ไม่ทราบว่าขณะถามนี้เจ้าพนักงานบังคับคดีเขากลับไปหรือยัง?? แล้วเขาเอารถไปด้วยหรือไม่ครับ? แล้วเขาบอกเราว่าอย่างไรครับ?? บอกข้อเท็จจริงมาด้วยครับจะได้ให้คำแนะนำตรงประเด็นครับ

ความเดิมมีอยู่ว่าดิฉันได้อยู่กินกับผู้ชายคนหนึ่งและได้มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน และเขาได้แยกกันอยู่กับภรรยาเก่าเขาแล้ว และเขาบอกว่าเขาได้หย่ากับภรรยาเขาแล้ว  ซึ่งดิฉันก็เชื่อใจเขา  แต่ต่อมาภรรยาของเขาได้ยื่นฟ้องดิฉัน  เรียกร้องค่าเสียหาย 280000 บาทและสามี เรียกร้องค่า เลื้ยงดู ฯลฯ (ปัจจุบันเขายังไม่ได้หย่ากับภรรยาเก่า)  ต่อมาได้เรียกดิฉันไปไกล่เกลี่ย และยืนยันที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย 280000 บาท แต่ดิฉันไม่ยอม      ต่อมาดิฉันได้ให้คนรู้จักไปดูคำตัดสินของศาล สรุปว่า ศาลตัดสินให้ดิฉันจ่าย 150000 บาท (ซึ่งหลังจากไกล่เกลี่ยดิฉันไม่ทราบข้อมูลอะไรจากศาลเลยแม้แต่นิดเดียว)  จากนั้นเมื่ออาทิตย์ที่่ผ่านมาสามีดิฉันได้ขับรถไป และภรรยาเก่าเขาได้เจอและได้ให้บุคคลที่นั่งมาด้วยในรถโบกที่สามีดิฉันขับอยู่ให้หยุด สามีดิฉันหยุด และภรรยาเก่าเค้าลงมาและเอาเอกสารจากกองบังคับคดีให้ดู   จากนั้นสามีดิฉันขับรถหลบไป   นั้นคือเหตุที่มาที่ดิฉันถามคำถามข้างต้นมาคะ  รบกวนขอคำตอบด้วยคะ    และตอนนี้เขายังไม่ได้เอารถไปยังอยู่ที่ดิฉันคะ  และภรรยาเขาบอกว่าเหลืออยู่ไม่เท่าไรแล้วเขาอาจจะเอาเงินส่วนที่ยังค้างไฟแนนท์อยู่ไปปิด  ดิฉันจนปัญญาแก้ไขจะไปปรึกษาทนายกับใครที่ภูเก็ตเขาก็ไม่อยากช่วยเพราะเขาบอกว่าคือหม้อข้าวหม้อแกงเขา ดิฉันก็เข้าใจเขา  เลยต้องพึ่งทางสำนักงานกฎหมายของท่าน

ขณะนี้รถยนต์เป็นกรรมสิทธิ์ของไฟแนนซ์ ดังนั้นเจ้าหนี้จึงไม่สามารถบังคับเอากับทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ลูกหนี้ได้

สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าชนิดหนึ่ง แต่มีข้อตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้เมื่อชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน เมื่อยังจ่ายไม่ครบกรรมสิทธิ์ยังเป็นของผู้ให้เช่า เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิบังคับคดีเอากับทรัพย์ดังกล่าวครับ