ReadyPlanet.com


พ่อของลูกและปู่กับย่าร่วมกันอุ้มลูกหนี กีดกันไม่ให้เจอแม่


สวัดดีค่ะ อยากปรึกษาปัญหาเรื่องครอบครัว กรุณาช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ เริ่มเล่าตั้งแต่แรกเลยนะค่ะอาจจะยาวหน่อยต้องการคำแนะนำจริงๆตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
ดิฉันท้องกะแฟน ไปๆมาๆไม่ได้อยู่ด้วยกัน และยังไม่ได้แต่งงานกัน 18 ก.พ.56 ไปฝากท้องครั้งแรกที่โรงพยาบาลไปคนเดียวพอครั้งที่ 2 ที่โรงพยาบาลบอกให้พาแฟนมาด้วยเพราะจะเจาะเลือดเพื่อไปตรวจ แต่พอครั้งที่ 3  แฟนให้เปลี่ยนที่ฝาก แฟนทำงานอยู่แหลมฉบัง ถ้าถึงวันที่หมอนัดดิฉันก็จะขับรถส่วนตัวจากระยองไปหาแฟนที่แหลมฉบัง แล้วแฟนก็จะพาไปหาหมอที่ศรีราชา พอรู้ว่าท้องตั้งแต่ 2 เดือนแรกก็ไม่ได้ทำงานเลย แฟนก็ไม่ได้ให้เงินใช้ แฟนจะจ่ายแค่ค่าฝากครรภ์แต่ละครั้ง และก็ค่ากินข้าวที่เวลาดิฉันไปค้างด้วย มีบางครั้งที่ไปค้างกับแฟนที่ทำงานแฟนบ้าง ตั้งแต่ท้องก็อยู่บ้านตัวเองตลอดค่าใช้จ่ายระหว่างไม่ได้ทำงานก็จะเป็นพ่อพี่น้องของดิฉันเองที่รับผิดชอบ เช่นค่ากินข้าวแต่ละวัน ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าน้ำมันรถที่ขับไปแหลมฉบังไปหาแฟน พอ 7 เดือนกว่าก็ไปอยู่บ้านพักของอนามัยกับพ่อแม่แฟน พ่อแฟนเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แต่แฟนไม่ได้อยู่ด้วยแฟนพักที่แหลมฉบังก็ไปๆกลับๆ ระหว่างพักอยู่กับพ่อแม่แฟนดิฉันก็ไม่ได้ทำงานอะไร อยู่เฉยๆ ซักเสื้อผ้าตัวเอง แล้วก็ช่วยพ่อแฟนทำกับข้าว ระหว่างพักอยู่กับพ่อแม่แฟน แฟนก็ไม่ได้ให้เงินไว้ใช้หรือติดตัวเลย ดิฉันจะให้ที่บ้านของดิฉันโอนเงินมาให้ทุกเดือน เพราะบางครั้งต้องซื้อข้าวกินเอง 30 ก.ค 56 แฟนก็พาไปจดทะเบียนเพราะเวลาคลอดจะได้ใช้สิทธิเบิกได้ แฟนทำงานรัฐวิสหกิจค่ะ 5 ต.ค 56 คลอดลูก ตั้งใจคลอดเองแต่คลอดไม่ได้สุดท้ายเบ่งจนความดันขึ้นสูงหมอเลยให้ผ่า ลูกปกติสมบูรณ์แข็งแรงดี น้ำหนัก 3.105 นอนโรงพยาบาลได้ 2 วันลูกก็ไม่สบายตัวเหลืองจึงต้องย้ายลูกไปอยู่ตึกกุมาร แต่ดิฉันก็ต้องเดินไปให้นมลูกทุกๆ 3 ชั่วโมง แผลผ่าคลอดก็ยังเจ็บ อยู่โรงพยาบาลต่อเกือบ10 วัน หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็กลับไปพักกับพ่อแม่แฟนที่บ้านพัก เลี้ยงลูกเองให้นมเอง ช่วงกลางวันจะเลี้ยงลูกคนเดียว ต้องรอลูกหลับถึงจะได้กินข้าว แม่แฟนทำงานกลับมาก็จะช่วยดูบางเวลาที่ดิฉันกินข้าวเย็น เสื้อผ้าลูกผ้าอ้อมแม่แฟนจะเป็นคนซัก เพราะคนอื่นซักแล้วไม่ถูกใจแม่แฟน ดิฉันก็เลี้ยงลูกเองมาตลอด เงินก็ยังให้ที่บ้านตัวเองโอนมาให้บ้าง แฟนก็ไม่ได้อยู่ด้วยยังไปๆกลับๆ ส่วนเสื้อผ้าของตัวเองแม่แฟนเคยซักให้ 1-2 ครั้ง ส่วนมากแล้วจะเป็นแม่บ้านที่อยู่อนามัยเอาไปปั่นเครื่องให้ เพราะลูกไม่ค่อยนอนตอนกลางวัน ถ้านอนก็แค่ 5-10 นาที จะไปทำอะไรไม่ได้เลย เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนวันเกิดเรื่อง 21 เม.ย. 57 ดิฉันส่งข้อความบอกแฟนว่าจะพาลูกไปนอนค้างกับพ่อพี่น้องดิฉัน 2-3 วัน (เพราะเบอร์โทรแฟนโทรไม่ติด) ตั้งแต่คลอดลูกมายังไม่เคยพาลูกมาค้างกับพ่อพี่น้องของดิฉันเลยซักครั้ง เคยพามาหา 2-3 ครั้งแต่ไม่ได้ค้าง และพ่อดิฉันกับน้องสาวก็เคยนั่งรถตู้ไปหาดิฉันที่บ้านพักอนามัย ไปค้างด้วย ตอนกลางวันวันนั้นพ่อกับแม่แฟนไม่อยู่ก็เลยยังไม่ได้บอก ดิฉันกะว่าตอนเย็นนั่งกินข้าวจะบอกพ่อกับแม่
แต่ไม่ทันบอก"พ่อก็ถามขึ้นมาก่อนว่าคิดดีแล้วเหรอที่จะพาลูกไปค้างกับที่บ้านดิฉัน"
"ดิฉันตอบกลับไปว่าพ่อดิฉันคิดถึงหลานไม่ได้เจอนานล่ะ"
"พ่อก็ตอบว่าถ้าพ่อดิฉันคิดถึงทำไมไม่ให้พ่อดิฉันนั่งรถมาหาล่ะ"
"แล้วพ่อแฟนก็บอกว่าลูกดิฉันยังเล็ก พ่อดิฉันเป็นผู้ใหญ่ทำไมไม่ให้นั่งรถมา" "เด็กไปหาผู้ใหญ่หรือผู้ใหญ่ไปหาเด็กอันไหนมันดีกว่ากัน"
"ดิฉันเลยตอบกลับไปว่าพ่อดิฉันแก่แล้ว ดิฉันไม่อยากให้พ่อนั่งรถตู้มามันลำบาก"
พ่อแฟนแสดงท่าทางหงุดหงิดบอกว่าคิดเอาเองล่ะกันแล้วก็เดินไป
ดิฉันกินข้าวต่อแล้วก็ไปหาลูกซึ่งแม่แฟนดูให้อยู่ พ่อกับแม่แฟนอยู่กับลูกดิฉันดิฉันก็เลยถามอีกครั้ง "ว่าทำไมถึงไม่ให้ดิฉันพาลูกไปค้างที่บ้านกับพ่อกับพี่น้องดิฉัน" บ้านดิฉันเป็นอะไรทำไมไม่ให้ไป
"แม่แฟนก็โมโหพูดเสียงดังทำกริยาเหมือนรังเกียจบ้านดิฉันพูดว่าบ้านดิฉันมียุงกลัวลูกดิฉันเป็นนั้นเป็นนี้"
"ดิฉันก็เลยพูดว่าเมื่อก่อนดิฉันก็เคยขอแม่แล้วครั้งนึงว่าจะพาลูกไปค้าง แต่แม่ก็ปฏิเสธบอกลูกฉันยังเล็ก โอเคครั้งนั้นฉันเข้าใจยอมรับและไม่มีคำเถียงออกจากปากดิฉันซักคำ"
"แต่ตอนนี้ลูกดิฉันก้โตแล้วจะ7เดือนแล้วทำไมยังไม่ให้ไปอีก บ้านดิฉันเป็นยังไงรังเกียจอะไรบ้านดิฉันหรือป่าว"
พ่อกับแม่แฟนพาลูกดิฉันไปค้างที่สุพรรณตั้งหลายครั้งแล้ว
"ลูกดิฉันดิฉันก็รัก ดิฉันพามาค้างดิฉันก้ไม่ปล่อยให้ลูกดิฉันเป็นอะไรหรอก"
"แล้วแม่แฟนก้พูดว่าถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ไม่เอาตั้งแต่แรกแล้ว"
"ดิฉันก้พูดสวนกับไปงั้นก็ไม่ต้องเอา"
พ่อแฟนก็ตะโกนใส่ดิฉันบอกให้ดิฉันหยุด
ดิฉันก็เลยบอกว่าทำไมว่าแต่ดิฉัน ดิฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม"
 แล้วแม่แฟนก้อุ้มลูกดิฉันหนี้ดิฉัน "ดิฉันเลยโทรบอกพ่อบอกพี่ชายให้มารับกลับบ้านดิฉันไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว"
ระหว่างนั้นดิฉันก็เก็บเสื้อผ้าของตัวเองเสื้อผ้าลูกของใช้เล็กน้อยของลูก ตอนที่เกิดเหตุการณ์แฟนดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่แม่แฟนคงจะโทรบอก พ่อแฟนก็มากล่อมดิฉันบอกให้ดิฉันใจเย็นๆ "ดิฉันบอกดิฉันไม่สบายใจอยากกลับบ้านให้ดิฉันกลับไปอยู่บ้านซักพักเหอะ"
"พอแฟนดิฉันมาถึงทำท่าทางทำเสียงไม่พอใจพูดจาตะคอกใส่ดิฉัน ดิฉันยิ่งเสียใจมากพูดอะไรไม่ออก ดิฉันไม่รู้ว่าแม่แฟนโทรไปบอกอะไรบ้าง" แล้วแฟนดิฉันก้เดินออกไป
สักพักก้เดินกลับมาอีกพร้อมกับตะคอกถาม"ว่าถามจิงๆเหอะดิฉันมีปัญหากับพี่มีปัญหาอะไรกับครอบครัวพี่หรือป่าว" ดิเลยบอกว่าพูดจาดีๆก้ได้ แล้วดิฉันตอบไปสั่นๆว่าป่าว แล้วแฟนดิฉันก้บอกให้เก็บของพรุ่งนี้จะไปส่ง ดิฉันก้เลยตอบว่าไม่ต้องพี่ชายดิฉันมารับกำลังจะถึงแล้ว แฟนก้เลยถามว่าไหนบอกจะไปพรุ่งนี้ เพราะตอนแรกบอกแฟนไว้ว่าจะไปพรุ่งนี้ "ดิฉันเลยตอบว่าถ้ามันไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นไม่เกิดปัญหานี้ดิฉันก้จะไปพรุ่งนี้... ตอนแรกพ่อแฟนบอกให้ดิฉันมาคนเดียวแต่ดิฉันไม่ยอมดิฉันยืนยันจะเอาลูกดิฉันมาด้วย สุดท้ายก้เลยได้มา
กลับบ้านมาคืนวันที่จันทร์21เม.ย.57 แฟน กับแม่แฟน ไม่โทรหาเลย
วันที่พุธที่23เม.ย.57แฟนส่งข้อความมา"ถามว่าเป็นไงบ้างอารมย์ดีขึ้นหรือยังลูกดื้อมั้ย
วันที่24เม.ย.57พ่อแฟนมาหาที่บ้านบอกมาทำธุระแถวนี้เลยแวะมาเยี่ยมเฉยๆ พูดไปพูดมาก้บอกจะเอาหลานไปนอนค้าง1-2 แต่ดิฉันไม่ไป พ่อแฟนเลยพูดว่าดิฉันไม่ไปไม่เป็นไรแต่จะเอาหลานไป แต่ดิฉันไม่ยอม แล้วพี่ชายดิฉันก้คุยเรื่องแต่งเรื่องขอขมาผูกแขนว่าจะเอายังไง เพราะบ้านแฟนไม่ทำซักอย่าง บ้านดิฉันบอกว่าแค่ผูกแขนขอขมาก้ได้ แต่บ้านแฟนบอกว่ามีลูกชายคนเดียวจะจัดเล็กๆไม่ได้ บอกว่าจะจัดจะทำให้ถูกต้องแต่ก้ไม่บอกว่าเมื่อไหร่ เมื่อก่อนเคยบอกว่ารอคลอดก่อนตอนก้นี้คลอดได้จะ7เดือนล่ะ ยังเงียบอยู่เลย พี่ชายดิฉันพูดเรื่องนี้พ่อแฟนก้แสดงท่าทางไม่พอใจมาก
วันที่25เม.ย.57แฟนมาหาก้คุยกันปกติไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน "ดิฉันก้บอกว่าถ้าจะรับลูกไปเท่วหรือไปค้างด้วยก้บอกนะ ดิฉันให้ไปไม่ได้ว่าอะไร แต่แฟนบอกว่าไม่เป็นไรถ้าดิฉันอยากอยู่นี้ก้อยู่ให้สบายใจไปก่อน" นั่งคุยกันซักพักแฟนก้ขับรถกลับ
วันที่26เมย.57 แฟนก้ยังโทรมาคุยด้วยปกติ ถามกินข้าวหรือยัง ลูกเป็นยังไงบ้าง
วันที่27เม.ย.57 แฟนก้โทรมาคุยด้วยบอกจะพาไปอยู่ด้วยที่แพลตที่พักใกล้กับที่แฟนทำงานอยู่ด้วยกัน3คนพ่อแม่ลูก จะได้สบายใจทั้ง2ฝ่าย ถ้าใครคิดถึงก็ไปหา ดิฉันก็ตอบตกลง แฟนก้บอกว่างั้นพรุ่งนี้จะมารับ ดิฉันเลยบอกว่าขอบอกพ่อดิฉันก่อนได้มั้ย เพราะพ่อดิฉันไม่ได้พักอยู่ที่นี้ พ่อตัดยางพักอยู่สวนยางโทรศัพพ่อก็อยู่ที่นี้พ่อลืมเอาไป แฟนไม่ตอบอะไร แล้วแฟนก้ถามว่าที่บ้านตื่นกันกี่โมง ดิฉันก้ตอบไปว่าเช้า6-7โมงก้ตื่นกันแล้วลูกดิฉันก้ตื่นเช้าทุกวัน  แฟนบอกจะเอาแผ่นรองคลานของลูกมาให้ และจะรับไปกินข้าวด้วย ดิฉันเลยบอกให้แฟนเอาแฟ้มเอกสารของดิฉันมาให้ด้วยเพราะไฟแนนซ์จะโอนรถคืนเป็นชื่อดิฉัน ดิฉันต้องใช่ใบเปลี่ยนชื่อเพราะพึ่งไปเปลี่ยนชื่อมาใหม่
วันที่28เม.ย.57ลูกดิฉันก้ตื่น7โมงเช้าปกติดิฉันอุ้มลูกลงไปเดินเล่นบริเวณหน้าบ้านและบ้านใกล้เคียงปกติเหมือนทุกๆวัน พอเดินเล่นซักพักก้ประมาณ 8 โมงนิดๆ ดิฉันก้ป้อนซีลีเล็คลูก จากนั้นก้อาบน้ำให้ลูก แต่งตัว แล้วก้กินนมหลับไป ตอนประมาณ 9 โมงนิดๆ ลูกหลับไปประมาณ10นาที แฟนดิฉันก้มาแล้วลูกดิฉันก้ตื่น แฟนดิฉันก้ถามว่าอยู่บ้านกะใครบ้าง น้องสาวดิฉันไปไหน ดิฉันก็ตอบว่าพี่สะใภ้ออกไปตลาด ส่วนน้องสาวอยู่บนห้องข้างบน แฟนดิฉันถามดิฉันซ้ำว่าตกลงจะไปอยู่แพลตหรือป่าว ดิฉันก้บอกไป แต่ขอบอกพ่อก่อนดิฉันยังไม่ได้บอกพ่อเลย พ่อยังไม่ได้เข้ามาเอาโทรศัพท์ดิฉันก้ชี้ไปที่โทรศัพท์พ่อให้แฟนดู แฟนดิฉันก้พูดขึ้นอีกว่าถ้าดิฉันไปอยู่แพลตจะมีปัญหาอะไรหรือป่าวพี่น้องคนที่บ้านดิฉันจะทะเลาะจะยินยอมหรือป่าว ดิฉันคุยแล้วไม่มีใครว่าอะไรไม่มีปัญหา แล้วแฟนก็พูดส่วนขึ้นมาว่าเห็นพ่อบอกว่าวันนั้นพี่บอยพี่ชายดิฉันไม่ให้ไป ดิฉันเลยอธิบายว่าวันนั้นพ่อพี่บอกว่าแวะมาเยี่ยมเฉยๆ พอดิฉันจะอธิบายต่อแฟนดิฉันก้บอกให้ดิฉันรีบไปอาบน้ำ แฟนดิฉันบอกรีบ ดิฉันเลยถามว่าจะไปไหนแฟนตอบว่าพาไปกินข้าวเฉยๆไปแถวๆนี้แหละ แล้วดิฉันก้ขึ้นไปเอาเสื้อผ้าบนห้องลงมาอาบน้ำ แฟนดิฉันก้นั่งเล่นอยู่กะลูก พอดิฉันเข้าห้องน้ำกำลังจะอาบน้ำ พี่สะใภ้ก้กลับมาจากตลาด ดิฉันเปิดประตูห้องน้ำออกมาทักว่ากลับมาแล้วเหรอ แล้วดิฉันก้อาบน้ำ พี่สะใภ้กับแฟนดิฉันก็คุยทักทายกันปกติ พี่สะใภ้ก็ถามแฟนดิฉันว่าจะไปไหนกันแฟนดิฉันก็ตอบว่าพาไปกินข้าว แล้วแฟนดิฉันก็อุ้มลูกไปเดินเล่นตรงประตูหน้าบ้าน ตอนนั้นพี่สะใภ้ดิฉันกำลังเตรียมของที่ซื้อมาจากตลาดเพื่อจะตั้งขายน้ำแข็งใส พี่สะใภ้ดิฉันหันไปมองแฟนดิฉันก็ยังอุ้มลูกอยู่หน้าประตู พี่สะใภ้ก็เตรียมของต่อ จากนั้นแฟนดิฉันก็อุ้มลูกไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบ้านดิฉัน และได้สตารเครื่องทิ้งไว้แล้ว ขับออกไปอย่างรวดเร็ว พี่สะใภ้ตะโกนบอกดิฉันในห้องว่าแฟนดิฉันอุ้มลูกขึ้นรถหนี้ไปแล้ว พี่สะใภ้ดิฉันวิ่งตามไปแต่รถขับแรงและเร็วมาก ดิฉันไม่เชื่อที่พี่สะใภ้ตะโกนบอกดิฉันเลยตะโกนถามกลับออกไปว่าจิงง่ะ พูดเล่นหรือพูดจิง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเพราะพี่สะใภ้วิ่งตามรถไป ดิฉันเริ่มใจสั่นเลยนุ่งผ้าขนหนูเปิดประตูห้องน้ำออกมาแต่ก็ไม่เจอใครเลย แล้วพี่สะใภ้ก็เดินกลับมาบอกว่าไปแล้วแฟนดิฉันอุ้มลูกขึ้นรถหนีไปแล้ว ดิฉันอึ้งเหมือนช็อคไปชั่วนึงเพราะไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยินและเกิดขึ้น ดิฉันทำอะไรไม่ถูกพอเริ่มมีสติดิฉันเลยหยิบโทรศัพท์โทรหาแฟนดิฉันแต่ไม่ติด โทรไปหลายครั้งก้ไม่ติด ดิฉันเลยตั้งคำถามกับตัวเองว่าดิฉันกับแฟนไม่ได้มีปัญหาไม่ได้ทะเลาะกันแล้วทำไมแฟนดิฉันต้องทำถึงขนาดนี้ ดิฉันถามพี่สะใภ้ว่าเห็นมั้ยว่าแฟนดิฉันมากับใคร มีใครนั่งรอในรถหรือเปล่า เพราะเป็นไปไม่ได้ที่แฟนดิฉันจะอุ้มลูกและขับรถไปด้วยเพราะตอนขับออกไปทั้งเร็วและแรง จนคนข้างบ้านยังมองตาม ดิฉันนั่งคิดเป็นหวงลูกแฟนดิฉันไม่ได้เอาอะไรไปเลยอุ้มแค่ลูกไป ตั้งแต่ลูกเกิดมาดิฉันกับลูกก็ไม่เคยห่างกันเลยเพราะลูกก็กินนมดิฉันมาตลอด ดิฉันเลี้ยงเองมาตลอด จนครบ 6 เดือนน้ำนมดิฉันเริ่มน้อย (สังเกตุจากฉี่เพราะฉี่น้อยลง) ดิฉันกลัวลูกไม่อิ่มขาดสารอาหารก็เลยให้กินนมชงบ้างนมดิฉันบ้างสลับกัน แล้วดิฉันก็หยิบโทรศัพท์โทรหาพ่อแฟน โทรไปหลายสายพ่อแฟนไม่รับ สักพักพ่อแฟนก็โทรกลับมา ดิฉันก็บอกพ่อแฟนว่าแฟนมาอุ้มลูกไป ได้ไปหาพ่อหรือโทรบอกพ่อหรือป่าว พ่อแฟนดิฉันก็บอกไม่รู้เรื่อง พ่อแฟนออกมาข้างนอกยังไม่ได้คุยกันเลย ดิฉันเลยบอกว่าจะเอาไปดิฉันไม่ได้ว่าแต่ทำไมไม่บอกดิฉันซักคำ ดิฉันโทรหาก็ปิดเครื่อง พ่อแฟนก็ยังยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ดิฉันนั่งโทรหาแฟนทั้งวันตั้งแต่10 จนถึง 5 โมงเย็นก็ไม่ติดปิดเครื่องตลอด แล้วดิฉันก็โทรไปหาพ่อแฟนอีกรอบ ถามว่าแฟนได้พาลูกไปหามั้ยดิฉันเป็นหวงลูกโทรหาก็ไม่ติด พ่อแฟนก็ตอบว่าไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม เพราะอยู่ข้างนอก ดิฉันก็โทรหาแฟนอีกก็ไม่ติดเหมือนเดิม ดิฉันร้อนใจและเป็นหวงลูกมาก เพราะแฟนดิฉันไม่ติดต่อกลับมาเลยดิฉันโทรหาก็ไม่ติด ดิฉันชวนพี่ชายให้ไปเป็นเพื่อนขับรถไปดูที่ทำงานที่แพลตที่แฟนดิฉันอยู่ ที่สถานีอนามัยที่บ้านพักพ่อกับแม่แฟนอยู่ก็ไม่มี หลังจากนั้นดิฉันก็โทรหาพ่อแฟนอีกหลายสายแต่พ่อแฟนก็ไม่รับสาย โทรหาแฟนติดแล้วแต่แฟนก็ไม่รับ ดิฉันเลยตัดสินใจขับรถกลับบ้านที่ระยอง ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่ม จากบางพลีถึงระยองประมาณ 5 ทุ่มกว่า ใจมันสั่นๆเหมือนจะแตกสลาย เลยตัดสินใจขับรถจากบ้านที่ระยองไปดูที่สุพรรณ น้องสาวและเพื่อนน้องสาวก็ไปเป็นเพื่อน ไปถึงบ้านพ่อแฟนที่สุพรรณประมาณตี 4 นิดๆแต่ก็ไม่เจอ เลยขับรถไปหาที่จอดรถเพื่อที่จะนอนพักกัน แล้วก็หลับกันในรถ
วันที่29 7 โมงเช้าหลังจากหลับไปนิดนึงก็เลยขับรถกลับไปดูที่บ้านพ่อแฟนอีกครั้งแต่ก็ไม่เจอ เลยแวะบ้านลุงพี่ชายของพ่อแฟนที่อยู่ข้างบ้านพ่อแฟน เพื่อถามว่าพ่อแฟนได้มาที่นี้หรือเปล่า ญาติพ่อแฟนก็ตอบว่าไม่ได้มา แต่พ่อแฟนก็โทรมาถามที่บ้านญาติเหมือนกันว่ามีใครขับรถมาที่บ้านเขาหรือเปล่า ขับรถมาถึงสุพรรณก็ไม่ได้เจอลูก ก็ขับกลับและแวะไปที่อนามัยที่บ้านพักพ่อกับแม่แฟนอยู่ แต่ก็ไม่เจอใครเหมือนเดิม โทรหาทั้ง พ่อแฟน แม่แฟน และแฟน ก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย ขับรถกลับไปดูที่แพลตที่ทำงานแฟนอีกครั้งก็ไม่เจอ จนตอนนี้ที่บ้านแฟนก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา โทรไปหาก็ไม่มีใครรับ ควรทำยังไงดีค่ะ และทำอะไรได้บ้าง รบกวนช่วยด้วยนะค่ะ ไม่รู้ต้องทำยังไงจริงๆ ไม่ได้เจอหน้าลูกจะ 2 วันแล้ว และไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ใจคนเป็นแม่จะแตกสลายจะขาดใจตาย ขอบคุณมากนะค่ะที่กรุณาให้ความช่วยเหลือ



ผู้ตั้งกระทู้ ปวิกา :: วันที่ลงประกาศ 2014-04-29 23:49:55


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3634755)

เมื่อคุณและสามีได้จดทะเบียนกันตามกฎหมายแล้ว แม้ว่าไม่ได้จัดพิธีแต่งงาน ให้สินสอดกันตามประเพณี ก็ถือว่าการสมรสสมบูรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นบุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของ คุณ(มารดา) และสามี (บิดา) ทั้งสองคน มีอำนาจปกครองบุตรร่วมกัน สิทธิที่จะเป็นผู้ดูแลบุตรเช่นกำหนดที่อยู่ของบุตรย่อมมีอำนาจร่วมกัน การที่สามีคุณพาบุตรไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคุณเป็นการใช้อำนาจปกครองไม่ชอบ คุณจึงมีสิทธิที่จะฟ้องเรียกให้ส่งมอบบุตร หรือฟ้องขอเปลี่ยนอำนาจปกครองบุตร เป็นการนำคดีสู่ศาลเพื่อนำไปสู่การเจรจาไกล่เกลี่ยต่อไป คดีครอบครัวต้องคุยกันครับ เมื่อเวลาผ่านไปก็จะสามารถหาทางออกได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2014-05-07 08:14:26



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล