การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร (เด็กและมารดาของเด็กถึงแก่ความตายแล้ว) -ปรึกษากฎหมาย นายลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (1) @leenont (2) @peesirilaw (3) 0859604258 เพิ่มด้วยหมายเลขโทรศัพท์ -Line Official Account : เพิ่มเพื่อน QR CODE
การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร บุตรและผู้เป็นมารดาของบุตรถึงแก่ความตายแล้ว คำถาม - การที่บิดานอกกฎหมายจะขอจดทะเบียนรับรองบุตรต้องมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง? ขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของเด็กและมารดาเด็ก คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2473/2545 เด็กและมารดาของเด็กถึงแก่ความตายแล้ว กรณีจึงเป็นเรื่องที่บุคคลทั้งสองไม่อาจให้ความยินยอมในการที่ผู้ร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตาม ป.พ.พ.มาตรา 1548 วรรคสาม ผู้ร้องไม่อาจกระทำได้โดยวิธีอื่นนอกจากดำเนินการทางศาล ในเมื่อบุคคลที่จะต้องให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนดังกล่าวไม่มีผู้ใดยังมีชีวิตอยู่เช่นนี้ ผู้ร้องก็ชอบที่จะใช้สิทธิทางศาลได้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องกับนางดวง อยู่กินฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสมีบุตรด้วยกัน ๗ คน มีจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ เป็นบุตรคนที่หกของผู้ร้อง ต่อมานางดวงและจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ถึงแก่ความตาย ทางราชการจะจ่ายเงินบำเหน็จตกทอดให้แก่ทายาทของจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ ผู้ร้องเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่จ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ได้ทำหนังสือระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ ผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้จดทะเบีบนรับรองจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง โดยขอให้ถือเอาคำสั่งศาลแทนการแสดงเจตนาของภริยาและบุตรผู้ร้อง ซึ่งไม่อาจให้ความยินยอมตามกฎหมายได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามคำร้องเป็นเรื่องที่ผู้ร้องในฐานะบิดาจะจดทะเบียนรับผู้ตายเป็นบุตร ซึ่งไม่มีเหตุตามกฎหมายที่ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลได้ ให้ยกคำร้องค่าคำร้องเป็นพับ ผู้ร้องอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๓ ทวิ ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวตรวจวินิจฉัยว่า นางดวงมารดาของจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์และจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์ผู้เป็นบุตรถึงแก่ความตายแล้ว กรณีจึงเป็นเรื่องที่บุคคลทั้งสองไม่อาจให้ความยินยอมในการที่ผู้ร้องขอจดทะเบียนรับจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1588 วรรคสาม ผู้ร้องไม่อาจกระทำได้โดยวิธีอื่นนอกจากดำเนินการทางศาล ในเมื่อบุคคลที่จะต้องให้ความยินยอมในการขอจดทะเบียนดังกล่าวไม่มีผู้ใดยังมีชีวิตอยู่เช่นนี้ ผู้ร้องก็ชอบที่จะใช้สิทธิทางศาลเพื่อให้พิพากษาว่าจ่าสิบตำรวจไชยณรงค์เป็นบุตร อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น พิพากษาให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องขอแล้วดำเนินการต่อไปตามรูปคดี. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1548 บิดาจะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายได้ต่อ เมื่อได้รับความยินยอมของเด็กและมารดาเด็ก ในกรณีที่เด็กและมารดาเด็กไม่ได้มาให้ความยินยอมต่อหน้านายทะเบียน ให้นายทะเบียนแจ้งการขอจดทะเบียนของบิดาไปยังเด็กและมารดาเด็ก ถ้า เด็กหรือมารดาเด็กไม่คัดค้านหรือไม่ให้ความยินยอมภายในหกสิบวันนับแต่การ แจ้งนั้นถึงเด็กหรือมารดาเด็ก ให้สันนิษฐานว่าเด็กหรือมารดาเด็กไม่ให้ความ ยินยอม ถ้าเด็กหรือมารดาเด็กอยู่นอกประเทศไทยให้ขยายเวลานั้นเป็นหนึ่ง ร้อยแปดสิบวัน ในกรณีที่เด็กหรือมารดาเด็กคัดค้านว่าผู้ขอจดทะเบียนไม่ใช่บิดา หรือไม่ ให้ความยินยอม หรือไม่อาจให้ความยินยอมได้ การจดทะเบียนเด็กเป็นบุตร ต้องมีคำพิพากษาของศาล เมื่อศาลได้พิพากษาให้บิดาจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรได้ และบิดาได้นำคำ พิพากษาไปขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียน ให้นายทะเบียนดำเนินการจด ทะเบียนให้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188 ในคดีที่ไม่มีข้อพิพาท ให้ใช้ข้อบังคับต่อไปนี้ คดีฟ้องขอให้รับรองว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย 1. กรณีเด็กมีอายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ ผู้แทนโดยชอบธรรมสามารถฟ้องคดีแทนเด็กได้ รวมถึงผู้รับบุตรบุญธรรม ด้วย ในกรณีที่มารดาของเด็กไม่อาจทำหน้าที่ได้ ญาติสนิทของเด็กหรือพนักงานอัยการจะเป็นผู้ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้แทนเฉพาะคดีเพื่อทำหน้าที่ฟ้องคดีแทนได้เช่นกัน ปัจจุบันมีการแก้ไข ป.พ.พ. มาตรา 1557 เป็นว่า เมื่อมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดว่าเด็กเป็นบุตรของชายแล้ว เด็กจะมีฐานะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของชายย้อนหลังไปถึงวันที่เด็กเกิด เพียงแต่จะนำมาอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิทธิบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตในระหว่างเวลาที่เด็กเกิดจนถึงเวลาที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าเด็กเป็นบุตรไม่ได้ ผลดังกล่าวทำให้เกิดสิทธิและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติต่อกันตามกฎหมายคือ คดีฟ้องศาลขอให้บุตรนอกกฎหมายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดานั้น ไม่ต้องแยกเป็นคดีฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรคดีหนึ่ง เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วจึงมาฟ้องเป็นคดีเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรในภายหลังเป็นอีกคดีหนึ่งก็ได้ โดยโจทก์สามารถฟ้องขอให้จำเลยรับรองบุตรและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรรวมมาในคดีเดียวกันโดยถือว่าเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน สามารถฟ้องรวมมาเป็นคดีเดียวกันได้ ซึ่งสิทธิเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูซึ่งมีอายุความ 5 ปี การกำหนดให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูจึงย้อนหลังไปถึงวันที่บุตรเกิดนั้น จะย้อนหลังจากวันฟ้องคดีเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูได้เพียง 5 ปี เท่านั้น
|