกรรมทุกคนรวมทั้งโจทก์และจำเลยยังคงมีสิทธิร่วมในที่ดินและโฉนดดังกล่าวอยู่ การที่จำเลยไม่ส่งมอบโฉนดให้ผู้จัดการมรดกจึงไม่เป็นความผิดอาญา ต้องไปใช้สิทธิทางแพ่งแทน

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2568

การที่จะเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 188 ต้องเป็นการเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น เมื่อโฉนดที่ดินทรัพย์มรดกอันเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์มรดกส่วนหนึ่งของ ฉ. ที่ต้องนำไปจำหน่ายแล้วนำเงินมาแบ่งปันระหว่างผู้รับพินัยกรรมด้วยกัน โดยมีโจทก์และจำเลยรวมอยู่ด้วย เมื่อการจัดการมรดกดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น โจทก์ จำเลยและผู้รับพินัยกรรมอื่นจึงยังคงเป็นเจ้าของรวมในที่ดินและโฉนดที่ดินดังกล่าวอยู่ด้วยจึงถือไม่ได้ว่าโฉนดที่ดินดังกล่าวเป็นเอกสารของผู้อื่น ดังนั้น การที่โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายทวงถามเพื่อจะแบ่งปันที่ดินแก่ผู้รับพินัยกรรม แต่จำเลยไม่ยอมส่งมอบให้โจทก์ไม่ว่าด้วยเหตุผลประการใดก็ตามทำให้การจัดการมรดกเกิดข้อขัดข้องหรือได้รับความเสียหายก็เป็นเรื่องที่โจทก์ต้องไปว่ากล่าวใช้สิทธิเรียกร้องเอาแก่จำเลยในทางแพ่งต่อไป การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 188

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา

จำเลยให้การปฏิเสธ


ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 จำคุก 6 เดือน และปรับ 15,000 บาท ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา


ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า พันตำรวจโทลออ กับนางเฉลียว มีบุตรด้วยกันรวม 7 คน ได้แก่ นายธนกร นายวรพุฒ นางสาววรนุช นายวรพันธ์ (ตายเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2558) โจทก์ จำเลย และพันตำรวจโทวรเอก เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2551 นางเฉลียวทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองระบุให้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 12167 ออกจำหน่ายแล้วนำเงินที่ได้ไปเลี้ยงดูนางสาวฉลวย จนกว่านางสาวฉลวยจะถึงแก่ความตาย ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ให้นำออกจำหน่ายแล้วนำเงินมาแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรม 6 คน คือ นายธนกร นางสาววรนุช นายวรพันธ์ โจทก์ จำเลย และพันตำรวจโทวรเอก กับแต่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางเฉลียว ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 นางเฉลียวถึงแก่ความตาย ศาลแพ่งมีคำสั่งในคดีหมายเลขแดงที่ พ 4909/2560 แต่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ผู้ตายมีทรัพย์มรดกเป็นที่ดินจำนวนหลายแปลง ที่ดินโฉนดเลขที่ 19395 เป็นทรัพย์มรดกส่วนหนึ่งของผู้ตายที่ต้องนำมาจำหน่ายแล้วนำเงินแบ่งกันระหว่างทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรม จำเลยเป็นผู้ครอบครองโฉนดที่ดินดังกล่าว


คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 บัญญัติว่า "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษ..." การที่จะเป็นความผิดตามบทบัญญัติดังกล่าวต้องได้ความว่า เป็นการเอาไปซึ่งเอกสารของผู้อื่น กรณีจึงต้องวินิจฉัยก่อนว่าโฉนดที่ดินเลขที่ 19395 เป็นเอกสารของผู้อื่นหรือไม่ เห็นว่า เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นย่อมตกแก่ทายาท อันได้แก่ทายาทโดยธรรม และผู้รับพินัยกรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง และมาตรา 1603 เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 19395 เป็นทรัพย์มรดกส่วนหนึ่งของนางเฉลียวที่ต้องนำไปจำหน่ายแล้วนำเงินมาแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมด้วยกันจำนวน 6 คน อันมีโจทก์และจำเลยรวมอยู่ด้วย เมื่อการจัดการมรดกดังกล่าวยังไม่เสร็จสิ้น โจทก์ จำเลย และผู้รับพินัยกรรมอื่นอีก 4 คน จึงยังคงเป็นเจ้าของรวมในที่ดินทรัพย์มรดกดังกล่าว ซึ่งหมายรวมถึงโฉนดที่ดินอันเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินด้วย เช่นนี้ แม้โจทก์และผู้รับพินัยกรรมคนอื่นจะเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยก็ถือไม่ได้ว่าโฉนดที่ดินเลขที่ 19395 เป็นเอกสารของผู้อื่นเพราะจำเลยเป็นเจ้าของอยู่ด้วย ดังนั้น การที่โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายทวงถามโฉนดที่ดินดังกล่าว เพื่อจะแบ่งปันที่ดินแก่ผู้รับพินัยกรรม แต่จำเลยไม่ยอมส่งมอบให้โจทก์ไม่ว่าด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ทำให้การจัดการมรดกเกิดข้อขัดข้องหรือได้รับความเสียหายก็เป็นเรื่องที่โจทก์ต้องไปว่ากล่าวใช้สิทธิเรียกร้องเอาแก่จำเลยในทางแพ่งต่อไป การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 วินิจฉัยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

 



เกี่ยวกับคดีอาญา

คดีล่วงละเมิดเด็กในความดูแล ความผิดทางเพศเด็ก, กระทำชำเราเด็ก, ป.อ. มาตรา 285 (ฎีกา 5524/2567)
ขอคืนรถของกลาง & เงื่อนไขริบและคืน,ริบทรัพย์, เจ้าของทรัพย์, (ฎีกา 9090/2549)
คดีโฆษณาแอลกอฮอล์ & เครื่องหมายการค้า, โฆษณาผิดกฎหมาย, (ฎีกา 3139/2568)
คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว & การยกฟ้อง ตรวจสอบคุณภาพข้าว, (ฎีกา 3555/2568)
ลูกจ้างลักทรัพย์นายจ้าง & การบรรเทาโทษ,มาตรา 335, มาตรา 352, (ฎีกา 5658/2567)
คดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ & ค่าเสียหายสิ่งแวดล้อม (ฎีกา 6009/2567)
คดีพยายามฆ่า, คดีบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย,(ฎีกา 2813/2568, )
คดีพยายามฆ่า & บุกรุกทำร้ายร่างกาย, บุกรุกเคหสถาน (ฎีกา 2813/2568)
คดีบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายและอาวุธ, ป.อ. มาตรา 364, (ฎีกาที่ 5613/2550)
คดีบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายและอาวุธ,มาตรา 364, (ฎีกา 5613/2550)
ฎีกา 1044/2568 – คดีฟอกเงิน & นับโทษจำคุกต่อ
(ฎีกาที่ 3710/2567): คดีพยายามฆ่า การวินิจฉัยเจตนาและข้อจำกัดในการยกฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4292/2567: การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและข้อจำกัดในการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4447/2567: คดีช่วยซ่อนเร้นสินค้านำเข้าไม่ผ่านพิธีการศุลกากรและภาษีสรรพสามิต ศาลฎีกายกฎีกาจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4770/2567: ผู้เสียหายโดยตรงในคดีลักทรัพย์จากบัญชีเงินฝากและสิทธิฟ้องคดีอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5492/2567: คดีพยายามฆ่าโดยใช้อาวุธปืน บุกรุกเคหสถานกลางคืน และการห้ามฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5682/2567: คดีลักทรัพย์และการเพิ่มโทษตามมาตรา 93 พร้อมข้อจำกัดการฎีกาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5796/2567 ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานและหมิ่นประมาท — ศาลชี้ขาดเจตนากับการกระทำโดยสุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5854/2567: ริบรถยนต์ใช้ซ่อนเร้นบุหรี่เถื่อนตาม พ.ร.บ. ศุลกากร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5893/2567 ป้องกันเกินกว่าเหตุและสำคัญผิดจนยิงผู้อื่น ศาลปรับโทษเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6190/2567 ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไม่เป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน และไม่เข้าข่ายฆ่าโดยทารุณโหดร้าย
ความรับผิดฐานควบคุมสัตว์ดุร้ายตาม ป.อ. มาตรา 377 และกฎหมายโรคระบาดสัตว์(ฎีกาที่ 8040/2567)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2567 – พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารและสิทธิของผู้ปกครองตามกฎหมาย
ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จำเลยอุทธรณ์ขอให้ลงโทษสถานเบากว่าคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ลักทรัพย์โดยสุจริต, ความผิดลักทรัพย์ vs การเข้าใจผิด, คดีลักทรัพย์ในเครือญาติ,
การกระทำของจำเลยเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมาตรา 289 (4), โทษประหารชีวิตในคดีอาญา
ป.อ. มาตรา 54 ในการคำนวณการเพิ่มโทษหรือลดโทษที่จะลง
คดีอั้งยี่พนันออนไลน์ & ฟ้องครบองค์ประกอบ (ฎีกา 980/2567)
กระทำชำเราผู้เยาว์ในบ้านไม่ถือว่าแยกเด็กจากอำนาจปกครองดูแล
จำเลยไม่มีความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี
ผู้ปกครองอนุญาตให้ไปดูโทรทัศน์ที่บ้านของจำเลยเท่านั้น
การกระทำโดยพลาด
รอการลงโทษ,ให้การรับสารภาพ
รถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะซุกซ่อนและขนส่งบุหรี่ซิกาแรตในการกระทำความผิด
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้นั้นสภาพความเป็นลูกหนี้เจ้าหนี้เกิดขึ้นทันที
ความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ปฏิบัติหรือละเว้นตามมาตรา 157
การกระทำความผิดระหว่างผู้บุพการีต่อผู้สืบสันดานหรือผู้สืบสันดานต่อผู้บุพการี
พาไปเพื่อการอนาจาร -บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี
ความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน
จำเลยฉ้อโกงหลอกลวงเอาทรัพย์ขณะที่ผู้เสียหายป่วยทางจิต
รอการกำหนดโทษ | รอการลงโทษ | พรบ.ล้างมลทิน
เบิกความอันเป็นเท็จในศาล
จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาใดไม่แน่ชัด
ป้องกันพอสมควรแก่เหตุ-ป้องกันเกินกว่าเหตุ
บันดาลโทสะเพราะเหตุยั่วยุให้โมโห
หมิ่นประมาท | เข้าใจโดยสุจริต
ความผิดฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้
เป็นอันตรายแก่จิตใจ - ใช้ยาสลบใส่กาแฟ
บันดาลโทสะต้องถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
หมิ่นประมาท | หนังสือพิมพ์ลงพิมพ์โฆษณา
วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนต้องห้ามฎีกา
ผู้เสียหายด่าจำเลย(บิดา)หยาบคายกรณีจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ
เจตนาประสงค์ต่อผลหรือเล็งเห็นได้ว่าผลนั้นจะเกิดขึ้นในราชอาณาจักร
การริบทรัพย์สิน | ใช้ในการกระทำความผิด
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป
คำว่า-วิชาชีพ-ในคดีอาญา
หลบหนีไปจากความควบคุมตามอำนาจของพนักงานสอบสวน
สเปรย์พริกไทยไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ
พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร | รับส่งเด็กนักเรียน
ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ
กระทำอนาจารต่อศิษย์นอกเวลาเรียน
ที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ยังคงเป็นป่าตาม พ.ร.บ. ป่าไม้
เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต
ลงลายมือชื่อรับรองคนต่างด้าว 7 คน
ความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นตาม ป.อาญา มาตรา 188
ผู้สนับสนุนให้จำเลยกระทำความผิด
ทวงหนี้ลักษณะข่มขู่ว่าไม่จ่ายจะเดือดร้อนจำคุก 3 ปี
การทำนากุ้งไม่ใช่การประกอบอาชีพกสิกรรม
ลักทรัพย์นายจ้าง, ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
การจับกุมมิชอบกับการฟ้องคดีอาญา
คำขอในส่วนแพ่งเนื่องความผิดอาญา
แม้ผู้ตายยิงจำเลยก่อนอ้างเหตุป้องกันตัวไม่ได้
ทำร้ายร่างกายกับการป้องกันตัว
พรากเด็กต่ำ15 ปี ไปเพื่อการอนาจารจำคุก 5 ปี
ซื้อเสียงเลือกตั้งไม่รอลงอาญา
ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอันพึงริบ
การเอาทรัพย์ที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริตเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
กระทำชำเราต่างวันต่างเวลาและต่างสถานที่ผิดหลายกรรม
เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล
การพรากเด็กไม่ว่าเด็กจะออกจากบ้านเองก็ย่อมเป็นความผิดทั้งสิ้น
ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมและฐานฉ้อโกง
พิพากษาจำคุกจำเลยศาลฎีกายกฟ้องเพราะคำฟ้องไม่ได้ลงชื่อ
หมิ่นประมาทกับดูหมิ่นซึ่งหน้า-ความผิดอาญามีโทษหนักเบาแตกต่างกัน
พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์เต็มใจไปด้วย
พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจำคุกตลอดชีวิต
บันดาลโทสะหรือพยายามฆ่า
ความผิดอันยอมความได้ | คดีหมิ่นประมาท | ร้องทุกข์ภายในสามเดือน
พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
การสมรสในต่างประเทศระหว่างหญิงไทยกับหญิงไทย
การกระทำชำเราที่ไม่ต้องรับโทษ
การสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายอิสลามจำเลยไม่ต้องรับโทษ
กระทำโดยประมาทไม่อาจอ้างเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยไม่มีอำนาจสอบสวนไม่มีอำนาจฟ้อง
ให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราถูกจำคุก 48 เดือน
ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ก่อนคดีถึงที่สุดคดีอาญาระงับ
บุตรติดมารดาไม่อยู่ในความปกครองของบิดาเลี้ยง
การชวนเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีเข้าไปในห้องนอนไม่ผิดพรากผู้เยาว์
กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีจำคุก 50 ปี
การนับอายุความคดีความผิดอันยอมความได้