ดิฉันเป็นเจ้าของที่ดิน  ได้อนุญาตให้นาย ป. ผู้รับเหมา (ซึ่งเป็นเพื่อน)ปลูกสร้างบ้านในที่ดินเพื่อขายให้แก่ นส.ภ. ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย  และดิฉันเซ็นอนุญาตปลูกสร้างให้นาย ป.  สร้างบ้าน ในระหว่างสร้าง นส.ภ  ตกลงเซ็นสัญญาว่าจะจ่ายเงินจอง 250,000   บาท และส่วนที่เหลือ  230,000 บาท รวม 480,000 บาท ภายในเวลา 10 เดือน ในสัญญาระบุจะต้องชำระดอกเบี้ยอัตรา 1.25% หากผิดนัดชำระ มิฉะนั้นผู้ขายมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาและริบเงินมัดจำ    ซึ่ง นส.ภ  ผิดนัดชำระหนี้ ไม่ตรงตามกำหนด ภายในสิบเดือน  ด้วยว่า นายป.กับ นส.ภ เป็นญาติกันจึงไม่ได้ฟ้องร้อง  เป็นเวลาเกอบสองปี  ชำระมาทั้งหมด 462,000 บาท  เป็นเวลาล่วงมาสองปี  ข้าพเจ้าจึงทำจดหมายแจ้งเพื่อให้ชำระเงินคงค้างตามสัญญา และให้เวลา1 เดือน 1 สัปดาห์ แต่ นส.ภ  แจ้งว่ายื่นกู้ที่ธนาคารไหนก็ไม่ผ่านและเงียบหายไปเป็นเวลา  1 ปี     

นส.ภ  ได้ให้ทนายเขียนจดหมายมาแจ้งจะฟ้องร้องดำเนินคดีหาก  นายป.ผู้รับเหมาและข้าพเจ้าเจ้าของที่ดินไม่คืนเงินที่มัดจำให้  โดยกล่าวเท็จแก่ทนาย  เขียนมาว่าส่งเงินมา  10 งวดแล้ว ข้าพเจ้ากับนายป.  แจ้งว่ากู้ไม่ผ่านโดยไม่แจ้งเหตุผลใดๆ   เป็นเหตุให้ผู้ซื้อขอบอกเลิกสัญญา  ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีการบอกเลิกสัญญาใดๆ   อ้างต่อว่า  ให้คู่ความทั้งสิงฝ่ายกลับสู่สถานะเดิม  โดยข้าพเจ้าและนายป.  ต้องร่วมกันคืนเงินภายใน 7 วัน  นับแต่วันที่ได้รับหนังสือบอกกล่าวนี้  หากท่านยังเพิกเฉย  นส.พ  จะใช้สิทธิดำเนินการต่อทั้งสองตามกฏหมายทันที  ข้อความดังกล่าว  นส.ภ.  ได้จ้างทนายแก้ต่างความผิด  และโกหกว่ามีการบอกเลิกสัญญา  

คำถามคือข้าพเจ้า  เจ้าของที่ซึ่งโดนฟ้องด้วย  แต่ผู้รับเหมา  ได้รับเงินทั้งหมดไปเพื่อซื้อวัสดุและก่อสร้างบ้าน มเนื่องจาก  ข้าพเจ้าต้องการขายเพียงให้ชำระราคาที่ดิน 600,000 บาทเท่านั้น  แต่ไปเซ็นอนุญาตให้เพื่อนผู้รับเหมาก่อสร้าง   ขายในราคา 1,980,000 บาท  ซึ่งผู้รับเหมาอ้างว่าต้องใช้เงินที่เก็บจากผู้จะซื้อมาลงทุนสร้างและเงินอีกจำนวนไปกู้มาเพื่อทำบ้านให้เสร็จ  แต่แล้วก็มาผิดนัดชำระและกู้ธนาคารไม่ผ่านเลยสักแห่ง  บ้านก็ทำตามสั่งวัสดุบ้านและสีประหลาด  ทำให้ผู้รับเหมาแบกภาระดอกเบี้ยที่กู้มาทำบ้าน    เหตุการณ์แบบนี้  ข่าพเจ้า หรือ นายป.  เพื่อนที่เป็นผู้รับเหมา  ควรจ้างทนายสู้หรือไม่  มีทางชนะหรือไม่

ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบ