ReadyPlanet.com


เรื่องขายรถให้เต้นส์ครับ โอนลอยติดไฟแนนซ์


ผมได้ซื้อรถจากเต้นส์มาใช้ได้ประมาณ 3-4 เดือน เห็นพ่ออยากได้รถใหม่เลยขายรถผม กับ รถพ่อ รวมกันขายเป็นเงินดาวส์เพื่อออกรถมือสองคันใหม่(การซื้อขายกระทำโดยเต้นส์เดิมครับ)ทางเต้นส์ก็ให้เซ็นต์โอนลอยไว้แล้วบอกว่าจะโอนให้ประมาณ 3 - 4 เดือน รอผู้ซื้อคนใหม่ จนเวลาผ่านมา 2 ปีกว่าครับ ได้รับจดหมายเตือนค่างวดรถครับ(3-4 งวด เป็นหนังสือเลิกสัญญาเช่า)ในหนังสือเป็นชื่อของผม ก็เลยไปถามทางเต้นส์ เต้นส์ยังไม่ได้โอนเขาก็ว่าจะจัดการให้(ส่วนรถของพ่อก็โดน จม.ทวงด้วย แต่รถพ่อที่ขายไปเหลือ 4 เดือนก็หมดแล้ว) ตั้งแต่วันนั้นมา ก็มีทั้ง จม. เตือน คนที่จะยึดก็มาทวง ตลอดจน 5 เดือนนี้แล้วติดต่อทางเต้นส์ตลอด เขาบอกจะจัดการให้ แต่ก็ไม่ทำอะไร ผมถามถึงผู้ซื้อคนใหม่เขาก็ไม่บอกอะไรเลย บอกว่าเป็นพักพวกกันไม่ต้องห่วงจะจัดการให้ จนผมไม่รู้ทำไงได้ลองปรึกษาทนายดู ทนายก็ว่าทำอะไรไม่ได้ เพราะ หลักฐานซื้อขายไม่มี เซ็นต์โอนลอยไปแล้ว ฟ้องก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลยเสียเปรียบทุกอย่าง ผมจึงไม่รู้จะทำยังไงครับ ลองเช็คประวัติเครดิตบูโร ก็เสียไปแล้ว
จึงอยากขอปรึกษาว่าผมจะทำไงได้บ้างครับ สรุปข้อมูลตอนนี้นะครับ(ข้อเสียเปรียบ)
1.ไม่มีหลักฐานซื้อขาย
2.เช่าซื้อจากธนาคาร(ซึ่งคนในธนาคารมีเป็นพักพวกกับเต้นส์ด้วยเพราะเขาบอกสามารถขายรถให้คนติดแบคลิสเขาได้รู้จักคนใน)
3.หลักฐานโอนลอยอยู่ที่เต้นส์
4.เต้นส์มีเส้นสายมีเงิน ผมแค่คนธรรมดาที่อยากจะได้สิทธิความถูกต้องคืนมา
5.ผมไม่เคยด่า หรือว่าคน จึงไปคุยด้วยท่าทางที่ดีกับเต้นส์ทุกครั้งเขาจึงไม่ทำอะไรให้ เฉยๆ
6.ไม่รู้รถอยู่ไหน ทางเต็นส์ไม่บอก
7.คนค้ำประกัน คือพ่อ ซึ่งคุยแล้ว ทางเต้นส์ให้คำตอบเหมือนเดิมจะจัดการให้แต่เงียบ
8.ชื่อในการเช่าซื้อจากธนาคารเป็นชื่อผม
ประมาณนี้ครับที่พอนึกได้
ส่วนผมคิดว่าน่าจะเป็นข้อได้เปรียบของผมคือ
1.บัตรประชาชนที่เซ็นต์โอนลอยหมดอายุแล้ว เพราะผมทำใหม่แล้วครับ ใบใหม่ทางเต้นส์ไม่มี
2.ผมไปเช็คแล้วตีสนิทกับคนดูแลรถจนได้เบอร์คนที่ซื้อรถล่าสุดมาแล้ว จากรายละเอียดคือเขาซื้อได้ไม่กี่เดือน และเขาจ่ายเงินให้เต้นส์ทุกเดือนครับ แปลว่าเต้นส์รับเงินแล้วไม่ไปจ่ายให้ผม เคยมีคนของธนาคารโทรมาหาผมผมให้ข้อมูลไป เขาบอกว่าเขาโทรหาผู้ซื้อแล้ว เขาจ่ายทุกงวดและเขาอยากโอนแต่คงไม่มีเรื่องของ คนค้ำและฐานเงิน สุดท้ายทางเต้นส์ก็โทรไปจัดการอะไรไม่รู้กับทางธนาคารจนเรื่องเงียบไป 2-3 ครั้งแล้ว
3.หวังว่าคงมีทนายที่จะช่วยผมได้ซักคนครับ
รายละเอียดผมอาจจะพิมพ์ไม่เก่ง ผมฝากเบอร์ไว้แล้วกันนะครับ โทรมาได้ครับ หรือ โทรมาแล้วแจ้งว่าเป็นทนายแล้วให้ผมโทรกลับก็ได้ครับ
สิ่งที่ผมต้องการคือ เปลี่ยนชื่อเจ้าของรถ คือไม่ให้เป็นชื่อผมครับ และ เปลี่ยนชื่อคนค้ำไม่ให้เป็นชื่อพ่อ ครับ ต้องการแค่นี้ ที่เหลือยังไงก็ได้ครับ ยินดีเซ้นต์โอนให้ผู้ซื้อรายใหม่ในทุกกรณี ยินดีจ่ายค่าว่าความถ้าจะทำให้ชนะและเปลี่ยนชื่อได้ (ผมไม่ใช่คนรวยแต่จะพยายามหาเงินมาให้ค่าทนาย)



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้โดนเอาเปรียบ :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-07 21:34:51


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2159226)

คุณเป็นผู้เช่าซื้อ คนที่จะมีสิทธิขายรถได้ต้องเป็นเจ้าของครับ คุณเป็นคนครอบครองรถโดยที่ทางผู้ให้เช่าซื้อสัญญาว่าจะให้คุณได้กรรมสิทธิ์เมื่อผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน

การที่คุณโอนลอยไปจึงไม่มีผลใด ๆ และคุณยังไม่หลุดพ้นจากการเป็นคู่สัญญากับผู้ให้เช่าซื้อ(ตามข้อมูลคือธนาคาร) คุณยังมีหน้าที่ส่งค่างวดกับธนาคารจนกว่าจะครบทุกงวดตามสัญญาเช่าซื้อ

การที่ผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือทวงถามคุณมานั้นถูกต้องแล้ว เพราะเขาจะไม่รับรู้ใด ๆ ที่คุณไปตกลงกับเตนท์ เพราะเตนท์ ไม่ใช่คู่สัญญากับธนาคาร เตนท์จะมีเส้นสายอย่างไร ก็คงไม่เกี่ยวกับกรณีของคุณมากนัก เพราะประเด็นสำคัญคือคุณได้ทำการซื้อขายรถยนต์โดยคุณไม่มีสิทธิ ปัญหาคล้าย ๆ กันนี้เกิดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกือบ 50 ปีแล้ว หรือกว่านั้น แต่อาจไม่เป็นข่าวใหญ่เท่านั้นเอง

ที่คุณบอกข้อได้เปรียบว่าบัตรประชาชนของคุณหมดอายุนั้น จริง ๆ คุณเข้าใจผิดครับ ไม่ใช่ข้อได้เปรียบหรอกครับ เพราะตามคำตอบของผมข้างต้น สัญญาระหว่างคุณกับธนาคารยังมีผลบังคับอยู่เขามีสิทธิฟ้องให้คุณชำระหนี้ที่ค้างชำระหรือยึดรถคืนแล้วเรียกส่วนต่างหากไม่สามารถยึดรถได้คุณก็ต้องใช้ค่ารถทั้งคันคือใช้ราคาแทนการยึดรถ

คำแนะนำก็คือ คุณกับคนซื้อรถต้องร่วมมือกันไม่จ่าวเงินให้เตนท์รถเพื่อนำเงินไปปิดกับธนาคารและขอเรียกเงินส่วนที่จ่ายให้เต้นท์ไปแล้ว (คงยากหน่อย) มิฉะนั้นทั้งคุณและคนซื้อก็จะตกอยู่ในที่นั่งลำบากด้วยกันทั้งคู่ รวมถึงผู้ค้ำประกันด้วยครับ การที่ทางทนายความที่คุณไปปรึกษาและได้รับคำแนะนำตามที่เล่ามานั้นถูกต้องแล้วครับ


 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-03-08 08:34:38



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล