ReadyPlanet.com


ปัญหาเรื่องครอบครัว


            เนื่องจาก ทางครอบครัวหนู หนูเป็นลูกถูกต้องตามกฎหมายนะคะ ซึ่งปัญหามีอยู่ว่า คุณพ่อของหนูทำงานเป็นเซลล์อยู่ทางภาคเหนือ ได้เข้าโรงพยาบาล ที่เชียงใหม่ ตั้งแต่ 16/05/57 ซึ่งตอนนี้อาการของคุณพ่อสมองยังไม่ฟื้นตัวดี ยังไม่สามารถพูดได้ และทำตามคำสั่งได้ เกิดจาก หัวใจหยุดเต้นไป แล้วซึ่งตอนนี้ ทางครอบครับหนู มีปัญหา เกี่ยวกับ ทรัพย์สิน เพราะทุกอย่าง เช่น book bank ของคุณพ่อมีจำนวนมากไม่ได้อยู่ที่บ้านมีคนนำไปเก็บไว้โดยที่หนูไม่ทราบจำนวน, บัตรเอทีเอม ก็ไม่อยู่กับทางครอบครัวหนู เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งหมด และมีการผ่อนรถ ที่ยังไม่หมดด้วย เป็น ชื่อ ของคุณพ่อหมด หนูไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่สามารถนำเงินออกมาใช้ได้เลย แล้วภายหลังไปพบว่า คุณพ่อได้มีการซื้อบ้านอีกหลังให้ บ้านเล็ก โดยที่หนูไม่ทราบมาเป็นเวลา 10 กว่าปีว่าพ่อหนูมีบ้านเล็ก คุณพ่อได้ซื้อบ้านหลังนั้น ที่เชียงใหม่ ซื้อ ตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ระยะเวลาผ่อน 12 ปี แต่บ้านหลังนี้ก็เป็นชื่อคุณพ่อ เช่นกัน หนูต้องทำยังไงคะ หนูอายุ 22 ปี ตอนนี้หนูกลายเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งหนูเริ่มอะไรไม่ถูก มีคนแนะนำให้ต้องหาทนายความ อยากให้คุณทนายช่วยหนูด้วยนะคะ



ผู้ตั้งกระทู้ Ammarawadee :: วันที่ลงประกาศ 2014-06-17 00:04:45


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3665581)

ผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ถึงขนาดเป็นคนวิกลจริต คุณเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายสามารถยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลสั่งให้บิดาเป็นคนไร้ความสามารถและแต่งตั้งให้คุณเป็นผู้อนุบาลได้ครับ

 

(ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง)

สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถ
 
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6565/2557 
 
ป.พ.พ. มาตรา 1463 บัญญัติว่า "ในกรณีที่ศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ ภริยาหรือสามีย่อมเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ แต่เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรืออัยการร้องขอและถ้ามีเหตุสำคัญศาลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ก็ได้" แสดงว่ากฎหมายกำหนดให้สามีหรือภริยาต้องเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ ส่วนผู้อื่นจะเป็นผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ได้จะต้องมีเหตุสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงในคดีปรากฏว่า ผู้ร้องสมรสและอยู่กินกับ จ. มาตั้งแต่ปี 2518 แม้ข้อเท็จจริงจะยังไม่อาจรับฟังได้เป็นยุตติว่าระหว่างที่ผู้ร้องย้ายไปรับราชการในจังหวัดต่างๆ จ.  ได้ติดตามไปอยู่ด้วยโดยตลอดหรือไม่ แต่ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องและ จ. มีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือมีเหตุที่ไม่ประสงค์จะอยู่กินเป็นสามีภริยากันอีกต่อไป ทั้งกลับปรากฏข้อเท็จจริงว่า หลังจากเกษียณราชการผู้ร้องได้มาอยู่ที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นภูมิลำเนาถิ่นฐานของ จ. แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องและ จ. ยังมีความ ประสงค์จะอยู่กินเป็นสามีภริยากันต่อไปและยังได้ความด้วยว่า ตั้งแต่ผู้ร้องกับ จ. สมรสกัน  จ.ไม่ได้ประกอบอาชีพหรือทำการงานใดๆ แสดงว่าผู้ร้องเป็นฝ่ายหารายได้เพียงฝ่ายเดียวตลอดมา นอกจากนี้แล้วแม้ฝ่ายใดจะได้เป็นผู้อนุบาล จ. แต่ในเรื่องทรัพย์สินระหว่างผู้ร้องและ จ. ก็ต้องเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ลักษณะ 1 หมวด 4 เรื่องทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา มิใช่จะมีอำนาจจัดการได้ตามอำเภอใจ แม้ผู้คัดค้านที่ 1 จะเป็นบุตรของ จ. แต่เหตุที่มีการคัดค้านการเป็นผู้อนุบาลของผู้ร้อง ก็สืบเนื่องมาจากพิพาทเรื่องทรัพย์สินของ จ. มิใช่เรื่องการดูแล จ. เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็อ้างว่ามีความสามารถในการดูแล จ.  เมื่อพิเคราะห์บทบัญญัติของกฎหมายดังได้ วินิจฉัยแล้ว ผู้ร้องจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้อนุบาล จ.
ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2014-07-05 14:45:45



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล