ReadyPlanet.com


หากจะหย่า


ดิฉันจดทะเบียนสมรสกับสามี  นาย  ก.  ซึ่งเคยมีภรรยาและลูกมาแล้ว  อยู่กินกันมา  6  ปี  สามีและภรรยาเก่ารับราชการครู  อยู่มาไม่นานก็ได้ข่าวว่าสามีได้แอบไปหาภรรยาเก่าและลูก  และได้แอบไปกู้เงินซื้อบ้าน รถ ฯลฯ  ให้กับลูกและภรรยาเก่า  ทิ้งให้ดิฉันอยู่คนเดียว  อ้างว่าไปเช่าห้องอยู่ใกล้ที่ทำงาน (อยู่คนละจังหวัด)  และดิฉันก็ตามไปเจอเขาที่บ้านที่ซื้อให้ภรรยาเก่า  เขาก็อ้างว่ามาหาลูก  และบ้านก็ได้โอนให้ลูกไปแล้ว  ดิฉันจะทำยังไงได้บ้างคะ  ซึ่งตอนที่เขามาอยู่กับดิฉันใหม่ ๆ เงินเดือนสามีไม่เหลือเลย  พอมาอยู่ด้วยกันก็ช่วยกันทำงานเพิ่มทำให้มีรายได้ขึ้นมา  แล้วเขาก็เอาไปปรนเปรอทางบ้านเก่า  ดิฉันไปเจอแล้วเสียใจมาก  กลับมาก็ทะเลาะกัน  จะทำยังไงดีคะ  ถ้าหย่าดิฉันจะต้องทำยังไง  แล้วจะได้อะไรบ้างคะ  พวกเขารวมหัวกันหลอกดิฉันมานานถึง  6  ปี ดิฉันรู้ระแคะระคายมานานแล้ว  แต่ก็ไม่เคยไปดู  แต่ภรรยาเก่าเขาร้ายมาก  วันก่อนเขาบอกให้ดิฉันขับรถไปรับ  พอไปถึงเขาก็บอกติดธุระ  ให้ดิฉันกลับก่อน  แล้วก็ปิดโทรศัพท์  ทำให้ดิฉันสังหรใจ  ก็เลยเข้าไปดูที่บ้านหลังนั้น  ก็เจอเขาอยู่  ตอนแรกบ้านหลังนี้ซื้อเงินผ่อนเป็นชื่อของสามีหักในเงินเดือนบอกว่าซื้อให้ลูกดิฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร  พอมารู้อีกทีเขากู้เงินไปจ่ายสด  และซื้อรถใหม่ให้ด้วย  แล้วอย่างนี้ดิฉันจะเอาเรื่องได้มั๊ยคะ  จนปัญญาจริง ๆ ค่ะ  เครียดมาด้วย  ขอปรึกษาเท่านี้ก่อนค่ะ  ขอบคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ อรญา :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-06 20:16:58


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2126096)

ในทางกฎหมายบอกว่า ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรสเป็นสินสมรสครับ ไม่ว่าจะใส่ชื่อของใครเป็นเจ้าของ แต่อาจจะยากในเรื่องการพิสูจน์ซึ่งคงเหนือยไม่น้อยทีเดียวครับ

ปัญหาครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะตัดสินด้วยกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะเขาเป็นพ่อลูกกันจะให้ตัดกันเด็ดขาดคงยาก สำหรับภรรยาเก่านั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเขายังมามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสามีเรา ๆ ก็มีสิทธิเรียกค่าทดแทนได้ตามกฎหมาย แม้ว่าเขาจะเป็นผู้มาก่อนคุณก็ตาม แต่สายตากฎหมาย เขาไม่ได้เป็นสามีภริยากัน

สุดท้ายก็กลับมาที่ความเป็นจริงว่า ตอนนี้เขาอาจเห็นความดีของภรรยาเก่าแล้วนึกเสียดายและสงสารที่ทอดทิ้งเขาไปหาคุณ ประกอบกับมีข้อเปรียบเทียบระหว่างคุณกับเขา จึงหยากเลือกทางที่พอดีก็เป็นได้ (ไม่มีข้อมูล) เราเลือกคนที่มีตำหนิมาตั้งแต่แรกก็คงต้องยอมรับในความมีตำหนิของเขาด้วย

สรุป ก็ฟ้องเรียกให้ใส่ชื่อคุณเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในบ้านที่สามีซื้อใหม่ได้ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-11-07 08:31:10


ความคิดเห็นที่ 2 (2126202)

แล้วเราจะหาหลักฐานที่ไหนมาพิสูจน์ได้ว่าเขาเอาเงินไปโปะบ้านให้ ทั้ง ๆ ที่รู้  แต่มันหายากมากนะคะ  เท่าที่รู้เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กันฉันชู้สาว  (แต่ก็ไม่แน่ใจมาก)  แต่ผู้หญิงคนนั้นต้องการสมบัติ  วันนี้ผู้หญิงคนนั้น  SMS  มาหา  เขียนมาว่า  "นอนกอดกระดาษแผ่นเดียวรู้สึกอย่างไรบ้าง? ฉันสิเป็นเพื่อใจเขาได้ยามเขาเหงา  เขาเบื่อผู้หญิงอย่างเธอรู้ตัวบ้าง  สำหรับฉันไม่แคร์แค่กระดาษแผ่นเดียว  สนใจเจรจามีอีกเบอร์   อย่างนี้หนูสามารถเอามาเป็นหลักฐานว่าเขามายุ่งกับสามีเราได้หรือเปล่า  หมายถึงร้องไปที่โรงเรียน  แต่รไม่ใช่เบอร์เขาที่  sms  มา  คงจะซื้อเบอร์ถูก ๆ ชั่วคราว  เพื่อเอามายั่วประสาทหนู  แล้วอย่างนี้หนูจะเอาผิดคนทั้งคู่ได้อย่างไรคะ

แล้วเขาก็ให้เบอร์โทรมา  เท่าที่รู้มาค่อนข้างจะชัวร์  สามีก็ไม่ได้ในใจผู้หญิงคนนี้สักเท่าไหร่  แต่เขาเป็นคนที่รักลูกมาก  ผู้หญืงคนนี้เวลาอยากจะได้อะไรก็จะให้ลูกโทรมาขอ  สามีก็จะหาให้ลูก  มีไม่มีก็ต้องกู้มาให้มากน้อยเขาก็ยอมหา  เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาหนูก็ไม่สน  ถือว่าเขาเป็นพ่อลูกกัน  แต่ครั้งนี้มันมากเกินทนค่ะ 

ช่วยหนูหาทางออกสักครั้งเถอะค่ะ  ขอบพระคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น อรญา วันที่ตอบ 2010-11-07 19:27:10


ความคิดเห็นที่ 3 (2126204)

อ้อ  ลืม  ตอนทที่สามีเลิกกับผู้หญิงคนนี้ก็ไปมีภรรยาอีกคน  อยู่กันได้  5  ปีกว่า  ผู้หญิงคนนั้นก็ทนภรรยาเก่าเขาไม่ได้  เพราะภรรยาเก่าก็ตามราวีเขาเหมือนที่ทำกับหนูนี่แหละ  เคยตามไปตบตีภรรยาคนที่  2  ถึงที่บ้าน  ทั้ง ๆ ที่เขาจดทะเบียนสมรสกับคนที่สอง  ว่างมาก ๆ เขาก็จะไปเล่าให้ชาวบ้านหรือคนที่ทำงานคนที่สองฟังว่า  แย่งสามีเธอมาบ้าง  และอะไร ๆ อีกหลายอย่าง  จนภรรยาคนที่สอง  บางทีก็โทรมาตามให้ไปหาที่บ้านพักอ้างว่าลูกไม่สบาย  บางทีก็ sms  กวนประสาทเหมือนที่เขาทำวันนี้แหละ  สุดท้ายภรรยาคนที่สองก็ทนไม่ได้  เขาก็เลยเลิกราไป  ภรรยาคนที่  2  เป็นคนที่เล่าให้หนูฟังเอง  แล้วสามีหนูก็เคยเล่าให้หนูฟังเหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้คุ้มดีคุ้มร้าย  แต่ที่เขาไปเขาไปหาลูก  หนูจะทำยังไงถึงจะเอาเรื่องผู้หญิงคนนี้ได้คะ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อรญา วันที่ตอบ 2010-11-07 19:34:53



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล