ReadyPlanet.com


ถูกยัดข้อหา


เมื่อกลางเดือนที่แล้วเพื่อนผมซึ่งทำงานในแผนกฝ่ายบุคคลในบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง แล้วเขาทะเลาะกับผู้จัดการ เพื่อนผมจึงออกบริษัทไม่ไปทำงานตั้งแต่วันนั้น ต่อมาประมาณต้นเดือนมีตำรวจโทรแจ้งว่าเพือนผมถูกผู้จัดการคนนั้นแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ (เอกสาร)และยักยอกทรัพย์เป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อนผมจึงไปคุยกับตำรวจที่สน.ว่า เขาไม่ได้เอาเอกสารไป และเขาไม่ได้ยักยอกทรัพย์ แล้วเขาก็เล่าให้ตำรวจฟังว่าบริษัทผู้จัดการเขาเลี่ยงภาษีบัญชีจึงไม่ตรงกับรายจ่ายของพนักงานแล้วเอกสารผู้จัดการก็ทำลายทิ้งเพราะมีสรรพากรมาตรวจผู้จัดการคนนี้ก็อ้างว่าเพื่อนผมลักเอาเอกสารไปบริษัทจึงไม่มีเอกสารให้สรรพากรตรวจ  ตำรวจเขาก็ทำท่าทางไม่เชื่อหาว่าเพื่อนผมไม่ยอมรับ เพื่อนผมเขาไม่อยากมีปัญหาเพราะว่าไปทำงานที่ใหม่แล้ว เขาจึงจ่ายเงินไป 10,000 บาท (ซึ่งเขาคุยกับผู้จัดการคนนี้แล้วว่าให้จบเท่านี่ซึ่งผู้จัดการก็ยอม) เพื่อนผมก็ถามตำรวจว่าจบหมดทุกเรื่องไหม ตำรวจบอกว่าจบหมดแล้ว

  ต่อมาประมาณต้นเดือนตำรวจคนเดิมก็โทรมาอีกว่าผู้จัดการคนเดิมมาแจ้งข้อหาใหม่ว่าเพื่อนผมลักทรัพย์อีก(แล้วยังมีคดียักยอกอยู่ด้วย) เพื่อนผมก็ถามว่าก็ยอมจ่ายเงินไปแล้วทำไมยังไม่จบอีก ตำรวจบอกว่าผู้จัดการเขาพบว่ามีเอกสารหายเพิ่มจึงมาแจ้งความอีก แล้วที่จ่ายเงินไป10,000 บาท เป็นคดีลักทรัพย์ตำรวจบอกว่าต้องเคลียเป็นคดีๆไป

 ขอถามคุณทนายว่า

1.การที่ผู้จัดการคนนี้เอาความเท็จมาแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีกับเพื่อนผม เป็นการหมิ่นประมาทหรือไม่ เราสามารถแจ้งความกลับได้หรือไม่ ทั้งฐานหมิ่นประมาท แจ้งความเท็จ

2.และเอกสารที่ผู้จัดการเอามาแจ้งก็ไม่เป็นความจริงคิดว่าผู้จัดการทำขึ้นทั้งหมดเหมือนเป็นการแกล้งเพื่อนผม และปกปิดสรรพากร เราสามารถแจ้งความว่าผู้จัดการคนนี้ทำพยานหลักฐานเท็จได้หรือไม่

 และผู้จัดการและตำรวจขู่ด้วยว่าถ้าไม่ยอมจ่ายเงินเขาจะดำเนิคดีกับเพื่อนผม ตอนนี้เพื่อนของผมเครียดมากไม่รู้จะทำยังไง เขารู้สึกว่าโดนกลั่นแกล้งแรงมากถึงขนาดจะเอาให้เขาต้องติดคุกทั้งที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ จึงขอพึ่งคุณทนายช่วยแก้ปัญหาให้ด้วยว่าควรทำอย่างไรดี

  ขอขอบคุณทนายลีนนท์ล่วงหน้า ณ ที่นี้ด้วย

(ข้อความที่กล่าวมานี้เป็นความสัตย์จริงทุกประการ)



ผู้ตั้งกระทู้ k :: วันที่ลงประกาศ 2010-05-18 16:52:47


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2065826)

1. ไม่เป็นการหมิ่นประมาทครับ เพราะเป็นสิทธิที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์ ข้อเท็จจริงที่คุณเล่ามาหากเป็นความจริงก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล การที่คุณให้เงินเพื่อยอมความกัน 10,000 บาท เป็นการส่อเจตนาว่าอาจจะได้กระทำความผิดจริง แจ้งความเท็จต้องให้ศาลตัดสินเสียก่อนว่าไม่เป็นความจริงจึงจะดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จได้ครับ

2. เอกสารที่ผู้จัดการเอามาแจ้งความเกี่ยวข้องอะไรกับการลักทรัพย์และยักยอกเงิน ที่เขากล่าวหาคุณอย่างไรนั้นคงต้องไปพิสูจน์กันในศาลครับ การปกปิดสรรพากรก็เป็นการกระทำความผิดของผู้จัดการ แต่หากมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกับคดีของคุณก็ต่อสู้คดีไปได้ครับ ในเรื่องนี้คุณเล่ามาไม่ค่อยกระจ่างจึงตอบไม่ได้ครับ

ไม่ได้กระทำความผิดก็ไม่ต้องจ่ายเงินครับ หากจะจ่ายก็เป็นการวางศาลในกรณีรับสารภาพ และในคดียักยอก เป็นความผิดอันยอมความได้ ก็ไปคุยตกลงกันต่อหน้าศาลได้ครับ อย่าจ่ายกันเองเพราะไม่มีหลักฐาน คุณก็เสียเปรียบให้เขาเรียกเงินได้ไม่มีจบครับ ส่วนที่เล่ามาจะเป็นความจริงมากน้อยอย่างไรก็เป็นข้อมูลฝ่ายเดียวยังฟังไม่ยุติ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-05-19 00:51:43



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล