ReadyPlanet.com


สัญญาที่ไม่เป้นธรรม


สวัสดีคับ ผมมีเรื่องจะขอคำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายของสัญญาที่ไม่เป้นธรรม เรื่องของผมมีอยู่ว่า ในปี 2551 ผมได้ทำการจองเเละทำสัญญา ซื้อขายของคอนโดมิดนี่ยมเเห่งหนึ่ง ในตอนนั้นทางโครงการได้ชักชวนเเละเเจกใบโบร์ชัวร์ ว่าจะเสร็จในปี 2552 อย่างเป้นทางการ ในปี2551 วันที่ผมทำสัญญาไปนั้นผมได้ใช้ชื่อพี่ชาย เพราะว่าตัวผมอยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถกลับมาได้ถ้าคอนโดสร้างเสร็จช้าหรือว่าทางโครงการมีปัญหา พี่ชาของผมก็จะเป็นผู้ดำเนินการให้ ในตอนนั้นทางโครงการยังเเทบไม่ได้สร้างอะไรเลย โดยที่ทางโครงการระบุลงไปในสัญญาว่าจะเสร็จ ใน 30 เดือน (2.5 ปีนับจาก 1 มกราคม 2553) เเละได้ระบุลงไปอีกว่าถ้าได้มีการเปลี่ยนชื่อบุคคลในสัญญาฉบับนี้ บุคคลที่เปลี่ยนนั้นจะต้องรับทั้งสิทธิเเละหน้าที่ของสัญญาฉบับนี้ไปทั้งหมด หลังจากนั้น ผมก็เดินทางกลับต่างประเทศ เเละผมก็ผ่อนส่งมาโดยตลอด จนกระทั่งผ่าน ปี 2552 เเละเข้าปี 2553 ในปี 2553 เดือน เมษายน ผมเล็งเห้นว่าทางโครงการดำเนินการก่อสร้างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงัก ผมเลยให้พี่ชายของผม เปลี่ยนชื่อในสัญญามาเป็นชื่อของผมเเทน โดยไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายเเต่อย่างใด เพราะว่าเป้นคนนามสกุลเดียวกันเเละสัญญาฉบับเดียวกัน โดยที่ทางโครงากรก็รับทราบว่าผมเป็นเจ้าของ

ต่อมาทางโครงการได้ส่งเอกสารสัญญาตัวใหม่ที่เป้นชื่อของผมเซ็น ที่ต่างประเทศ โดยที่ผมจำข้อมูลในสัญญาเก่าได้ว่า ราคาห้อง เเละห้องชนิดอะไร ผ่อนเดือนเท่าไหร่ เหลือผ่อนเท่าไหร่ผมจำได้หมด เเละเล็งเห็นว่าสัญญาตัวเก่าคล้ายๆกับสัญญาตัวใหม่โดยที่ผมไม่ได้เอาสัญญาตัวเก่ามาเปรียบเทียบเเบบละเอียดว่าอะไรต่างกันเเบบไหน เพราะว่าเนื้อหาโดยรวมเหมือนกัน เพราะว่าสัญญาที่เป้นชื่อพี่ชาย อยู่ทีพี่ชายของผมอยู่ที่ประเทศไทย ไม่ได้อยู่กับผมที่ต่างประเทศ เเละทางโครงการก็ได้รับคืนไปด้วย(เเต่ผมมีสำเนาถ่ายไว้นะคับ) โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าในสัญญาตัวใหม่ ทางโครงการเเอบเปลี่ยนวันกำหนดเสร็จเป็น ธันวา 2553 เเต่สัญญาตัวเก่ากำหนดเสร็จ 30 เดือนก็คือ พฤษภาคม 2553 หลังจากนั้น ก็เข้าปี 2554 มกราคม ทางโครงการก็ใกล้เสร็จเเล้วเเต่ก็ยังเลยเวลาอยู่ดี ไม่มีวี่เเววว่าจะส่งจดหมายรับห้องมาให้ผมเเต่อย่างใด ผมเสียโอกาสกับโครงการนี้ไปมาก เเละรอนานมากจนผมไม่อยากได้มันอีกต่อไปเเล้ว ผมเลยตัดสินใจ ยกเลิกสัญญา เเละขอเงินดาวน์คืนทั้งหมด  เพราะว่าทางโครงการระบุวันกำหนดเสร็จ 2.5 ปี ในสัญญาฉบับเก่า เเละระบุรับมอบสิทธิเเละหน้าที่ เเต่เมื่อเปลี่ยนชื่อมาเป้นผมเค้าให้ผมเป็นคนรับหน้าที่ผ่อนต่อ (เเต่โดยปกติผมก็เป็นคนผ่อนอยู่เเล้ว)เเต่ กลับไปตัดสิทธิของผมที่จะได้เข้าอยู่ในกลางปี 2553 (2.5 ปีระบุเสร็จ) เเละระบุว่าสามารถยกเลิกสัญญาได้ถ้า เกิน 2.5 ปี พอเปลี่ยนสัญญา ฉบับใหม่มาเป้นชื่อของผม กลับไปเปลี่ยนข้อความว่าเสร็จปี 2553 ธันวาคม ทั้งๆ ที่ห้องเเละสัญญาก็เป็นเเบบเดียวกัน ผ่อนต่อเนื่องกันมาตั้งเเต่ 2551 ในสัญญาฉบับใหม่ก็ระบุว่างวดเเรกเริ่มผ่อน ตั้งเเต่ 2551 มาจนถึง 2553   ไม่ทราบว่า สัญญาฉบับใหม่เมื่อไปถึงขั้นตอนศาลหรือว่าขั้นตอน สคบ เเล้วจะมีผลเป้นเเบบไหนบ้างคับ ของคุณมากคับ

 



ผู้ตั้งกระทู้ Jack :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-18 11:56:00


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2154543)

 เมื่อมีการทำสัญญาฉบับใหม่ย่อมมีผลให้ยกเลิกข้อตกลงเดิมที่ทำไว้ต่อกัน ดังนั้นไม่ว่าเป็นเรื่องวันแล้วเสร็จที่เคยตกลงกันไว้แต่เดิมอย่างไร ก็ต้องผูกพันกันตามสัญญาฉบับใหม่เพราะถือว่าคุณทราบข้อความและยอมรับข้อตกลงใหม่แล้วครับ

เมื่อถึงศาล หรือ สคบ ก็ตาม คู่สัญญาย่อมผูกพันกันตามสัญญาใหม่ครับ การอ้างว่าไม่ได้อ่านละเอียดคงฟังไม่ขึ้นครับ เพราะการเข้าทำสัญญาเป็นการแสดงเจตนาที่จะผูกพันตามข้อตกลงทุกประการ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-18 21:08:28


ความคิดเห็นที่ 2 (2154641)

เเล้วในกรณ๊ ของ สัญญาฉบับใหม่ ระบุวันเเล้วเสร็จ ธันวาคม 2553 โดยที่ไม่เสร็จผมจะสามารถคืนห้องหรือเรียกร้องค่าปรับก็ได้ เเต่ทว่า ก่อนหน้าวันที่ 31ธันวาคม2553 ไม่ได้มีจดหมายจากทางโครงการให้มีการไปรับห้องเเต่อย่างใด เเละเมื่อวันที่ 2มกราคม ผมโทรไปที่ทางโครงการ ทางโครงการให้เหตุผลว่ายังไม่อนุญาติให้ขึ้นไปดูห้องชุดของผมได้ ต้องรอให้เรียกเสียก่อนจึงจะมีการขึ้นไปดูได้ ผมได้ทำการยกเลิกสัญญา กับทางโครงการ เมื่อวันที่ 19 มกราคมเพราะว่า ต่อให้เป้นสัญญาฉบับใหม่ก็ยังไม่สามารถ ทำให้เสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้จริง ในกรณีเเบบนี้ ผลจะเป้นเเบบไหนบ้างคับ ขอบคุณคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น jack วันที่ตอบ 2011-02-19 11:13:04


ความคิดเห็นที่ 3 (2154652)

กรณีที่คุ่สัญญาฝ่ายใดผิดสัญญา ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ การบอกเลิกสัญญาทำให้สัญญาสิ้นสุดลง และทำให้คู่สัญญากลับคืนฐานะเดิมเหมือนไม่เคยทำสัญญากันมาก่อน คุณจึงมีสิทธิเรียกเงินคืน และไม่ตัดสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายได้ครับ

กรณีของคุณต้องอาศัยข้อเท็จจริงอื่น ๆประกอบด้วย การใช้สิทธิทางศาลอาจใช้ระยะเวลาพอสมควร ดังนั้นผู้บริโภคหลายรายต้องจำใจรับข้อเสนอเสียเปรียบเพื่อให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะรักษาสิทธิของตนเองโดยยอมเสียเวลาและคอยผลที่ศาลจะวินิจฉัยครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-19 11:57:06


ความคิดเห็นที่ 4 (2154674)

ข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

ข้อตกลงในสัญญาระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบธุรกิจการค้าหรือวิชาชีพหรือในสัญญาสำเร็จรูปหรือในสัญญาขายฝากที่ผู้บริโภคเสียเปรียบและรับภาระเกินกว่าที่วิญญูชนจะพึงคาดหมายได้ตามปกติเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมบังคังได้เพียงเท่าที่เป็นธรรมและพอสมควรแก่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  6088/2550
 
พ.ร.บ.ว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540 มาตรา 4

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-19 12:56:24


ความคิดเห็นที่ 5 (2154706)

- คับ ผมได้ความเข้าใจพอกระจ่างเเล้วคับ เเล้วในกรณีที่ ทางโครงการได้ออกเอกสารต่างๆมา เช่น ใบโบร์ชัวร์ระบุวันเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2552 เเละในสัญญาตัวเก่าระบุ เสร็จ 30เดือน นับจากวันที่ 1มกราคม เเต่ในสัญญาฉบับใหม่กลับระบุเป็น 31ธันวา 2553 ในกรณีเเบบนี้เข้าค่ายให้ข้อมูลเป็นเท็จ ที่ใช้ในการประกอบการพิจารณาของศาลได้หรือไม่คับ ? 

 - เพราะว่าทางโครงการก้เลื่อนไปๆมาๆ โดยที่ไม่ไ่ด้ทำากรเเจ้งอะไรเเต่อย่างใด ต่อให้เปลี่ยนชื่อมาจากสัญญาฉบับเก่า มันก็สมควรจะได้รับทั้งสิทธิเเละหน้าที่ ดังที่สัญญาเก่าระบุเอาไว้มาตั้งเเต่เเรก โดยที่สิทธิก็คือสิทธิทุกข้อที่อยู่ในสัญญาเก่า หน้าที่ก็คือหน้าที่ในการรับผิดชอบผ่อนเงินต่อ เเละอีกอย่างในการเปลี่ยนสัญญาตัวใหม่ มันเปรียบเสือนการบังคับให้เซ็นลงไป เพราะว่าถ้าไม่รับในเงื่อนไขใหม่ ก็ไม่สามารถ ทำสัญญาตัวใหม่ขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่ข้อมูล ราคา ห้องเดียวกันเเละสิทธิอื่นๆ ก็เหมือนกันทุหประการ ตั้งเเต่สมัยสัญญาตัวเก่า เเต่กลับไปเปลี่ยนให้ยืดเวลาออกไปโดยที่ไมไ่ด้เเจ้งกล่าว ต่อให้ผมรู้มาตั้งเเต่เเรกเเละโต้เเย้งไปทางโครงการก็ไม่อนุญาติให้ผมเปลี่ยนเป็นเเบบเดิม เเบบนี้ผู้ประกอบการสามารถที่จะเขียนข้อความเอาตัวเองรอดยังไงลงไปก็ได้สิคับ ตามที่ผมเข้าใจเป็นไปได้ไหมคับ ว่าในกรณีของผมทางศาลจะเริ่มพิจารณา มาจากจุดเเรกเริ่มตั้งเเต่ สมัยปี 2551 ไปจนถึงสัญญาตัวใหม่สิ้นสุดลงในปี 2553 ?

ขอบคุณนะคับสำหรับทุกคำตอบ

ผู้แสดงความคิดเห็น jack วันที่ตอบ 2011-02-19 14:53:09


ความคิดเห็นที่ 6 (2154720)

- ในกรณีที่ ทางโครงการได้ออกเอกสารต่างๆมา เช่น ใบโบร์ชัวร์ระบุวันเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2552 เเละในสัญญาตัวเก่าระบุ เสร็จ 30 เดือน นับจากวันที่ 1 มกราคม เเต่ในสัญญาฉบับใหม่กลับระบุเป็น 31 ธันวา 2553 ในกรณีเเบบนี้เข้าข่ายให้ข้อมูลเป็นเท็จ ที่ใช้ในการประกอบการพิจารณาของศาลได้หรือไม่คับ ? 

ตอบ --สำหรับประเด็นนี้ผมมองว่า เกี่ยวกับเรื่องวันแล้วเสร็จนั้น  สัญญาฉบับใหม่ที่มีข้อตกลงใหม่ย่อมลบล้างเงื่อนไขในเอกสารใบประกาศโฆษณา (โบชัวร์) แล้ว เป็นเรื่องเจตนาของคู่สัญญาที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ผิดแผกแตกต่างจากสัญญาของรายอื่น หรือเอกสารอื่น ๆ ได้อยู่แล้ว

หมายเหตุ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นเจ้าของโครงการไม่ค่อยแจ้งวันกำหนดแล้วเสร็จคงแจ้งเพียงระยะเวลาดำเนินการเช่น 30 เดือน ซึ่งเป็นกำหนดการโดยทั่วไปเท่านั้นจะถือเป็นมาตรฐานเดียวกันกับทุกคู่สัญญาคงไม่ได้ เพราะผู้ซื้อบางรายอาจมีการตกลงให้ผู้ขายก่อสร้างตามแบบแปลนที่ผู้ซื้อกำหนดมาก็ได้ ดังนั้นใบประกาศโฆษณาดังกล่าวจึงน่าจะถือเป็นหลักการทั่ว ๆ ไป ส่วนระหว่างคู่สัญญาต้องผูกพันตามเจตนารมณ์ที่ทำสัญญาไว้ต่อกัน

---ตามที่ผมเข้าใจเป็นไปได้ไหมคับ ว่าในกรณีของผมทางศาลจะเริ่มพิจารณา มาจากจุดเเรกเริ่มตั้งเเต่ สมัยปี 2551 ไปจนถึงสัญญาตัวใหม่สิ้นสุดลงในปี 2553 ?

ตอบ-- ในเรื่องการพิจารณาคดีในศาลเป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายใดมีน้ำหนักมากกว่ากันก็ต้องว่ากันไปและคู่ความก็จะต้องผูกพันตามคำพิพากษา

แต่ในกรณีที่ถามเป็นเพียงแนวทางความเป็นไปได้ในทางคดีเท่านั้นซึ่งคำตอบของผมเป็นเพียงความเห็นซึ่งคุณอาจจะสอบถามแหล่งข้อมูลจากที่อื่นและอาจได้คำตอบที่อาจแตกต่างกันไปบ้าง ก็ไม่สามารถใช้อ้างอิงอะไรได้

กลับมายังคำถามของคุณอีกครั้ง เรื่องการตกลงเข้าทำสัญญาไม่มีใครบังคับคุณได้ ถ้าคุณเห็นว่าสัญญาไม่ถูกต้องตั้งแต่แรกคุณก็มีสิทธิไม่ยอมรับตั้งแต่แรกได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่าสัญญาจะเกิดหรือไม่เกิด และต้องพิจารณาประเด็นที่กำลังเป็นปัญหาประกอบด้วย เช่น คุณกำลังมองว่า โครงการหรือผู้ขายไม่แล้วเสร็จตามสัญญาเดิม ซึ่งคุณยังมองอีกว่า คู่สัญญาใหม่ต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ ดังที่คุณอ้างถึงข้างต้นนั้น ผมมองว่า การที่คุณรู้เงื่อนไขในสัญญาใหม่ในเรื่องเกี่ยวกับวันกำหนดแล้วเสร็จและคุณก็ตกลงทำสัญญานั้น เงื่อนไขในเรื่องนี้ผมเห็นว่าไม่น่าจะอ้างสัญญาที่ไม่เป็นธรรมได้ เหตุผลของผมก็คือ มันเป็นเงื่อนไขที่คุณจะตกลงหรือไม่ก็ได้ ถ้าคุณเห็นว่าทางโครงการผิดสัญญาตั้งก่อนวันทำสัญญา คุณย่อมบอกกล่าวเลิกสัญญาและเรียกร้องเงินคืนได้ (ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่อง)

แต่คุณกลับเข้าทำสัญญาอันเป็นการส่อไปในทางว่าคุณได้สละเงื่อนไข วันกำหนดแล้วเสร็จ 30 เดือนไปแล้ว และยอมผูกพันตามเงื่อนไขในสัญญาฉบับใหม่ (ความเห็น)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-19 15:45:55



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล