ReadyPlanet.com


ขอคืนที่ดินจากเทศบาล


ข้าพเจ้าซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านมีเนื้อที่ดินตามโฉนด 200 ตารางวา  แต่ที่ดินผืนนี้มีเขตติดต่อกับที่ดินอีกแปลงหนึ่งซึ่งเคยเป็นที่ดินของเพื่อนบ้านและได้ยกให้แก่เทศบาลเพื่อใช้ทำถนน แต่ทางเทศบาลไม่ได้ดำเนินการทำถนนแต่อย่างใด ก่อนขายที่ดินให้ข้าพเจ้า เพื่อนบ้านก็ได้ใช้สอยที่ดินส่วนที่ยกให้ทางเทศบาลเรื่อยมา ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านจึงได้ล้อมรั้วที่ดิน 200 ตารางวา และที่ดินส่วนของเทศบาลด้วยเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน มีคำถามว่า เมื่อทางเทศบาลไม่ใช้ที่ดินที่เพื่อนบ้านยกให้ทางข้าพเจ้าจะขอคืนที่ดินจากเทศบาลได้หรือไม่?



ผู้ตั้งกระทู้ muni :: วันที่ลงประกาศ 2010-10-10 20:19:08


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2117469)

กรณีตามคำถาม มีคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้ครับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  191/2528

 
เทศบาลเมืองมหาสารคาม      จำเลย

          เมื่อ พ.ยกที่พิพาทให้แก่จำเลยเพื่อใช้ทำถนน โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ที่จะถือได้ว่าเป็นการสงวนสิทธิไว้อีก ย่อมเป็นการสละการครอบครองที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 การที่จำเลยยังไม่ตัดถนนผ่านที่พิพาทหรือตัดถนนผ่านที่พิพาทไม่หมดทั้งแปลงและภายหลังโจทก์ได้ซื้อที่ดินมีโฉนดของ พ.แล้วเข้าครอบครองที่พิพาทต่อจาก พ.ก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทในอันที่จะเรียกคืนที่พิพาทจากจำเลยไม่


          โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยคืนที่พิพาทให้โจทก์เนื่องจากจำเลยไม่ได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินตามเงื่อนไขที่ผู้ยกให้กำหนด โจทก์เป็นทายาทของผู้ยกให้ และได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทตลอดมาจึงมีสิทธิขอคืนตามมติคณะรัฐมนตรี

          จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ที่พิพาทเป็นทางสาธารณประโยชน์และเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองได้เข้าไปยึดถือครอบครองทำรั้วรอบที่พิพาทโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการละเมิดสิทธิของจำเลย ขอให้ยกฟ้องให้โจทก์และบริวารออกจาที่พิพาท

          โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า ที่พิพาทไม่ใช่ที่สาธารณประโยชน์ ไม่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หากแต่เป็นที่มรดกยายของโจทก์ ซึ่งต่อมาตกเป็นของนางสาวพรมมา อุดมดี น้าของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง

          ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์และบริวารรื้อถอนรั้วรอบที่พิพาทและออกไปจากที่พิพาท
          โจทก์อุทธรณ์
          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
          โจทก์ฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเดิมเป็นดินส่วนหนึ่งที่นางสาวพรมมา อุดมดี มีสิทธิครอบครอง นางสาวพรมมายกที่พิพาทให้แก่จำเลยเพื่อใช้ทำถนน แต่จำเลยยังไม่ได้ทำถนน ต่อมานางสาวพรมมาแจ้งการครอบครองที่ดินโดยเว้นที่พิพาทที่ยกให้แก่จำเลยไว้ ตอนขอออกโฉนดที่ดินก็เว้นส่วนที่เป็นที่พิพาทไว้ด้วย แต่นางสาวพรมมาครอบครองที่พิพาทตลอดมา เมื่อโจทก์ซื้อที่ดินส่วนที่มีโฉนดจากนางสาวพรมมา โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทต่อมาอีกและขอออกโฉนดสำหรับที่พิพาทจำเลยคัดค้าน โจทก์ขอที่พิพาทคืน จำเลยไม่ยอมคืนให้ ดังนี้ เห็นว่าเมื่อนางสาวพรมมายกที่พิพาทให้แก่จำเลยเพื่อใช้ทำถนนนั้น เป็นการสละการครอบครองที่ดินให้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔ และการที่นางสาวพรมมายกที่พิพาทให้แก่จำเลยก็เป็นการสละการครอบครองโดยเด็ดขาด โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ที่จะถือได้ว่าเป็นการสงวนสิทธิไว้อีก ดังจะเห็นได้จากการที่นางสาวพรมมากันที่พิพาทไว้ต่างหาก ไม่ได้แจ้งสิทธิครอบครองและขอออกโฉนดที่ดินรวมที่พิพาทเข้าไว้ด้วย การที่จำเลยยังไม่ตัดถนนผ่านที่พิพาทหรือตัดถนนผ่านที่พิพาทไม่หมดทั้งแปลง และภายหลังโจทก์ได้ซื้อที่ดินมีโฉนดของนางสาวพรมมาแล้วเข้าครอบครองที่พิพาทต่อจากนางสาวพรมมาก็หาทำให้โจทก์มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทในอันที่จะเรียกคืนที่พิพาทจากจำเลยได้

          พิพากษายืน.

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-10-10 20:31:56



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล