ความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดที่เกิดขึ้นโดยที่ผู้กระทำความผิดไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดการสูญเสียขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องเยียวยากันไป

การบรรเทาความเสียหายก็เป็นเรื่องที่ต้องแสดงเจตนาให้ศาลเห็นถึงความสำนึกผิด แนะนำว่าควรยื่นข้อเสนอขอผ่อนชำระในส่วนที่เกินจากเงินสดที่เราหาได้ เพราะชีวิตคนไม่สามารถตีเป็นราคาเงินได้ แต่จำนวน 60.000 บาท อาจมากสำหรับบางคน แต่ในมุมของฝ่ายผู้สูญเสียก็ไม่ใช่เงินจำนวนมาก

ถ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ

ที่ทุกข์ใจมากคือสามีไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายไทย ไม่สามารถแยกได้ระหว่างคดีแพ่งและคดีอาญาคนทุกข์ใจมากที่สุดคือดิฉันเอง เขาคิดว่าประกันต้องเป็นคนจ่ายเท่านั้น ที่สำนักงานมีทนายที่จะอธิบายให้เขาฟังได้ไหม ถ้าได้จะได้นำเขาไปพบและจะได้กระจ่างเสียที

ชีวิตคนไม่ใช่ทรัพย์สิน สิ่งของที่จะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ ดังนั้นการเอาประกันภัยไว้แล้วและบริษัทผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไปแล้วก็เป็นอันหมดภาระหน้าที่ของผู้กระทำความผิด การใช้เหตุผล (ตรรก) ว่าประกันเป็นคนจ่ายแล้วจบกันคงไม่ถูกต้อง

แม้เป็นทรัพย์สินที่เสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุก็ตาม หาใช่ว่าทางบริษัทประกันภัยจะได้ชดใช้ให้ครบถ้วนหรือเป็นที่พอใจแก่เจ้าของทรัพย์(รถยนต์) ก็หาไม่ เพราะบางรายก็มีการฟ้องร้องเรียกค่าขาดประโยชน์และค่าเสื่อมสภาพกันอีกโดยที่ทางประกันภัยไม่ยอมจ่ายเงินในส่วนนี้ เนื่องจากเงื่องไขและข้อตกลงในการทำประกันภัยเป็นเรื่องระหว่างคู่สัญญาว่าจะตกลงกันอย่างไร ไม่ได้หมายถึงผู้ได้รับความเสียหายจะได้รับความคุ้มครองครบถ้วนเสมอไป

ทุกคนที่อยู่ภายใต้กฎหมายไทยก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย การจะทำให้เข้าใจกฎหมายไทยมากขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องรับผิด ผมเห็นว่าแม้จะมาทำความเข้าใจเรื่องกฎหมายให้ดีขึ้นก็คงไม่สามารถทำให้คดีเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นถ้าเขาต้องการทราบอะไรก็สามารถสอบถามเป็นข้อ ๆ มา คุณก็น่าจะพออธิบายในส่วนที่เขาสงสัยให้เข้าใจได้มากขึ้นก็ได้