ReadyPlanet.com


บ้านถูกยึดขายทอดตลาด ยังถูกตามทวงหนี้จากแบงค์อีกมโหฬาร


 สวัสดีค่ะ สามีซื้อคอนโดไว้ เมื่อราวๆปี 37 ก่อนจะแต่งงานกัน กู้กับธนาคารกรุงไทย 240,000 บาท ผ่อนไปได้สักสี่ห้าปี แล้วไม่ได้ผ่อนต่อ ธนาคารจึงเรียกไปขึ้นศาล ศาลให้คุยตกลงกัน จึงมีการเจรจาคุยกับแบงค์ว่าจะจ่ายต่อและก็มีเอกสารมาให้เซ็นวันที่ไปศาล (ไม่รู้ว่าเอกสารอะไร จำไม่ได้ด้วยว่าเซ็นอะไรไป...ยังโกรธตัวเองอยู่ว่าโง่จริงๆ ที่เซ้นอะไรซี๊ซั๊ว) หลังจากไกล่เกลี่ยที่ศาล เราก็ผ่อนไปอีกสักระยะ แล้วไม่ได้ผ่อนอีก เพราะการเงินมันติดขัดค่ะ ศาลมีคำสั่งให้ยึดแล้วขายทอดตลาดไปเมื่อ ธค 46 หลังจากนั้น เราก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไร คิดว่าขายทอดตลาดไปแล้วคงจะจบกันไปแล้ว และ ครอบครัวเราก็ย้ายมาอยู่ต่างประเทศ แทบไม่ได้กลับไปเมืองไทย จดหมายทุกอย่างแม่สามีเป็นคนรับให้
 
เมื่อสองเดือนก่อน กลับไปเมืองไทย จึงเปิด จดหมายต่างๆอ่าน ปรากฎว่า ธนาคารกรุงไทยส่งเอกสารมาว่า เรามีหนี้ 22000 ซึ่งเอกสารนั้นเป็นเอกสารที่ส่งไปให้เครดิตบูโร เราจึงเดินทางไปที่ธนาคาร คิดซะว่ามาใช้หนี้ให้หมดๆ จะได้จบๆกันไป
 
พอไปธนาคาร ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายบอกว่าเราไม่ได้เป็นหนี้แค่นั้น เพราะนั่นเป็นส่วนเฉพาะที่เค้าส่งไปที่เครดิตบูโร เค้าเอาเอกสารแฟ้มกองโตมา แล้วก็อธิบายโยงไปที่ตัวเลขหลายตัวจนงง เค้าบอกว่า คอนโดที่ขายไปได้ รวๆ 210,000 มันไม่พอจ่าย นั่นมันหักได้เฉพาะต้น ยังต้องค้างต้นบวกค่าธรรมเนียมราวๆ 24,000 ส่วนดอกเบี้ย นับถึงแค่ปี 44 เรายังติดอยู่เกือบ 370,000 (เค้ามีจดหมายมาบอกตัวเลข 370,000 หลังจากที่เราเข้าไปคุยกับฝ่ายนกฎหมายเค้าแล้ว)
 
เรารู้สึกช๊อคกันมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี ทำไมทั้งยึดบ้านเราไปแล้ว ขายทอดตลาดแล้ว เราผ่อนไปก็หลายปี ยังมาติดหนีราวๆ 370,000 ธนาคารบอกว่า ต้นทุนธนาคาร 24,000 นั้น ยังไงก็ต้องจ่ายแน่ ส่วนดอกก็ต่อรองกันได้ แต่ต้องเข้าที่ประชุม เราจะทำยังไงกันดีคะ เอกสารการกู้ยืม เราก็หาไม่เจอ เอกสารที่เซ็นๆไว้ตอนที่ศาลเรียกไปไกล่เกลี่ยก็หาย เราไม่รู้เลยว่าแบงค์เค้าคิดดอกเรายังไง ทำไมมันถึงได้พอกพูนขนาดนี้
 
ถึงตอนนี้ดิฉันควรจะทำยังไดีคะ สามีตอนนี้มีแต่สินทรัพย์ก่อนสมรส คือห้องแถว (ใช้ชื่อสามี เพราะพ่อเป็นคนจีนเลยซื้อไม่ได้ จริงๆไม่ใช่ของเค้า) ที่ดินเปล่าหมู่บ้านจัดสรร 2 แปลง เงินสดเราไม่มี หุ้นก็ไม่มี  หลักๆก็มีแต่อสังหาริมทรัพย์สามที่นั้น
 
คำถาม: ถ้าเขาจะยึดทรัพย์เรา แบงค์เค้ายึดได้ใช่มั้ยคะ เค้าจะทำมั้ยคะ และจะใช้ระยะเวลาสักเท่าไหร่
 
มีคำถามเพิ่มด้วยค่ะว่า ดิฉันอยากขอเอกสารทางธนาคารมาดู ว่าเค้าคิดเงินเรายังไง เราจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ ดอกที่พอขึ้นมามโหฬารมันมาจากไหน คิดจากอะไร
 
คำถาม ...ดิฉันควรจะต้องขอเอกสารอะไรจากธนาคารบ้างคะ เพื่อจะได้ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้
 
รบกวนขอคำตอบด่วน เพราะจดหมายบอกว่าให้ติดต่อกลับภายใน 7 วันค่ะ
 
ขอบคุณมากค่ะ
 



ผู้ตั้งกระทู้ Isara :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-23 15:39:18


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2156051)

คำถาม: ถ้าเขาจะยึดทรัพย์เรา แบงค์เค้ายึดได้ใช่มั้ยคะ เค้าจะทำมั้ยคะ และจะใช้ระยะเวลาสักเท่าไหร่
มีคำถามเพิ่มด้วยค่ะว่า ดิฉันอยากขอเอกสารทางธนาคารมาดู ว่าเค้าคิดเงินเรายังไง เราจ่ายไปแล้วเท่าไหร่ ดอกที่พอขึ้นมามโหฬารมันมาจากไหน คิดจากอะไร

ตอบ---   ธนาคารเป็นสถาบันการเงินที่ทำงานมีขั้นตอน หลักเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้น ข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้คุณนั้นสามารถขอตรวจสอบกันได้ ขอคำอธิบายได้ และคุณก็แจ้งความประสงค์เจ้าหนี้ไปว่า มีความประสงค์จะประนอมหนี้กับทางเจ้าหนี้ ผมคิดว่าเขาจะให้ความกระจ่างและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  สำหรับคำถามว่าเจ้าหนี้เขาจะยึดทรัพย์หรือไม่ ตอบได้ว่า ถ้าเจ้าหนี้พบทรัพย์สินของคุณแล้วเขาก็ต้องบังคับคดีแน่นอน แต่ทางที่ดีคุณควรไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ศาลที่คุณไปทำสัญญาประนีประนอมยอมความครั้งสุดท้ายว่า ศาลมีคำพิพากษาไปในวันที่เท่าใด นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เกิน 10 ปี แล้วหรือยัง ถ้าเกินแล้ว เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะบังคับคดียึดทรัพย์คุณได้อีกต่อไป ส่วนถามว่าเขาจะทำไหม? ระยะเวลานานเท่าใดนั้น ตอบว่า เขาคงทำแน่ แต่ระยะเวลาก็ต้องขึ้นอยู่กับสิทธิตามกฎหมายคือภายใน 10 ปี

คำถาม ...ดิฉันควรจะต้องขอเอกสารอะไรจากธนาคารบ้างคะ เพื่อจะได้ประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดได้

ตอบ---   ผมว่าคุณไปติดต่อที่ศาลเพื่อขออ่านสำนวนดูก่อนก็ได้จะได้มีข้อมูลในการต่อรองกับธนาคาร หรือเจ้าหนี้ และเรื่องที่คุณว่ามานี้เกิดขึ้นในปี 2537 ซึ่งในรายละเอียดยังไม่แน่ชัดว่าสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะบังคับคดีเอากับทรัพย์สินอื่น ๆ ของคุณสิ้นสุดแล้วหรือไม่?

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-24 12:45:31


ความคิดเห็นที่ 2 (2156091)

กฎหมายกำหนดไว้ว่า ถ้าได้นำทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ไม่พอ ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดในส่วนที่ขาดอยู่ แต่ไม่ตัดสิทธิคู่สัญญาที่จะทำสัญญายกเว้นข้อกฎหมายดังกล่าวนี้ได้ ในคดีนี้ เจ้าหนี้ไม่ได้ระบุในข้อสัญญาว่าลูกหนี้จะต้องรับผิดในเงินที่ขาดจำนวนอยู่ภายหลังขายทอดตลาด ลูกหนี้จึงไม่ต้องรับผิด  อีกทั้งในคำพิพากษาของศาลมิได้ระบุให้บังคับเอาจากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้อีก การที่พนักงานบังคับคดีปฏิเสธที่จะยึดทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ให้กับโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8851/2551

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-24 15:06:22


ความคิดเห็นที่ 3 (2156113)

สิ่งปลูกสร้างเป็นส่วนควบของที่ดินที่จำนอง 

สิ่งปลูกสร้างที่สร้างภายหลังการทำสัญญาจำนองโดยสภาพย่อมติดตรึงตรารวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับที่ดินที่เป็นทรัพย์ประธาน เมื่อมีการขายทอดตลาดทรัพย์ประธานซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำนอง กฎหมายบอกว่า ผู้รับจำนองจะให้ขายเรือนโรงนั้นรวมไปกับที่ดินด้วยก็ได้ แต่ผู้รับจำนองอาจใช้บุริมสิทธิของตนได้เพียงแก่ราคาที่ดินเท่านั้น (ที่ดินที่จำนอง) ในกรณีที่เจ้าหนี้จำนองไม่มีสิทธิยึดทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ส่วนที่ขาด เจ้าหนี้ก็ไม่มีสิทธิยึดสิ่งปลูกสร้าง และปัญหาที่จะตามมาคือ ผู้ซื้อที่ดินอาจเรียกให้ลูกหนี้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินของผู้ซื้อจากการขายทอดตลาด ในกรณีเช่นนี้ผลเสียก็จะตกกับลูกหนี้ เพราะการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปย่อมไม่อยู่ในสภาพที่จะขายได้ราคา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3793/2551

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-24 16:35:46


ความคิดเห็นที่ 4 (2156381)

 ขอบคุณมากค่ะ คุณลีนนท์ ก่อนอื่นคงต้องติดต่อที่แบงค์ ต่อรองดูก่อนว่าเค้าจะลดลงมาได้สักเท่าไหร่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น Isara วันที่ตอบ 2011-02-25 15:54:30



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล