ReadyPlanet.com


ถูกเรียกสอบสวนข้อหา"ลักทรัพย์"


เนื่องจากพี่ชายดิฉันได้ไปทำงานต่างสกลนคร โดยได้รับการชักชวนจากคนรู้จัก (คนรู้จักในที่นี้สมมุติว่าชื่อนาย 1) เนื่องจากว่าเห็นว่ามีฝีมือในการทำงาน ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับรับเหมาอู่รถ เมื่อเห็นดังนั้นนาย 1 จึงติดต่อกับนายจ้างที่ต่างจังหวัด เมื่อนายจ้างเห็นดังนี้จึงเสนอเงินเป็นลักษณะค่าตอบแทนให้ก่อนล่วงหน้า 30000 พี่ชายดิฉันจึงเห็นเช่นนี้ จึงตัดสินใจเข้าทำงานด้วย วันหนึ่งพี่ชายดิฉันมีงานที่ต้องออกนอกพื้นที่ ไปที่จ . ระยอง แต่ได้นำรถยนต์ส่วนตัวไป แต่เนื่องจากวันนั้นแบตตารี่รถตนหมด จึงขอยืมแบตตารี่รถของบริษัท ซึ่งนายจ้างให้นาย 1 เป็นผู้ดูแลอยู่ นาย1 รับทราบการยืมแบตตารี่ในครั้งนี้ แต่เมื่องานเสร็จพี่ชายดิฉันเห็นว่าน่าจะแวะกลับบ้านเพื่อเยี่ยมลูกสาว ที่โคราช จึงได้ขับรถกลับบ้านและพี่ชายจึงโทรติดต่อกับนาย 1 ว่าจะส่งแบตตารี่ให้คืน นาย 1 บอกว่าให้ฝากรถทัวร์ไปเผื่อต้องการใช้งานก่อน แต่พี่ชายเกรงว่าจะไม่มีคนที่บริษัทไปรับและจะสูญหาย จึงเสนอว่าจะเก็บแบตไว้และจะคืนให้เมื่อมีรถบริษัทมาที่โคราช และประมาณ 1-2 วัน นาย 1 ได้มาทำการซื้อขายรถที่โคราช ให้กับบริษัทที่สกลนคร ที่พี่ชายทำอยู่ พี่ชายจึงนำแบตตารี่ไปคืน แต่นาย 1 กลับบอกว่าไม่รับ เพราะเนื่องจากทางบริษัทสกลนครได้ซื้อใหม่แล้ว และสั่งไม่ให้ลูกน้องยกขึ้นรถ เมื่อเห็นดังนั้น พี่ชายจึงได้ฝากแบตตารี่ไปกับลูกน้องอีกคน และยกแบตตารี่ขึ้นรถ ฝากไปยังบริษัทที่สกลนคร และกลับไปทำงานที่สกลนครหลังจาก 2 วันนั้น และเมื่อทำงานได้ประมาณ 2 เดือน พี่ชายเห็นว่าการทำงานเรื่มมีการใช้งานหนักเกิดขึ้นเห้นว่าตนเรื่มถูกเอาเปรียบ จึงได้ย้ายกลับมาทำงานที่โคราช นายจ้างรับรู้การกลับมา และนับเวลากลับไปประมาณ 5 เดือนหลังจากพี่ชายกลับมาทำงานที่โคราช " มีหมายเรียกการสอบสวนผู้ต้องหา จากตำรวจ ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง" ซึ่งนาย 1 เป็นผู้แจ้งข้อหา

จึงอยากเรียนถามว่า

1. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพี่ชายสงสัยว่าตนถูกกลั่นแกล้ง เพราะไม่เคยทำผิดทางกฎหมาย เนื่องจากว่านาย 1 รับรู้การยืมและคืนแบต และเหมือนต้องการเงิน 30000 ที่นายจ้างให้มาครั้งแรก พี่ชายสามารถฟ้องกลับได้หรือไม่ อย่างไร

2. หากเรารู้ภายหลังว่านายจ้างสมรู้ร่วมคิดกับนาย 1 เพื่อต้องการเงิน 30000 คืน แต่กล่าวหาว่าพี่ชายลักทรัพย์ กรณีนี้มีความผิดอย่างไร และพี่ชายควรทำอย่างไร

3. หากพี่ชายยินดีให้การสอบปากคำ เพราะเชื่อว่าตนไม่ได้กระทำผิด แต่ไม่สะดวกในการเดินทางให้ปากคำ สามารถขอเลื่อนการสอบสวนในครั้งนี้ได้หรือไม่ อย่างไร

ขอความกรุราในการตอบคำถาม และขอขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ สุธิดา (B4872276MN-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-11-01 16:39:59


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2124362)

1. จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพี่ชายสงสัยว่าตนถูกกลั่นแกล้ง เพราะไม่เคยทำผิดทางกฎหมาย เนื่องจากว่านาย 1 รับรู้การยืมและคืนแบต และเหมือนต้องการเงิน 30000 ที่นายจ้างให้มาครั้งแรก พี่ชายสามารถฟ้องกลับได้หรือไม่ อย่างไร

ตอบ--ฟ้องกลับข้อหาอะไรครับ ผมว่า เอาคดีที่เราถูกดำเนินคดีให้รอดก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องอื่นต่อไปครับ เพราะคุณก็ฟ้องเขามาอีกทีจะจริงมากน้อยอย่างไรก็เป็นเรื่องทางคดี และไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง ตามที่เล่ามาก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก ศาลจะเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องรอคำพิพากษาเสียก่อนที่จะคิดฟ้องกลับครับ

2. หากเรารู้ภายหลังว่านายจ้างสมรู้ร่วมคิดกับนาย 1 เพื่อต้องการเงิน 30000 คืน แต่กล่าวหาว่าพี่ชายลักทรัพย์ กรณีนี้มีความผิดอย่างไร และพี่ชายควรทำอย่างไร

ตอบ--คงตอบได้ตามข้อ 1 ครับ นายจ้างกับนาย 1 จะเป็นคนเลวแบบนั้นจริงหรือ??? เพื่ออะไร?? เงิน 30,000 บาท เรามีหลักฐานอะไร  ?? เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะพิสูจน์

3. หากพี่ชายยินดีให้การสอบปากคำ เพราะเชื่อว่าตนไม่ได้กระทำผิด แต่ไม่สะดวกในการเดินทางให้ปากคำ สามารถขอเลื่อนการสอบสวนในครั้งนี้ได้หรือไม่ อย่างไร

ตอบ-- ติดต่อประสานงานกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครับ

 

ยินดีให้คำปรึกษากฎหมาย

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-11-01 18:03:46



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล