ReadyPlanet.com


ฟ้องหย่า


ดิฉันขอรบกวนถามเรื่องการฟ้องหย่า ดิฉันแต่งงานกับสามีเมื่อปี48  มีบุตร1คนเมื่อปี49 ดิฉันสอบบรรจุรับราชการครูได้เมื่อต้นปี53 จึงได้จดทะเบียนสมรสกับสามีเมื่อปี53เพื่อสิทธิ์เบิกต่างๆ สามีเป็นครูเอกชนค่ะ สามีชอบทำธุรกิจขายตรง เคยแยกกันอยู่มาแล้ว1ครั้งเมื่อปี 51-52 เป็นระยะเวลา 1 ปีแล้วกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่เมื่อต้นปี53ค่ะ  ซึ่งสามีเคยบอกว่าจะเลิกทำธุรกิจขายตรงมาอยู่ดูแลครอบครัว แล้วปัจจุบันสามีดิฉันก็ได้กลับไปทำธุรกิจขายตรงอีก โดยขโมยเงินของดิฉันไปด้วยจำนวนหนึ่งเมื่อดิฉันทราบจึงได้มีปากเสียงกัน ปกติเราก็ทะเลาะกันบ่อยอยู่แล้วกับธุรกิจประเภทนี้ซึ่งดิฉันไม่ชอบให้สามีไปหลอกคนอื่นๆว่าได้เงินเดือนละหลายหมืนบาท ทั้งๆที่แต่ละเดือนเขาได้มาประมาณ500-1500บาท ดิฉันรู้สึกอับอายที่คนอื่นๆมาถามว่าสามีดิฉันได้เงินจากธุรกิจมากมายอย่างนั้นจริงหรือไม่ ดิฉันต้องมาทำงานอยู่ต่างจังหวัด ลูกอยู่กับบิดามารดาของดิฉันบางครั้งเขาก็ไปรับลูกมาอยู่ด้วย ดิฉันจะกลับไปหาลูกสัปดาห์ละ2ครั้ง คือวันพุธและวันศุกร์ วันจันทร์เช้าดิฉันก็มาทำงาน  ปัจจุบันเราแยกกันอยู่ได้4เดือน ดิฉันกลับมาบ้านพบว่าเขาไม่อยู่บ้าน แต่ดิฉันไม่ได้โทรหาเพราะเราทะเลาะกัน ที่ทำงานเขาโทรมาถามหาสามีดิฉันว่าขาดงานมาเกือบ2สัปดาห์โดยไม่ได้ลาออก และได้เอาพระเครื่องของเพื่อนร่วมงานไปจำนวนหนึ่ง ดิฉันโทรไปก็รับสายบ้างไม่รับสายบ้าง ดิฉันมีปัญหาในเรื่องเอกสารค่ะ ดิฉันสังกัดกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น หากเบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเทอมลูก ดิฉันไม่มีเอกสารสามีแนบประกอบ ดิฉันึงจะขอคำปรึกษาในการฟ้องหย่าว่ากี่ปีดิฉันจึงจะฟ้องหย่าได้ และดิฉันต้องเตรียมตัวในการฟ้องหย่าอย่างไรบ้างค่ะ  



ผู้ตั้งกระทู้ ณัฐชานันท์ :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-10 14:48:45


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2127072)

พิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ให้มาแล้ว ไม่ปรากฏชัดเจนว่าจะอ้างเหตุหย่าใดเพื่อฟ้องหย่าสามีนะครับ เพิ่งจะจดทะเบียนสมรสไม่กี่เดือนจะคิดฟ้องหย่า ถ้าไม่มีเหตุมากมายจนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ฟ้องศาล ๆ ก็ไกล่เกลี่ยอยู่ดีครับ

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
 

อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-11-10 16:22:50



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล