ReadyPlanet.com


รับซื้อโน๊ทบุ๊คที่ถูกวิ่งราวมา...สดๆๆ ตามมาดู 1


 รับซื้อโน๊ทบุ๊คที่ถูกวิ่งราวมา...สดๆๆ ตามมาดู

 
เมื่อประมาณวันที่ 15 พค 53 มีการวิ่งราวทรัพย์ที่ถนนสายหนึ่งในเชียงใหม่และโจรก็เอามาขายที่ร้านในราคา 12000 บาท ก่อนมาขายโจรได้เดินเช็คราคาหลายร้านอย่างใจเย็นและที่ร้านผมก็ให้ราคาสูงสุด คือ12000 บาท แต่ละร้านให้ไม่เกิน 10000บาทในโน๊ทบุ๊คเครื่องนั้น 
อีก 7 วันต่อมามีเจ้าของโน๊ตบุ๊คมาพบโน๊ตบุ๊คโดยบังเอิญที่ร้านซื่งวางขายอยู่ และได้ทำทีขอดูเพื่อจะซื้อและขอจองไว้ อีกประมาณ 20 นาทีเจ้าของโน๊ทบุ๊คได้นำตำรวจมาตรวจสอบโน๊ทบุ๊คเครื่องดังกล่าวโดยมีเอกสารมายืนยันแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโน๊ทบุ๊คตัวเดียวกันกับที่อ้างแต่มีเพียงแต่ข้อมูลภายในและริ้วรอยตำหนิที่อ้างว่าเป็นของเจ้าของโน๊ตบุ๊คเท่านั้น 
สิ่งที่ตำรวจตรวจสอบในวันนั้นคือ
1. ทะเบียนการค้า
2. ใบรับซื้อของเก่า
3. เอกสารซื้อขาย และ เลขบัตรประชาชนผู้มาขาย
4. ขาดใบเสร็จของผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของ ซึ่งทางตำรวจต้องการ ตำรวจอ้างถึงการรับซื้อโดยสุจริต ต้องมีและต้องขอตรวจสอบ แต่ความเป็นจริงการซื้อขายสินค้า มือถืือหรือโน๊ตบุ๊ค ในทางปฎิบัติมีผู้ขายน้อยรายที่เก็บใบเสร็จตอนซื้อสินค้าตอนซื้อมาแสดงเพราะค้าขายมือถือมาเกือบ 10 ปีทางร้านเพิ่งเคยเห็นใบเสร็จที่เจ้าของซื้อจากร้านใดๆเพี่ยงไม่เกินสองรายเท่านั้นแต่ให้ความสำคันกับความแสดงเจตนาในการขายอันบริสุทธิ์โดยการแสดงบัตรประจำตัวประชาชน
ซื่งทางร้านถือได้ว่าเอกสารหลักฐานสมบูณย์ในกระดับหนึ่งจึงพ้นข้อหารับซื้อของโจรและทางร้านก็ยอมให้ตรวจสอบจนมั่นใจว่าเป็นของเครื่องของผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของแล้วก็พากันไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ช้างเผือก และ เก็บรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับคดี และตำรวจสั่งอายัดเครื่องไว้ห้ามจำหน่ายและทางร้านร้องขอเป็นผู้เก็บรักษาโน๊ตบุ๊คจนคดีถึงที่สิ้นสุดและทางร้านก็ได้เป็นผู้เก็บรักษา
อีก 5 วันต่อมายังจับคนร้ายยังไม่ได้ และมีหนังสือจากสถานีตำรวจมาที่ร้านบอกว่าให้อายัดเครื่องโน๊ตบุ๊คไว้ที่สถานีตำรวจ เพราะเจ้าของเครื่องโน๊ทบุ๊คมีความประสงค์อย่างนั้นโดยเจ้าของเครื่องได้ปรึกษาญาติที่เรียนกฎหมายกำลังสอบเนติ และผู้พิพากษา และได้แนวทางมาจึงยืนคำร้อง เวลาต่อมาตำรวจได้ใช้อำนาจบังคับให้ทางร้านส่งมอบโน๊ตบุ๊คเพื่อให้ทางตำรวจเก็บรักษาทางร้านจึงจำเป็นต้องส่งมอบโน๊ทบุ๊ตราคา 12000 บาทให้ตำรวจเป็นผู้เก็บรักษาและได้ร้องขอให้ตำรวจเป็นผู้เก็บจนคดีถึงที่สิ้นสุดโดยในระหว่างการดำเนินคดีมิให้ผู้ได้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อความสมบูรณ์ของโน๊ทบุ๊คที่ผู้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของวันศาลตัดสินจะได้กลับไป ทางร้านหวังไว้อย่างนั้นแล้วจึงกลับ
อีก 7 วันต่อมาทางเจ้าของโน๊ตบุ๊คได้ทำหนังสือคำร้องเป็นผู้เก็บรักษาโน๊ตบุ๊คเพื่อใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอน
อีก 3 วันต่อมาทางร้านได้ทำหนังสือคำร้องเป็นผู้เก็บรักษาโน๊ตบุ๊คเพื่อให้คงอยู่ในสภาพเดิมโดยไม่ใช้งานและเป็นประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย
 
เหตุการณ์ที่ผ่านมาด้านบนอาจเวลาไม่ตรงทั้งหมดแต่เรื่องราวทั่งหมดคือสิ่งที่เกิดขึ้นและจะรายงานต่อไป...อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ
 
เขียน วันที่ 09 มิย.2553
 
สิ่งที่ร้านไม่เข้าใจในการทำงานของตำรวจ
ทำไมรับซื้อของโดยสุจริตแล้วทางเจ้าของโน๊ตบุ๊คใช้สิทธิ์บังคับตำรวจให้มาอายัดโน๊ตบุ๊คได้ทั้งๆๆที่มี หลักฐานของโจรชัดเจนว่าเป็นผู้นำมาขาย ทำไมเจ้าของโน๊ตบุ๊คไม่ไปเรียกร้องกับโจรซึ่งเป็นคู่กรณีโดยตรงและบังคับให้โจรมาไถ่โน๊ตบุ๊คคืนจากร้าน ซึ่งทางร้านได้รับซื้อโดยสุจริตทำตามระเบียบทุกประการแต่ยังต้องถูกยึดโน๊ตบุ๊คไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโน๊ตบุ๊ตที่ได้ซื้อมาโดยสุจริตได้
 
เหตุการที่เกิด
เจ้าของโน๊ตบุ๊ค วิ่งราวโดย โจร นำมาขาย ร้านที่รับซื้อโดยสุจริต 
การบังคับคดีของตำรวจ
1.เจ้าของโน๊ตบุ๊ค บังคับเอาโน๊ตบุ๊คฟรีๆ จากร้านและร้านต้องไป ฟ้องร้องกับโจรเพื่อขอคืนเงิน ถูกต้องแล้วหรือ
2.เจ้าของโน๊ตบุ๊ค บังคับโจรมาซื้อโน๊ตบุ๊คคืนจาก ร้านที่รับซื้อโดยสุจริต เพื่อนำไปคืนเจ้าของโน๊ตบุ๊ค ไม่ถูกต้องกว่าหรือ
 
ทำไม่ไม่ตรงไปตรงมาในการบังคับหมายถึงการได้มาของทรัพย์ในแต่ละขั้นตอนของ ผู้เกี่ยวข้อง แล้วย้อนไปสู่เจ้าของเครื่องโน๊ตบุ๊ค
เหตุการที่เกิดขึ้น เจ้าของโน๊ตบุ๊ค วิ่งราวโดย โจร นำมาขาย ร้านที่รับซื้อโดยสุจริต
การบังคับคดี ร้านที่รับซื้อโดยสุจริต โจรมาซื้อคืน นำไป คืนให้ แก่เจ้าของโน๊ทบุ๊คโดยตรง 
 
ทำไมไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าอ้างกฎหมาย แล้วเหตุผลใดเขาเขียนขึ้นมาอย่างนั้น ท่านผู้รู้ช่วยชี้ทางสว่างให้หน่อยครับ


ผู้ตั้งกระทู้ กร ฐานธรรมะสถิต :: วันที่ลงประกาศ 2010-06-10 11:16:56


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2073208)

ตอนนี้คุณถูกกล่าวหาว่าซื้อมาโดยไม่สุจริต (สุจริตหรือไม่ต้องพิสูจน์) เมื่อผู้ขายไม่มีกรรมสิทธิ์ในโน๊ตบุค ผู้รับซื้อก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อขายเพราะ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1332 บัญญัติว่า "บุคคลผู้ซื้อทรัพย์มาโดยสุจริต ในท้องตลาด ไม่จำต้องคืนแก่เจ้าของแท้จริง เว้นแต่เจ้าของจะชดใช้ราคาที่ซื้อมา

ในกรณีซื้อโน๊ตบุค เมื่อสถานที่ซื้อทรัพย์ไม่ใช่ท้องตลาด และคุณไม่อาจนำตัวผู้ขายมายืนยันว่าคุณได้ซื้อมาจากบุคคลดังกล่าวจริง จึงยังมีข้อสงสัยว่าคุณได้ซื้อทรัพย์มาโดยสุจริตหรือไม่ ซึ่งก็ต้องไปว่ากล่าวกันในศาล

เจ้าของโน๊ดบุคเขาเสียทรัพย์ไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีสิทธิติดตามเอาคืนจากผู้ที่ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าของกรรมสิทธิ์จะต้องไปติดตามเรียกร้องเอากับผู้ขาย(โจร)

ผู้ซื้อมีภาระหน้าที่ต้องพิสูจน์ถึงความสุจริตในการซื้อทรัพย์ และมีสิทธิไล่เบี้ยเรียกเงินคืนจากผู้ขายได้

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-06-10 15:44:56


ความคิดเห็นที่ 2 (2076221)

 ขอบคุณครับที่ให้ความกระจ่าง

ผู้แสดงความคิดเห็น cmfunfun (cmfunfun-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-06-19 11:05:33



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล